"บ๊วย เชษฐวุฒิ" ท้อถูกเพจดังวอร์จนไม่มีที่ยืน ขนาดวัดยังไม่รับเทียนพรรษา พร้อมโอนเงินคืนให้ทุกคน ต้องตกเป็นจำเลยสังคม ปัดบิดเบือนประวัติศาสตร์ แต่ไม่ขอตอบก้าวล่วงบูรพกษัตริย์ อ้างไม่อยากให้แตกแยก ป้อง "เรนนี่" เห็นผี ถามแต่ไม่เชื่อก็ไม่มีประโยชน์
หลังจากถูกเพจแหม่มโพธิ์ดำเปิดวอร์ออกมาตั้งคำถามเรื่องเงินบริจาครายการช่องส่องผี ที่มี บ๊วย เชษฐวุฒิ วัชรคุณ, เจมส์ ศราวุฒิ วรพัทธ์ทีวีโชติ และ อ.เรนนี่ สุระประภา คำขจร เป็นผู้ดำเนินรายการ ถูกมหกรรมแหกกรณีบิดเบือนประวัติศาสตร์ และก้าวล่วงบูรพกษัตริย์
ล่าสุดหนุ่มบ๊วยได้จัดแถลงด่วนในวันนี้ (3 ก.ค.) ในเวลา 16.00 น. โรงแรม SD Avenue Hotel พร้อมหอบหลักฐานการโอนเงินบริจาคในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา เพื่อชี้แจงความบริสุทธิ์
โดยในครึ่งวันเช้า หนุ่มบ๊วยเข้าไปธนาคารเพื่อทำการติดต่อขอสเตทเมนต์หลังเปิดรับบริจาคเป็นเวลา 2 เดือน โดยแถลงพร้อม อ.เจมส์ และ "บี ปาริกา กองเงิน" ซึ่งเป็นตัวแทนอ.เรนนี่ และเป็นทนายของรายการช่องส่องผี ขณะที่อ.เรนนี่ไม่มาร่วมแถลง เพราะยังติดภารกิจอยู่ที่ จ.เชียงใหม่ ซึ่งภายในงานแถลง บ๊วยแบกเทียนพรรษาที่ตั้งใจถวายวัดมาด้วย แต่ภายหลังจากที่ต้องตกเป็นจำเลยสังคม ทำให้วัดโทรศัพท์มาหา ขอไม่รับเทียนพรรษา พ้อตนทำผิดอะไรถึงทำบุญไม่ได้ ทุกวันนี้ไม่มีที่ยืนแล้ว และพร้อมจะโอนเงินคืนให้ทุกคน ขณะที่มีแฟนคลับมาร่วมแสดงความยินดี มอบช่อดอกไม้ พร้อมบอกว่าดูรายการแล้วทำให้อยากทำบุญมากขึ้น
บ๊วย : "จริงๆ ตั้งใจจะแถลงข่าววันที่ 6 มิ.ย. ก็คือวันเข้าพรรษา แล้วก็ว่าจะชวนถวายเทียนเข้าพรรษาด้วยกัน เราตั้งใจจะเชิญสื่อมวลชนไปทำบุญอยู่แล้ว ก่อนที่จะมีเพจๆ นึงออกมาพูดว่าจะหนักกว่าอีกกรณีนึง สิ่งที่ผมจะพูดต่อไปนี้ก็คือไทม์ไลน์จะไม่โกหกนะครับ ก็ไม่อยากให้ทุกคนคิดไปเอง วันนี้ก็มีผม มี อ.เจมส์ และตัวแทนของ อ.เรนนี่ ซึ่งวันนี้เราไม่มีความตั้งใจแถลงข่าว แต่ผมเกิดผลกระทบเลยจำเป็นจะต้องแถลงข่าวด่วน"
