ปักกิ่ง, 30 ก.ค. (ซินหัว) — เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (28 ก.ค.) สีจิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน เรียกร้องให้ผลักดัน ‘ธนาคารเพื่อการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานแห่งเอเชีย’ หรือเอไอไอบี(AIIB) สู่การเป็นแพลตฟอร์มใหม่ที่ส่งเสริมการพัฒนาสำหรับสมาชิกทั้งหมดและอำนวยความสะดวกแก่การสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันของมนุษยชาติ
สีจิ้นผิงกล่าวในพิธีเปิดการประชุมประจำปีครั้งที่ 5 ของธนาคารเพื่อการพัฒนาแบบพหุภาคี ที่จัดขึ้นทางออนไลน์
เขาเรียกร้องให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องพยายามผลักดัน ‘เอไอไอบี’ ให้กลายเป็นธนาคารเพื่อการพัฒนาพหุภาคีรูปแบบใหม่ที่ส่งเสริมการพัฒนาทั่วโลก เป็นแพลตฟอร์มการพัฒนารูปแบบใหม่ที่ผันเปลี่ยนไปตามกาลเวลา เป็นสถาบันประสิทธิภาพสูงสำหรับความร่วมมือระหว่างประเทศลักษณะใหม่ และความร่วมมือพหุภาภีในกระบวนทัศน์ใหม่
เอไอไอบีได้รับการเสนอให้ก่อตั้งขึ้นช่วงปลายปี 2013 ก่อนจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือนมกราคม 2016
“ความคิดริเริ่มดังกล่าวได้รับการออกแบบมาเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและการเชื่อมต่อในเอเชียและกระชับความร่วมมือระดับภูมิภาคเพื่อการพัฒนาร่วมกัน” สีจิ้นผิงกล่าว
จากสมาชิกผู้ก่อตั้งที่มี 57 รายกลายมาเป็น 102 รายในปัจจุบัน ซึ่งครอบคลุม 6 ทวีป ทั้งเอเชีย ยุโรป แอฟริกา อเมริกาเหนือ อเมริกาใต้ และโอเชียเนีย เอไอไอบีทยอยสร้างความสำเร็จใหม่ๆ เรื่อยมาและได้มอบเงินลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานให้กแก่บรรดาสมาชิกแล้วเกือบ 20,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 6.28 แสนล้านบาท)
ทิศทางใหม่
“ด้วยจำนวนมิตรสหายและหุ้นส่วนดีที่มีมากขึ้น อันนำมาสู่ความร่วมมือที่มีคุณภาพสูงขึ้น เอไอไอบีจึงได้สถาปนาตนเองขึ้นเป็นธนาคารเพื่อการพัฒนาพหุภาคีอย่างมืออาชีพ มีประสิทธิภาพ และโปร่งใส” สีจิ้นผิงกล่าว
สีจิ้นผิงเน้นถึงประเด็นการรับมือกับโรคโควิด-19 ของทั่วโลกว่าทำให้เห็นถึงความรุ่งโรจน์และความเสื่อมโทรมของมนุษยชาติอย่างชัดเจนในประชาคมที่มีอนาคตร่วมกัน ซึ่ง “การสนับสนุนซึ่งกันและกันและความร่วมมืออย่างแน่นแฟ้นนั้นเป็นทางรอดเดียวเหนือวิกฤตทั้งปวงของมวลมนุษย์”
เขาเรียกร้องให้นานาประเทศดำเนินการกำกับดูแลระดับโลกอย่างครอบคลุมยิ่งขึ้น ส่งเสริมสถาบันพหุภาคีให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และกระชับความร่วมมือระดับภูมิภาคให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น เพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในยุคโลกาภิวัตน์ทางเศรษฐกิจ
เอไอไอบีควรมุ่งมั่นที่จะตอบสนองความต้องการการพัฒนาของสมาชิกทั้งหมดและจัดสรรการลงทุนที่มีคุณภาพสูง ต้นทุนต่ำ และยั่งยืนยิ่งขึ้น สำหรับโครงสร้างพื้นฐานทั้งแบบดั้งเดิมและแบบใหม่ สีจิ้นผิงกล่าว
“สิ่งนี้จะเป็นแรงผลักดันให้เกิดการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในเอเชียและในภูมิภาคอื่นๆ” เขากล่าว
สีจิ้นผิงเรียกร้องให้เอไอไอบีปรับปรุงปรัชญาการพัฒนา รูปแบบธุรกิจ และการกำกับดูแลสถาบันอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งจัดหาผลิตภัณฑ์ทางการเงินเพื่อการพัฒนาที่ยืดหยุ่นและหลากหลาย เพื่อช่วยยกระดับการเชื่อมต่อ ส่งเสริมการพัฒนาสีเขียว และกระตุ้นความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี
