รายการ "เรื่องลับมาก (NO CENSOR)" ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 14.20 - 15.00 น. ทางเนชั่นทีวี ช่อง 22 "ดร. เสรี วงษ์มณฑา" เปิดใจ 2 แม่ลูก เคยจน เคยรวยหมื่นล้าน เคยมีหนี้พันล้าน และเกือบคิดสั้นฆ่าตัวตาย "ภุชงค์ สิริธัญผล" หรือ "ภุชงค์ โอมมหารวย" ลูกชาย "แม่นก จันทนา ศิริผล" นักแสดงอาวุโส
ชีวิตตอนเด็ก?
ภุชงค์ : "จำความได้คุณแม่เลิกกับคุณพ่อ ตอนนั้นแม่ท้องได้ 7 เดือน คลอดน้องคนเล็กเป็นน้องสาวในรถตุ๊กตุ๊ก"
แม่นก : "รถเบรกแรงมาก เบรกแบบยกล้อ ลูกหลุดเลย (หัวเราะ)"
ภุชงค์ : "เลี้ยงน้องคนเล็กได้ 1 เดือนก็เลิกกับคุณพ่อ"
ความสัมพันธ์กับแม่เป็นยังไง?
ภุชงค์ : "ติดคุณแม่มาก พอเลิกกับคุณพ่อ คุณแม่ตัดสินใจเอาลูก 3 คนไปฝากไว้ที่โพธาราม ราชบุรี คุณแม่ก็ตัดสินใจเลี้ยงลูกทั้ง 3 คนไม่หวังเงินคุณพ่อ เอาลูกไปอยู่ต่างจังหวัด ตัวเองทำงาน ทำร้านอาหาร พอเก็บเงินได้ก้อนนึงก็ไปทำร้านถ่ายรูป"
แม่นก : "เปิดห้องถ่ายรูปที่วงเวียนใหญ่ ถ่ายเป็นฟิล์ม ขาวดำ เรารับจ้างถ่ายรูป ม้วนละ 700 บาท"
ภุชงค์ : "พอได้เงิน วันดีคืนดีคิดถึงลูก หอบเงิน หอบอาหารไปให้ลูกที่โพธาราม เดินเข้าไปรถก็ไม่มีนะต่างจังหวัด ทีนี้น้ำป่ามันหลาก น้ำมาทะลัก นมข้าวของที่เอามาจะให้ลูกกิน มันไปกับน้ำป่าหมดเลย"
ตอนนั้นทุกอย่างไหลไปกับสายน้ำ?
แม่นก : "อุตส่าห์หอบหิ้วมาจากกรุงเทพฯ มาหมดตรงใกล้จะถึงบ้านถึงลูกนี่แหละค่ะ แต่ก็ต้องลุยโคลนไปหาลูกให้ถึง ก็ไม่เหลืออะไรเลย พัดไปทั้งลังกระดาษ เราใส่แบกลงจากรถประจำทาง แล้วเดินทางตลาดเข้าบ้านเป็นสิบกิโล น้ำป่ามาพอดี"
เข้าสู่วงการแสดงได้ยังไง?
แม่นก : "ตอนนั้นมีพรรคพวกชวนไปเล่น คือคุณแดง เสนีย์ โกมารชุน ชวนไปเล่นหนังก่อน เป็นตัวร้ายคู่กับพี่กรุง ศรีวิไล นางเอกคืออรัญญา นามวงศ์ ต่อมาก็เข้าสมาคมนักแสดงอาชีพแห่งประเทศไทย มาเรียนการแสดง"
เรียนอีท่าไหน เขาฝึกเรียนเป็นคนใช้เหรอ?
แม่นก : "ไม่ค่ะ เป็นนางเอกเลยค่ะ ทางช่อง 3 ประมาณ 4-5 เรื่อง"
แล้วหลุดมาเป็นคนใช้ได้ไง?
