“บ๊วย-เรนนี่-อาจารย์เจมส์” ก้มกราบขอขมา “ย่าโม” ด้าน “เรนนี่” นำกล่าวขอขมา ยอมรับผิด เข้าใจผิด บอกเป็นคนโคราชแต่พูดชื่อจังหวัดผิดเป็นนครศรีธรรมราช “บ๊วย” ประกาศเจตนารมณ์ขอทำรายการเพื่อเทิดทูนสถาบันหลักชาติ มอบห้องความดันลบให้ รพ.มหาราช 1.8 ล้าน สู้โควิด
เสร็จสิ้นไปเรียบร้อยแล้วสำหรับพิธีบวงสรวงขอขมาย่าโม-ย่าบุญเหลือ และ ปลัดทองคำ ของรายการช่องส่องผี นำทีมโดย บ๊วย เชษฐวุฒิ วัชรคุณ, เรนนี่ สุระประภา คำขจร และ อาจารย์เจมส์ ศราวุฒิ วรพัทธ์ทวีโชติ ซึ่งได้จัดพิธีบวงสรวงขอขมาที่วัดศาลาลอย และอนุสาวรีย์ย่าโม ท่ามกลางประชาชนที่มาร่วมงานอย่างมากมาย และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มาดูแลความปลอดภัยกว่า 150 นาย
พิธีได้เริ่มขึ้นเวลา 14.00 น. ที่วัดศาลาลอย พิธีกรทั้ง 3 คน ได้มาร่วมพิธีบวงสรวงขอขมา โดยเรนนี่ได้เป็นผู้กล่าวขอขมาคนเดียว แต่ในระหว่างที่กล่าวขอขมานั้นเรนนี่พูดชื่อจังหวัดผิดเป็นจังหวัดนครศรีธรรมราช และได้กล่าวขอโทษที่พูดผิด ด้านบ๊วยก็ให้กำลังใจบอกว่า ไม่เป็นไร จากนั้นทั้ง 3 คน ก็ก้มลงกราบ โดยได้ใช้เวลาในการทำพิธีที่วัดศาลาลอยประมาณ 20 นาที ซึ่งเรนนี่ก็ได้กล่าวคำขอขมาว่า ยอมรับผิด เกิดการเข้าใจในประวัติศาสตร์
“พิธีกรรายการช่องส่องผีและสมาชิกครอบครัวช่องส่องผี พวกเราทั้งหมดขอเป็นตัวแทนครอบครัวช่องส่องผี เดินทางมาเพื่อกราบขอขมาดวงทิพย์ พระยาปลัดทองคำ ดวงทิพย์ท่านท้าวสุรนารี และดวงทิพย์คุณย่าบุญเหลือ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกดวงจิต ที่สถิต ณ สถานที่แห่งนี้ต่อหน้าท่านผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ กำนันผู้ใหญ่บ้านและพี่น้องชาวจังหวัดนครราชสีมาที่เคารพทุกท่าน ที่มีความเคารพและศรัทธาดวงทิพย์ของท่านทั้งสาม”
“ข้าพเจ้าในนามรายการช่องส่องผียอมรับผิดในความเข้าใจที่ผิดพลาด คลาดเคลื่อนไปจากประวัติศาสตร์ บัดนี้ข้าพเจ้าได้เข้าใจแล้ว ข้าพเจ้าต้องกราบขอขมาโทษที่ได้เผยแพร่รายการช่องส่องผีเกี่ยวกับประวัติท่านพระยาปลัดทองคำ ท่านท้าวสุรนารีและคุณย่าบุญเหลือ ที่ได้สร้างความไม่สบายใจให้กับพี่น้องชาวจังหวัดนครราชสีมา ได้โปรดรับทราบและเป็นพยานว่า ข้าพเจ้าเหล่าพิธีกรและทีมงานรายการช่องส่องผีมีความสำนึกผิด พร้อมกันนี้ ได้จัดเครื่องบวงสรวงสักการะอันเป็นมงคลทั้งหลายทั้งปวงนี้ ถวายแต่ดวงทิพย์ท่านทั้งสาม ขอให้ดวงทิพย์ของท่านทั้งสามโปรดยกโทษให้ อโหสิกรรมแก่ข้าพเจ้า และทีมงานช่องส่องผี ณ บัดนี้ เทอญ”
จากนั้นทั้ง 3 คน ก็เดินทางมาทำพิธีขอขมาที่อนุสาวรีย์ย่าโม มีเหล่าประชาชนมาร่วมงานนับพันคน โดยครั้งนี้เรนนี่ก็เป็นคนพูดกล่าวขอขมาคนเดียวเหมือนเดิม และหลังจากเสร็จพิธีบวงสรวงขอขมา บ๊วยก็ได้กล่าวขอบคุณพี่น้องชาวโคราช รวมถึงผู้ว่าราชการโคราชที่ทำให้คนโคราชเข้าใจเจตนารมณ์ของรายการ พร้อมประกาศเจตนารมณ์ของรายการว่า จะทำรายการเพื่อเทิดทูนสถาบันหลักของชาติ พร้อมทั้งบอกว่า เรนนี่เป็นลูกหลานชาวโคราช ประกาศมอบห้องความดันลบเคลื่อนที่ให้โรงพยาบาลมหาราช เพื่อใช้ในการรับมือโควิด-19 ซึ่งบ๊วยก็ได้ประกาศผ่านไมค์ให้พี่น้องโคราชได้ฟังว่า...