"อย่างแรกคือวันที่เราตั้งใจจะแถลงข่าว วันที่ 6 มิ.ย. อย่างแรกผมยอมรับว่าทุกคนอาจจะไม่ได้รู้จักรายการช่องส่องผี ซึ่งเป็นรายการในยูทิวบ์ เป็นรายการเล็กๆ ที่มีคนไม่ถึง 10 คนเป็นคนทำงาน และส่วนใหญ่ที่เห็นทำงานหลายๆ คนคืออาสาสมัครนะครับ ผมเชื่อว่าหลายๆ คนไม่เคยชม และพอมีข่าวแบบนี้เสี่ยงต่อการเข้าใจผิดได้ วันนี้ผมมาขอชี้แจงในสิ่งที่เหมือนว่าผมเป็นจำเลยสังคมนะครับ ฉ้อโกงบ้างล่ะ ลวงโลกบ้างล่ะ หรืออะไรก็ตามที่ว่ากล่าวต่างๆ นานา ไม่ใช่แค่ทวงถาม แต่ใช้คำหยาบคาย โดยเฉพาะคอมเมนต์ต่างๆ"
"ก่อนหน้านี้ก็มีเพจนึงที่ตั้งชื่อว่า Anti รายการของเราเลย แล้วก็บอกว่าเราบิดเบือนประวัติศาสตร์ ก่อนหน้านี้ที่เราไม่มีการแถลงข่าวหรือมีการพูด เพราะเราตั้งใจชวนนักข่าวทุกคนไปทำบุญร่วมกับเราอยู่แล้ว จะได้เข้าใจว่ากล้องทำงานยังไง ผมเชื่อว่าคนรู้จักผมประมาณหนึ่ง แต่ยังไม่รู้จักเจมส์เป็นยังไง เรนนี่เป็นยังไง เห็นผีจริงหรือเปล่าวะ นี่คือที่ทุกคนกังขาและมีข้อสงสัย แล้วก็พูดกันสนุกปาก ผมเลยอยากชวนให้มารู้จักกันก่อน"
"แล้วบังเอิญแค่ชวนทำบุญนะครับ ยังไม่ได้แถลงข่าว แล้วเพจนั้นก็พูดขึ้นมาว่าขึ้นรถทัวร์มาเลย ขุดให้ลึกถึงแกนโลก ไม่ใช่ผมไม่อ่าน ผมอ่านนะครับ ผมก็เลยบอกว่าถ้างั้นก็ใช้วันที่ชวนทำบุญนั่นแหละแถลงข่าวทีเดียว นักข่าวโทร.หาผมหลายคนผมยังไม่พูดเลย ตอนนี้เหมือนมีหมัดรัวใส่ผมเยอะมาก ผมมึนนะ ตื่นมาผมไม่มีความสุขหรอกครับ"
"วันที่ 6 มิ.ย. ผมก็ตั้งใจชวนไปทำบุญถวายเทียนเข้าพรรษา หลังจากนั้นก็จะถวายเพลร่วมกัน จากนั้นก็แถลงข่าว นั่นคือไทม์ไลน์ ไม่มีเจตนาหลบเลี่ยงแต่อย่างใด และที่ผมสามคนมานั่งอยู่ตรงนี้ ทุกคนก็สงสัยว่าทำไมเรนนี่ไม่มา เพราะเราตั้งใจหยุดถ่ายทำวันนี้อยู่แล้ว วันนี้อ.เรนนี่ไปทำบุญที่เชียงใหม่ ตามกำหนดการเดิมอยู่แล้ว แต่เราจำเป็นต้องด่วนเพราะผมได้รับผลกระทบครับ คือวันนี้ผมถ่ายละครอยู่ที่ปทุมธานี ถ่ายเสร็จตอนเที่ยงผมกลับไปปลูกต้นไม้ที่สวนของผม แล้วผมก็ได้คุยกับท่านเจ้าคุณที่ผมจะไปทำบุญถวายเทียนพรรษา ที่มีประเด็นว่าเงินยกช่อฟ้าล้านนึง ทำไมใบอนุโมทนาบัตรเป็นชื่อตัวเอง เดี๋ยวผมจะเคลียร์ให้ฟัง"
มาแถลงเพราะไม่มีที่ยืน วัดไม่รับเทียนพรรษา ถามสนุกเหรอที่จะเห็นตนฉิบหาย