แม่นก : "ตอนนั้นอาจารย์สมพงษ์ บอกว่านกเฮ้ย นางเอกเล่นได้ไม่เท่าไหร่ก็หมดยุค ไม่นานก็แก่แล้ว เขามีนางเอกใหม่ๆ มา แต่ตัวตลกมันไม่มี มีแค่พี่ชูเท่านั้น กับพี่อรสา อิศรางกูร แต่เล่นเป็นตัวตลกต้องเป็นคนใช้นะ มันถึงจะตลกได้ และมีเยอะมาก เราต้องเลี้ยงครอบครัวก็เลยยอม"
ลูกไม่ประทับใจที่แม่เล่นเป็นคนใช้ ถูกล้อ?
ภุชงค์ : "ไปโรงเรียน เราพี่น้องสามคนเรียนโรงเรียนเดียวกัน สักพักเขาก็ล้อว่ามาแล้วเว้ยลูกคนใช้ เราก็จิตตก แม่เราไม่ใช่คนใช้ แม่เราเป็นดารานักแสดง เล่นเป็นเพื่อนนางเอก แต่เป็นบทคนใช้ (หัวเราะ) ปรากฎว่าอยู่ๆ ทานข้าว น้องคนเล็กวิ่งมาหาบอกว่าน้องคนรองร้องไห้ ถูกเพื่อนล้อเป็นลูกคนใช้ คนไหนล้อ ก็วางจานข้าวไปต่อยกับเขาที่โรงเรียน"
"ต่อยจนเลือดเต็มเสื้อเลยนะ เพราะมาล้อว่าลูกคนใช้แล้วหัวเราะกัน เราเรียนไม่รู้เรื่อง น้องก็ร้องไห้ ล้อเป็นปี กลับไปบ้านเลือดเต็มเสื้อเลย ผมก็กินข้าวไม่ลง แม่ก็กลับจากถ่ายละคร เรามองคุณแม่ก็ซึม แต่ไม่คุยด้วย แม่ก็ตกใจทำไมลูกเลือดเต็มเสื้อผ้าไปหมดเลย น้องนั่งร้องไห้ ผมก็บอกว่าคุณแม่เลิกเล่นบทคนใช้ได้มั้ย ลูกไม่อยากไปโรงเรียนแล้ว"
"คุณแม่ค่อยๆ ทรุดเลยนะ แล้วบอกว่าจะไม่เล่นบทคนใช้ให้ แม่ไม่เล่นละครแล้ว ไปทำอย่างอื่นกินกัน คุณแม่ก็ร้องไห้แล้วกอดลูกสามคนร้องไห้ อากนกวรรณ ด่านอุดมโทรมา ให้คุณพ่อสะอาด เปี่ยมพงศ์สานต์คุย นกมีละครใหม่มา คุณผู้หญิงทางช่อง 5 รับบทเป็นคนใช้อีกแล้ว คุณแม่บอกว่าไม่เล่นแล้ว ลูกโดนล้อ"
"พ่อสะอาดบอกว่าเรื่องนี้ต้องเล่น เพราะเป็นคนใช้ระดับนางเอก ประกบเศรษฐา อรัญญา นามวงศ์ นกจะดังมาก คุณแม่ก็ขอลูกๆ เล่นอีกเรื่องนึง ลูกๆ ก็ยอม ปรากฎเล่นไปแล้วได้รางวัล ตอนนั้นประมาณ 4 ทุ่ม หนังสือพิมพ์บ้านเมืองเขาจัดรายการ รางวัลตุ๊กตาทองมหาชนฝ่ายหญิงดีเด่นได้แก่ จันทนา ศิริผล จากละครเรื่องคุณผู้หญิงช่อง 5 กองทัพบก เราที่ดูอยู่ก็ร้องไห้โฮ กระโดดกอดกัน"
"ความรู้สึกฟื้นเลยนะ ตอนเช้าไปโรงเรียน ทุกคนไม่กล้าล้อบทคนใช้ ไอ้คนที่ต่อยกับผม ไปหลบเสาเลยนะ แล้วเข้าแถวเคารพธงชาติ มันเป็นความภาคภูมิใจ มีการประกาศต่อหน้าเสาธง ว่าเรามีนักเรียนที่คุณแม่สร้างชื่อเสียงให้โรงเรียนของเรา ได้รับตุ๊กตามหาชน ตบมือให้กับแม่นก จันทนา ศิริผล ยืดเลย ไปโรงเรียนไม่มีใครกล้าล้อว่าลูกคนใช้อีกต่อไปแล้ว"
เข้าวงการมาได้ยังไง?