นอกจากนี้ เขายังเรียกร้องให้มีการดำเนินงานเพื่อสร้างความมั่นใจว่าการพัฒนาธนาคารเอไอไอบีสู่การเป็นสถาบันที่มีประสิทธิภาพสูงและรูปแบบใหม่สำหรับความร่วมมือระหว่างประเทศจะมีมาตรฐานและคุณภาพสูง ทั้งยังแนะนำให้เอไอไอบีรักษาการเปิดกว้างและความครอบคลุมต่อไป เพื่อสร้างกระบวนทัศน์ใหม่ของความร่วมมือพหุภาคี
หลิวคุน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของจีนกล่าวว่า สีจิ้นผิงตั้งความหวังกับธนาคารเอไอไอบีไว้สูง และให้คำแนะนำที่เป็นรูปธรรมสำหรับการพัฒนา...“คำแนะนำเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงแนวคิดและความรับผิดชอบของจีนในฐานะผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของธนาคารฯ ทั้งยังให้ทิศทางสำหรับการพัฒนาในอนาคตของธนาคาร” หลิวกล่าวกับผู้สื่อข่าวหลังการประชุม
ทั้งนี้ จีนเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของธนาคารฯ โดยถือครองหุ้นราวร้อยละ 30
“จีนจะทำงานร่วมกับสมาชิกคนอื่นๆ เพื่อส่งเสริมเอไอไอบีให้เป็นธนาคารเพื่อการพัฒนาพหุภาคีที่มีประสิทธิภาพสูงในศตวรรษที่ 21 และมีส่วนร่วมมากขึ้นในการกำกับดูแลเศรษฐกิจโลก” หลิวกล่าว
ด้านสวีซิ่วจวิน นักวิจัยจากสถาบันสังคมศาสตร์แห่งจีน (CASS) กล่าวว่าการจัดการประชุมประจำปีของเอไอไอบีมีความจำเป็นอย่างยิ่งในขณะนี้ เนื่องจากจะช่วยระดมความพยายามจากนานาชาติในการต่อสู้กับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่งเสริมการพัฒนาร่วมกันในภูมิภาค และเปิดช่องให้แรงขับเคลื่อนใหม่ๆ ต่อเศรษฐกิจโลก
ยึดมั่นพหุภาคีนิยม
จีนสนับสนุนและปฏิบัติตามแนวคิดพหุภาคีเสมอมา ทั้งยังแสวงหาการพัฒนาส่วนที่เหลือของโลกด้วยจิตวิญญาณแห่งการเปิดกว้างและความร่วมมือที่ให้ประโยชน์แก่ทุกฝ่าย สีจิ้นผิงกล่าว
“จีนจะยังคงทำงานร่วมกับสมาชิกรายอื่นๆ ต่อไปเพื่อสนับสนุนและสร้างความสำเร็จแก่เอไอไอบี และมีส่วนร่วมมากขึ้นในการรับมือกับความเสี่ยงและความท้าทายระดับโลก รวมถึงแสวงหาการพัฒนาร่วมกัน” เขากล่าว
สีจิ้นผิงยังพูดถึงการตอบสนองอย่างรวดเร็วของธนาคารฯ ในการจัดตั้งศูนย์กู้วิกฤตโควิด-19 เพื่อสนับสนุนสมาชิกในการยับยั้งไวรัสและฟื้นฟูเศรษฐกิจของพวกเขาเมื่อเผชิญกับโรคระบาดโควิด-19
“นี่เป็นตัวอย่างที่โดดเด่นของพลังแห่งการกระทำของเอไอไอบี” สีจิ้นผิงผู้เป็นประธานาธิบดีกล่าว
สวีซิ่วจวิน นักวิจัยกล่าวว่าในฐานะที่เป็นธนาคารเพื่อการพัฒนาพหุภาคีที่มีประสิทธิภาพ เอไอไอบีได้จัดสรรความช่วยเหลืออย่างรวดเร็วและแข็งแกร่งแก่บรรดาสมาชิกในการแก้ไขวิกฤตการระบาดใหญ่และการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ
“สถาบันนี้ได้เป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับกลไกพหุภาคีและเพิ่มความเชื่อมั่นแก่ประชาคมระหว่างประเทศในเรื่องพหุภาคี” เขากล่าว
ด้านหลิวคุน รัฐมนตรีกระทรวงการคลังจีนระบุว่าธนาคารฯ ได้ต้อนรับสมาชิกรายที่ 103 ระหว่างการประชุมประจำปีด้วย
“ข้อเท็จจริงล้วนพิสูจน์ให้เห็นว่านี่ไม่ใช่สิ่งที่เกิดจากการเลือกของจีนเท่านั้น แต่ยังเกิดจากฉันทามติของประชาคมระหว่างประเทศที่มุ่งสนับสนุนและปฏิบัติตามแนวคิดพหุภาคีด้วย” หลิวกล่าวกับบรรดาผู้สื่อข่าวหลังการประชุม