“สวัสดีพี่น้องชาวโคราชนะครับ วันนี้พิธีการก็ได้เสร็จสิ้นแล้วนะครับ พวกเราก็ตั้งใจมา ก็ได้มีการพูดคุยทั้งหมด แล้วพวกเราก็ได้กระทำการทั้งหมดแล้วนะครับ แล้วก็ลำดับต่อไปนี้ เราคิดว่าในสิ่งที่เราทำเจตนาของรายการของเรา คือทำรายการมาเพื่อเทิดทูนสถาบันหลักของชาติ ในสิ่งที่พวกเราทำ อยากให้เกิดความสามัคคีความรัก ความสามัคคีที่เกิดขึ้นใดๆ ก็ตามที่เราทำแล้วให้เกิดความรักความสามัคคีเกิดขึ้น เหมือนกับทางท่านผู้ใหญ่ที่เป็นญาติผู้ใหญ่หรือเป็นเครือญาติของท่านย่าโมบอกมา นั่นคือเจตนารมณ์ ผมเชื่อว่าหลายๆ ท่านก็คิดแบบนั้นนะครับ”
“ขอบคุณอย่างแรก ท่านผู้ว่า วิเชียร จันทรโณทัย ที่ทำให้เกิดงานนี้ขึ้นมา ทำให้คนโคราช เข้าใจในเจตนารมณ์เรา รวมถึงคนไทยทั้งประเทศ ที่เข้าใจในเจตนารมณ์ของเรานะครับ วันนี้หลายๆ คนอาจจะยังไม่ทราบ อาจารย์เรนนี่เองก็เป็นคนโคราชนะครับ เกิดที่นี่ แล้วก็เมื่อปลายปีที่แล้วคุณยายของอาจารย์เรนนี่ ก็เพิ่งเสียชีวิตที่โรงพยาบาลมหาราชนครนครราชสีมา ทำให้เราเข้าใจว่า การสูญเสียมันไม่เป็นผลดีกับใครเลย โดยเฉพาะอาจารย์เรนนี่ ซึ่งเป็นพี่น้องหรือว่าลูกหลานโคราช เพราะฉะนั้น ทางรายการช่องส่องผี วันนี้มีเจตนารมณ์ มีความตั้งใจ อยากทำสาธารณประโยชน์ เราพูดคุยกันแล้วปรึกษากันแล้วว่า จะขอมอบห้องแอดมิตความดันลบ ให้กับทางโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ให้สามารถเคลื่อนย้ายไปในสถานการณ์โควิด-19 ที่กำลังเพิ่มขึ้นมา หรือการกลับมาในรอบที่ 2 นี้ เพื่อเป็นสาธารณะประโยชน์ เพื่อเป็นการป้องกันการสูญเสียที่จะเกิดขึ้น ไม่ว่าจะมากหรือน้อยก็ตาม พวกเราก็ไม่อยากให้เกิดขึ้น”
“การมอบครั้งนี้ก็เป็นความตั้งใจของพวกเราครอบครัวช่องส่องผีนะครับ ไม่ใช่ผมคนใดคนหนึ่ง เป็นครอบครัวช่องส่องผีจากทั่วประเทศ ที่ให้เราเป็นสะพานบุญ ในการมอบห้องแอดมิตแรงดันลบ ที่สำหรับเคลื่อนที่ได้ มูลค่าประมาณ 1.8 ล้านบาท มอบให้กับโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา เพื่อใช้เป็นสาธารณประโยชน์ แล้วก็ขอให้ตั้งชื่อห้องนี้ว่า ห้องย่าโมและห้องย่าบุญเหลือครับ สาธุครับ”
หลังบ๊วยพูดจบก็มีกลุ่มคนบุกประชิดตัวบ๊วย ทำให้เจ้าหน้าที่รีบพาบ๊วยและทีมงานกลับขึ้นรถไปอย่างรวดเร็ว ภายหลัง “ดร.นะโม สุขปราณี” เลขาธิการกลุ่มศีลธรรมประเทศไทย ซึ่งมีเครือข่าย 53 จังหวัดทั่วประเทศ ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า อยากให้รายการลบคลิปเกี่ยวกับย่าโมออกให้หมด และไม่รู้ว่าเรนนี่เป็นคนโคราชจริงหรือไม่ แต่ถ้าเป็นคนโคราชจริงๆ อยากให้ครั้งนี้เป็นบทเรียนของช่องส่องผี รวมถึงรายการอื่นๆ ด้วย ต้องศึกษาประวัติศาสตร์ท้องถิ่นนั้นๆ ก่อนนำเสนอทุกครั้ง