ภุชงค์ : "ผมตามคุณแม่ไปบ่อยๆ ไปดูดร.เสรี วงษ์มณฑา กำกับการแสดง พี่แซม ยุรนันท์เป็นพระเอก คุณแม่ก็เล่นเป็นคนใช้อีก ตามไปเที่ยวกองถ่าย สมัยนั้นดร.เสรี ฮอตมาก เราไม่ได้เข้าใกล้ได้ง่ายๆ นะ เห็นการทำงานก็ชอบการแสดง ก็ไปกระซิบบอกคุณแม่ ไปฝากช่อง 5 ให้หน่อยสิ อยากเป็นดารามั่ง คุณแม่บอกว่าได้ แต่ห้ามเรียกแม่ ให้เรียกพี่ ก็เลยได้เล่นละครเรื่องแรกขอจำจนวันตายทางช่อง 5 กับท่านผู้พันพยุง พึ่งศิลป์ คนกำกับคนแรก สมควร กระจ่างศาสตร์ หลังจากนั้นไปเล่นกับกันตนากับพ่อประดิษฐ์ กัลย์จาฤก แล้วไปต่อดาราวิดีโอ เล่นมาจนถึงอายุ 40 เล่นจักรๆ วงศ์ๆ สู้กับยักษ์อยู่ในป่า"
ทำอย่างอื่นด้วย?
ภุชงค์ : "ตอนแรกเล่นละครอย่างเดียว อายุ 40 แล้วไม่มีตังค์มากมายแต่ช่อง 7 ให้เงินเยอะนะ เราตั้งใจจะให้คุณแม่พักได้แล้ว เหนื่อยมาเยอะ ก็เลยขออนุญาตช่อง 7 มาทำจิวเวลรี่ เป็นเครื่องประดับ ได้เงินก้อนนึง ไปทำรายการสถานีโทรทัศน์กับเสี่ยเจียง เปิดสถานีโทรทัศน์ดาวเทียมเป็นช่องแรกๆ เลยคือมงคลแชนแนล"
"ไปถ่ายรายการ ถ่ายวัด คุณแม่ก็เป็นผู้จัดด้วย คุณแม่ก็บอกว่าทำบุญสิลูก วัดเขามีวัตถุมงคลอะไรก็ประชาสัมพันธ์ไปเลย ตอนหลังคุณแม่แนะนำให้รู้จัก อ.หนู กันภัย ซึ่ง อ.หนู บอกว่าถ่ายทำรายการเสร็จ เอาเหรียญอาจารย์ไปให้เช่าบูชาสิ อาจารย์จะสร้างหลวงปู่ทวด องค์ใหญ่ที่สุดในโลก ผมบอกไม่ทำหรอก ผมไม่แตะ ผมอยู่สหมงคลฟิล์ม ผมแฮปปี้แล้ว คุณแม่บอกทำเถอะลูก อยากสร้างหลวงปู่ทวด พอคุณแม่บอกตรงนี้ เราก็ร่วมกับอ.หนู กันภัย ปรากฎว่ามันเปรี้ยงเลย ตอนนั้นเป็นบริษัทโอมมหารวย จำกัด"
รายได้ขึ้นถึงหมื่นล้านเลยจริงเหรอ?
ภุชงค์ : "จริงครับ เหรียญยันต์หนุนดวงห้าแถว รายได้ส่วนหนึ่งนำไปสร้างหลวงปู่ทวด โดยไม่ได้รับการบริจาคเลยนะ แล้วไปต่อยอดทำหนังศึกมหายันต์ให้อ.หนู กันภัย บอกชีวประวัติ ทีนี้ก็ยิ่งฮอต แองเจลิน่า โจลี่ก็มาสัก ดาวฮอลลีวูดก็มาสัก จากเหรียญเราก็ไปต่อยอดเป็นนาฬิกา ยันห้าแถว ทีนี้โกอินเตอร์ไปทั่วยุโรป มีรายได้วันนึง 3-5 ล้านบาท"
เวลามีเงินพันล้านหมื่นล้านเข้ามาในบัญชี รู้สึกยังไง?