"ท่านก็โทร.มาด้วยเสียงไม่สบายใจมากๆ ครับ ท่านบอกว่าเรื่องของงานแถลงข่าวน่ะ ไม่มีที่วัดได้ไหม ผมก็รับฟังบอกว่าได้ครับ ท่านก็บอกอีกว่าโยม เทียนพรรษาเนี่ยไม่ถวายที่วัดได้ไหม คือผมซื้อเทียนพรรษามาแล้วครับ ผมก็สงสัยตัวเองว่าผมโดนคดีอะไรวะถึงถวายเทียนเข้าพรรษาที่วัดไม่ได้ ผมผิดอะไรเหรอ ไม่พอครับ ใบอนุโมทนาบัตรที่มียอดหนึ่ง 1,190,000 กว่าบาทเนี่ย ผมแก้ไขแล้วนะครับ มีกระแสสังคมผมอ่านนะครับ ผมคุยกับผู้ที่เชี่ยวชาญ เป็นนักกฎหมายเรื่องสรรพากร ผมคุยแล้ว และเชื่อว่าการมีใบอนุโมทนาบัตรเป็นชื่อบุคคลเป็นเรื่องปกติของสังคมไทย ของดารานักแสดงที่มีชื่อเสียงอยู่แล้ว จะเป็นชื่อใครล่ะครับในเมื่อบัญชีเป็นชื่อผม ใบอนุโมทนาบัตรก็ต้องเป็นชื่อผม เพราะตามกฎหมายของสรรพากรคือรับมา 100 ชื่อบุคคลใดออก 100 จะไม่เสียภาษี"
"แต่ก็มีประเด็นว่าทำไมไม่เป็นชื่ออื่น ยอดโอนมาเท่าไหร่ ยอดกว่าหนึ่งล้านครับจะแจงยังไงล่ะ สิ่งที่ผมกระทบคือผมทำลายศรัทธาที่มีในตัวผม คนที่เป็นครอบครัวช่องส่องผีน่ะ คนไปปกป้องก็ไปด่าเขาอีก ผมก็บอกว่าอย่าเถียงกันเลย เดี๋ยวผมแถลงทีเดียววันจันทร์ที่ 6 แต่ที่ผมมาวันนี้เพราะผมไม่มีที่ยืนครับ ผมถวายเทียนพรรษาไม่ได้ ผมทำบุญไม่ได้ครับ เพราะวัดไม่รับ ต่อไปนี้ช่องส่องผีไปที่ไหน ผมตัวซวยเหรอครับ ผมทำผิดอะไร ทำผิดกฎหมายอะไรครับ ผมเป็นจำเลยสังคมเหรอครับ ทุกคนสนุกมากกับการเสพข่าวว่าไอ้บ๊วยจะฉิบหายเมื่อไหร่เหรอครับ"
ถ้าวัดไม่รับเงิน 1 ล้านจะโอนคืนทุกบัญชี ทุกบาททุกสตางค์ ไม่โกงแน่นอน
"แล้วท่านก็พูดอีกว่าโยม ถ้าเงินหนึ่งล้านกว่าบาทเนี่ย อาตมาขอคืนได้ไหม เขียนเช็คคืนจากทางวัด ใจผมตกไปอยู่ตาตุ่มครับ ถ้าคืนผมต้องโอนคืนทั้งหมดครับ แล้วผมจะบอกเลยว่าถ้าวัดไม่รับ ผมจะโอนคืนให้หมดทุกบัญชีครับ ทุกบาท ทุกสตางค์ แต่ต้องใช้เวลาหน่อยนะครับ ผมไม่โกง และใบอนุโมทนาบัตรที่มีปัญหา ผมก็ขอแก้กับทางท่านว่าเพื่อความสบายใจของทางวัด ว่าให้เป็นบ๊วย เชษฐวุฒิ วัชรคุณ และช่องส่องผี พร้อมเขียนกำกับว่าจะไม่นำใบอนุโมทนาบัตรนี้ไปใช้ประโยชน์ในการลดหย่อนภาษีไม่ว่าใดๆ ก็ตาม ผมจะไปเซ็นชื่อวันจันทร์"
"ผมต้องโอนคืนทั้งหมด เพราะว่ามันผิดวัตถุประสงค์ครับ ที่ช้าเพราะเอกสารมันเยอะมากครับ ตรวจสอบยังไงล่ะครับ ผมก็พร้อมเปิดเผย และผมอัปเดตตลอด สิ่งที่ผมทำช่องส่องผีไม่ใช่แค่รายการทีวีที่หากิน ทุกคนอาจจะยังไม่รู้หรอกว่าผมทำรายการช่องส่องผี จากหนังชื่อช่องส่องผีครับ อ.เจมส์กับผมเป็นเพื่อนนักเรียนด้วยกัน ก็เป็นผู้อำนวยการสร้างหนังเรื่องนี้ ลงทุน 8 ล้าน แต่ผมรู้สึกว่า 8 ล้านนี่เจ๊งแน่นอน ผมพูดได้เลย แล้วผมเห็นเพื่อนมีกล้องส่องผี ผมทำโปรดักชั่นอยู่แล้ว ผมก็มาช่วยเพื่อน ค่าตัวไม่คิด ผมก็อยากช่วย แล้วก็เอาอ.เรนนี่มาเป็นที่ปรึกษาด้วย ก็เลยทำให้เรามาเจอกันครับ"