“พี่น้องชาวโคราชไม่ต้องการอะไรต้องการคำขอโทษที่ดังๆ ชัดๆ จากดารา นักแสดง และทีมงานช่องส่องผี รวมถึงคุณเรนนี่ที่อ้างตนเองว่าเป็นผู้เสียชีวิตแล้วเกิดใหม่รอบนึง สามารถล่วงรู้ในอนึ่ตบิดเบือนประวัติศาสตร์ย่าโมของเรา ดังนั้น เราไม่อยากให้เป็นตัวอย่างที่ไม่ดีต่อคนรุ่นต่อๆ ไป และทีมงานที่ถ่ายทำรายการอย่างนี้ไม่อยากให้เกิดประเด็นอย่างนี้เกิดขึ้นอีกสำหรับรายการช่องส่องผีถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้ลบคลิปที่ลงไว้ ลบออกทั้งการถ่ายทำด้วยเลยครับ ลบให้หมดเลยครับไม่อย่างนั้นวัน ไม่อย่างนั้นวันดีคืนดีเอากลับขึ้นมาฉายอีก ก็อยากให้ลบคลิปทั้งหมดของย่าโมในประเด็นนี้เราไม่อยากก้าวล่วงในอาชีพเขา แต่ในอาชีพของเขาที่ทำในสิ่งที่มิชอบเราก็อยากให้เขาลบทิ้ง”
ส่วนตัวตนไม่ติดใจแล้วแต่ไม่ทราบว่าคนอื่นจะคิดเช่นไร ยกเป็นบทเรียนของรายการ “ช่องส่องผี” และรายการประเภทเดียวกัน
“ส่วนตัวผม เราคนพุทธนะ ผมเป็นตัวแทนของกลุ่มศีลธรรมประเทศไทยผมเชื่อว่าคนไทยพุทธ เดินทางมานครราชสีมาก็ต้องมากราบไหว้ย่าโมกันทุกคนถามว่าติดใจไหมตัวผมไม่ติดใจ แต่ผมไม่ทราบว่าคนไทยทั้งจังหวัดนครราชสีมาและคนไทยทั้งประเทศจะติดใจหรือไม่ ผมตอบแทนเขาไม่ได้ ก็อยากให้รายการช่องส่องผีได้เป็นบทเรียนหรือเป็นตัวอย่างที่ดีถือว่าเป็นบทเรียนแล้วกันให้เขาระวังหรือแม้แต่รายการอื่นที่จะมาทำอะไรในลักษณะนี้ก็ให้สืบสาวราวเรื่องสืบประวัติท้องถิ่นของแต่ละจังหวัด ประวัติศาสตร์ของแต่ละจังหวัดไม่เหมือนกัน”
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าอยากบอกอะไร “เรนนี่” เป็นคนโคราชแต่มาทำแบบนี้เสียเองเจ้าตัวบอกหากเป็นคนโคราชจริงควรศึกษาประวัติศาสตร์ให้ดีเสียก่อนถ่ายทอดลั่นอยากให้ปรับปรุงตัวใหม่
“ผมก็ไม่แน่ใจว่าท่านเป็นคนโคราชจริงหรือไม่ ที่ทำกระแสออกมาแบบนี้ถ้าเป็นคนโคราชจริงจริงควรจะศึกษาก่อนที่ตัวเองจะทำอะไรลงไปถ้าจะผิดพลาดผมไม่โทษคนใดคนหนึ่งผมโทษทั้งคณะแล้วกันครับทีงานของรายการช่องส่องผีควรจะศึกษาดูแลประวัติศาสตร์ตรงนี้ให้ดีเสียก่อนที่จะถ่ายทอดออกไปในฐานะคนไทยด้วยกันที่นับถือศาสนาพุทธ เราได้ถูกสั่งสอนมาโดยสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าให้ไม่เบียดเบียนซึ่งกันและกันเราก็จะไม่ถือโทษอะไรกัน อยากให้ปรับปรุงตัวใหม่”