ภุชงค์ : "พูดต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์และครูบาอาจารย์ ไม่เคยรู้สึกอะไรเลย ไม่เคยจับเงิน กินก๋วยเตี๋ยวข้างทางยังไง ก็ทำอยู่อย่างนั้น ทำตัวง่ายๆ เงินคุณแม่เก็บให้หมด"
แม่นก : "ตู้เซฟ 3 ตู้ เขาบอกว่าเงินไหลทับนี่เรื่องจริงเลยค่ะ เปิดตู้เซฟมันแน่นไงตังค์ มันก็ทับมาเลย เรื่องจริงค่ะ"
ภุชงค์ : "ไปไหนมาไหนคนก็ยกย่องนับหน้าถือตา คนเรียกเศรษฐีพันล้าน ชื่อผมติดอันดับคนที่รวยที่สุดในอายุ 42 เป็นคนที่ 42 ในประเทศไทย ติดอันดับไปเลย"
เจอคู่แข่งมั้ย?
ภุชงค์ : "เยอะ ขณะที่นาฬิกาเราขายเรือนละ 3,900 วันดีคืนดีวัตถุมงคลของอ.หนู ก็ไปขอคุณพ่อทำ ไปอยู่ในเซเว่น ไปขาย 199 เหนื่อยครับ ก็บอกว่าคุณพ่อเราเหนื่อยนะอย่างนี้ คุณพ่อก็น่ารักนะ บอกว่าเดี๋ยวจบหมด ให้เราขายแต่เพียงผู้เดียว ทีนี้วันดีคืนดี คนเคยรวยพันล้าน ได้มีการเปลี่ยนแปลงการปกครอง ทีวีดาวเทียมถูกปิด ของเรามี 15 ช่องไว้ประชาสัมพันธ์ กสทช ก็ต้องปิดไว้ก่อน เพื่อปฏิรูปสื่อใหม่หมดเลย สั่งนาฬิกามาพันกว่าล้าน เรือแทบจะกลับเมืองจีนแทบไม่ทัน เพราะโดนปิดไปในตอนนั้น"
เป็นที่มาของคำว่าหนี้สิน?
ภุชงค์ : "จากที่รวย มีเงินวันละ 5 ล้าน เป็นหนี้ประมาณพันกว่าล้าน น้ำตาซึม แต่คุณแม่มาตบไหล่ว่าเรามาจากศูนย์ เราไม่ต้องกลัว ปลดหนี้ให้เร็วที่สุด คุณแม่น่ารักมากเลยนะ ทรัพย์สินมีอะไรขายไปอย่าให้เสียชื่อเสียง ไปต่อรองผู้หลักผู้ใหญ่เขาซะ คนนี้ร้อยล้าน คนนี้ 50 ล้าน ต่อซะ คุณแม่ช่วยพูดช่วยเจรจาให้ ที่ดิน รถขายหมด ใช้หนี้ทั้งหมดภายในเดือนเดียวพันกว่าล้าน หมดเลย คุณแม่ก็บอกว่ายันต์เรามี ต้องไปเขมร แม่ไปด้วย ขึ้นเครื่องไปด้วยกัน เครื่องบินตกหลุมอากาศ สักพักแอร์ฯ จับประคองมา แม่เดินจับก้นมา"
แม่นก : "ส้วมมันดูดค่ะ (หัวเราะ) เครื่องบินขึ้นๆ ลงๆ เรากำลังนั่ง มันเด้งขึ้นไปแล้วดูดเราเลยค่ะ ไม่รู้อัศจรรย์อะไร เฮือกสุดท้ายฮึดขึ้นมาแล้วหลุด โอ้โห คิดว่าอาจตายได้ เพราะหายใจไม่ออกแล้ว ดีว่าเราก้นใหญ่ ไม่งั้นคงดูดไปทั้งตัว"
หลังใช้หนี้ถึงพันล้าน ฟื้นรวยขึ้นมาอีกได้ยังไง?