ลั่นรายการคือชีวิต เกิดการเปลี่ยนแปลงถือศีล 5 ตลอดชีวิต ไม่มีเจตนาทำขึ้นมาเพื่อรับบริจาค
"จุดประสงค์แรกที่ทำคือต้องการช่วยเพื่อน จุดประสงค์ต่อมาคือผมมีการเปลี่ยนแปลงในตัวเอง ผมถือศีล 5 ตลอดชีวิต เพราะมันมีประสบการณ์ส่วนตัวครับ ผมเจอเรื่องราวที่ทำให้ผมต้องถือศีล 5 ตลอดชีวิต รายการมันส่งผลต่อชีวิตผม ต่อคนรอบข้าง แล้วรายการก็โตมาเรื่อยๆ ผมไม่มีเจตนาทำรายการเพื่อมารับบริจาคแบบนี้ รายการช่องส่องผีคือชีวิตของผมครับ มันคือชีวิตที่นำเสนอบาปบุญคุณโทษ มาว่าบิดเบือนประวัติศาสตร์ ผมเข้าใจครับ ถ้าเกิดคุณไปฟังตลอดทั้งเทปว่าประวัติศาสตร์เป็นแบบนี้ ผมศึกษามา แต่เราจะนำเสนอในมุมของเรา ขอโทษด้วยนะครับ (ยกมือไหว้) ขอโทษจริงๆ ที่มันไปกระทบความเชื่อส่วนบุคคลของใครก็แล้วแต่ ผมบอกสมอว่ามันคือความเชื่อส่วนบุคคล ผมบอกว่าของเก่าเป็นแบบนี้นะ”
รับทำเหรียญขายเพราะทุกรายการต้องมีเงินใช้ แต่ไม่ได้ขายโอเวอร์ถึงหลักหมื่น แต่คนไปปั่นราคากันเอง
“แม้กระทั่งวัดกุฎีดาว ผมก็บอกว่ามันมี 3 ตำนานแบบนี้ๆ แต่สิ่งนึงที่คุณลืมดูว่ารายการช่องส่องผีสร้างอะไรบ้าง คนไม่ฆ่าตัวตาย คนถือศีล 5 หรือคนมาสวดมนต์ ผมพาคนไปสวดมนต์ทุกวันอาทิตย์เพราะชีวิตผมดีขึ้นจากการสวดมนต์ เข้าวัดเข้าวา ถึงบอกว่ามันไม่ใช่แค่รายการ เหรียญขายจริงครับ คำถามคือสื่อทุกสื่อต้องมีสปอนเซอร์ไหมครับ ต้องใช้เงินไหมครับ อันไหนขายเราก็บอกว่าขาย ไม่เถียง แต่ที่บอกราคาเป็นหมื่นไม่ใช่ มันแค่ 299 ครับ ใส่กล่องอย่างดี ซื้อหนึ่งเหรียญเหมือนได้สองเหรียญ แต่เขาไปปั่นกันเอง อ.เจมส์ยังบอกเลยว่าอย่าซื้อนะ ตอนนี้ราคามันสูงเกิน เพราะเขาเป็นกูรูด้านเหรียญ”
ผิดอะไร ทำบุญไม่ได้ ต้องดอนเงินคืนทั้งหมดถ้าวัดไม่รับ
"แต่ทุกอย่างผมผิดอะไรครับ ผมทำบุญไม่ได้ ผมต้องโอนเงินคืนทั้งหมดถ้าวัดไม่รับนะ ผมไม่ได้กดดันใครนะครับ แต่มันเป็นผลกระทบที่ผมได้รับจากเพจที่ไม่มีตัวตน แต่ผมมีลูก มีพ่อมีแม่ วันนี้พ่อแม่ผมก็มา ทุกคนเปิดหน้าหมด แล้วคนก็ไปเอาข้อมูลมา ถามหน่อยว่าข้อมูลนั้นเช็กความถูกต้องหรือยัง แล้วคุณไปเอาข้อมูลจากคนที่ไม่ชอบผม จากเพจ Anti รายการบิดเบือนประวัติศาสตร์ ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่า Anti แต่ผมถูกตัดสินไปแล้วจนผมไม่สามารถทำบุญได้ แล้วเทียนพรรษานี่ผมจะไปถวายที่ไหน"