ภุชงค์ : "พอไปกัมพูชา เราก็คิดว่าคนกัมพูชาจะซื้อนาฬิกาเราได้หรือเปล่า ราคา 3,900 ก็ไปทำหนังโฆษณาพากย์เสียงกัมพูชา แล้วปล่อยแสงให้ยันต์ออกมา ผมเอาหนังออกอากาศที่กัมพูชาช่อง 3 คนนั่งเหมารถมาเต็มไปหมดเลย ขับเบนซ์มา มืดฟ้ามัวดินเป็นร้อยกว่าคน สายโทรศัพท์กริ๊งๆ ตลอด เขามาสั่งนาฬิกายันต์ 5 แถว ยอดไป 3 ล้านบาททันทีที่ออกอากาศช่อง 3 ค่าออกอากาศตอนนั้นแทบจะไม่เสีย ก็ยกมือท่วมหัว บุญบารมีที่สร้างมา รายได้ส่วนหนึ่งจะทำบุญตลอดชีวิต ไม่อดตายแล้ว"
"ตอนนั้นหมดตัว หมดทุกอย่าง จากที่มีวันละ 5 ล้านบาท แล้วไม่มีรายได้เลย ไปรอดตายที่กัมพูชา แม่ก็กอดลูกว่าแม่ไม่ตายแล้ว แม่บอกไปพม่าต่อ พอออกอากาศเหมือนกัมพูชาเลย คนมาซื้อเต็มเลย เขาควักเงินสดมาจากโสร่ง ก็ได้มา 100 กว่าล้าน ก็กลับมาบูรณะบริษัทที่เมืองไทย เคลียร์ทุกอย่างแล้วฟื้นมา"
มาเจอโควิด เห็นว่ารอบนี้ซึมเศร้าถึงขนาดจะฆ่าตัวตาย?
ภุชงค์ : "เราซึมเศร้าไปเดือนนึง มองไปมันติดเคอร์ฟิว ไม่มีรถวิ่งสักคัน สายโทรศัพท์ที่ดังมันเงียบสงัด ก็คิดว่าตายดีกว่า มันวุ่นวายมาก โดนมรสุมหนักตลอด แล้วเราต้องเลี้ยงแม่ เลี้ยงน้อง แม่เหมือนรู้ ส่งรูปพระมา ชีวิตต้องสู้"
แม่ปลอบใจลูกให้เลิกคิดฆ่าตัวตายได้ยังไง?
แม่นก : "คือเขาหายไปอยู่บนห้องเป็นเดือน ไม่ยอมลงมาทานข้าว แม่ทำกับข้าวลูกก็เงียบไม่ตอบ ก็ส่งรูปสติ๊กเกอร์ขึ้นไปส่งรูปพระอะไรขึ้นไป แล้วไลน์คำพูดว่าเราต้องสู้นะ เราสู้มาตลอด เก็บตัวเงียบแบบนี้แม่ทนไม่ได้นะ ไม่พูดไม่คุย (ร้องไห้) ก็ส่งรูปร้องไห้"
ภุชงค์ : "ที่มีสติ๊กเกอร์ มีคนกดไลค์กดแชร์ โห ทำไมคนกดไลค์ กดแชร์คุณแม่เป็นพัน มันไม่ดูทีวีแล้วไปอยู่ไหนกันวะ บรรลุเลย มันไปอยู่ในโทรศัพท์มือถือ วิ่งมากอดคุณแม่ขอบคุณมาก คุณแม่ก็งงว่าอะไร ก็บอกว่าลูกจะทำโทรศัพท์มือถือ จะสั่งแท็ปแลตมาขาย จะเริ่มต้นใหม่ไม่ซึมเศร้าแล้ว ก็เลยมาขายแท็ปแลต"
นกทันสมัย บอกให้ลูกขายออนไลน์แทนทีวีเหรอ?
แม่นก : "ใช่ และลูกก็เป็นกำลังใจ บอกว่าอายุ 71 ไม่แก่นะ ต้องสู้"
ตอนนี้ฟื้นแล้ว?
ภุชงค์ : "ฟื้นแล้วครับ"
ล้มแล้วต้องลุก อย่าสิ้นหวัง?
ภุชงค์ : "คำนี้กราบเท้าเลยครับ"