"การทำรายการทั้งหมดไม่ได้ตั้งใจรวบรวมเงิน อย่างตอนไปถ่ายรายการที่วัดมโนภิรมย์ ที่มุกดาหาร ลองไปดูเทป พระท่านก็บอกว่าวัดนี้ไม่มีกฐินมาแล้ว 3 ปี เราก็รับปากเป็นเจ้าภาพในกฐิน ผมผิดตรงไหนครับ เป็นเจ้าภาพปกติต้องแจกซองใช่หรือไม่ แต่เดี๋ยวนี้ยุคใหม่แล้วผมก็ประกาศ มันมีสลิปชัดเจนไง ดูได้ ยอดอนุโมทนาบัตรเมื่อปีที่แล้วทำไมถึงไม่ดูล่ะ มีอยู่แล้วนะ 2 ล้านบาทถ้วน ผมไม่ได้ตั้งใจเพื่อรับบริจาคเงิน แต่เมื่อรับปากเป็นเจ้าภาพไปแล้ว ผมไม่ได้เรี่ยไรว่าทุกคนต้องเท่านี้ ประธานเท่านี้ คือแต่ละยอดโอนมีเยอะมาก หลักสิบ หลักร้อย แต่เราได้ทำบุญใหญ่ร่วมกัน"
ถูกทำลายโดยคนที่ไม่มีตัวตน หมดที่ยืนแล้ว
"ผมบอกเสมอว่ารายการผมเป็นความสามัคคีเล็กๆ ที่รวมกันทำบุญใหญ่ได้ อย่างยกช่อฟ้า วันเดียว 1.1 ล้านครับ ทำไมผมทำได้ เพราะว่าเขาเชื่อในตัวผม แต่ผมถูกทำลายด้วยใครก็ไม่รู้ ไม่มีตัวตน ผมคิดในใจนะ ถ้าไม่ได้ผมก็กลับไปอยู่สวน มันหมดที่ยืนแล้ว ผมเคยหย่า ทุกคนด่าผมทั้งประเทศ ผมพัง ผมรู้ แม่_โคตรเจ็บ ผมเชื่อว่าทุกคนเห็นการเปลี่ยนแปลงของผม โปรดใช้สิ่งที่เห็น อย่าใช้อะไรก็ไม่รู้มารุมด่าเพื่อมาตัดสินผม"
"ผมรายงานตลอดตามไทม์ไลน์ ไม่ว่าจะเป็นทางไอจี เฟซบุ๊ก ผมว่านักข่าวสืบได้ ผมอัปเดตตลอดอยู่แล้ว และไปแต่ละที่ ยอดไม่ใช่เงินผม ผมไม่ได้อ้างว่าเป็นใครก็ตาม ไม่ได้มีอิทธิพล ไม่มีผลประโยชน์ส่วนตัว รายการผมบอกเรื่องบาปกรรม บาปบุญคุณโทษ เอาไปบาทนึงยังเป็นเปรต ถ้าผมทำผมไม่มีหน้ามาพูดหรอก ผมเคยได้รับบาดเจ็บจากการซ่อนเร้นอะไรบางอย่างมาแล้ว ผมไม่มีทางทำลายตัวเองแน่นอน ผมจำได้ มันจำอยู่ในหัวใจเลยครับ ผมก็เลยไม่อยากพูดโดยที่สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ สื่อมวลชนที่โทร.มาถามผม ผมเลยถามว่าเคยดูรายการไหม บอกว่าไม่เคยดู อ้าวไม่ดูรายการก็ตัดสินเราไปแล้วตามข่าวสิ"
เผยเรื่อง อ.เรนนี่ เป็นประสบการณ์ส่วนบุคคล ย้ำเสมอให้ใช้วิจารณญาณในการรับชม บอกดีใจมากเป็นคนแรกที่ผิดจนทำบุญไม่ได้
บ๊วย : "เรื่องอ.เรนนี่เนี่ย เรื่องบางเรื่องมันเป็นประสบการณ์ส่วนบุคคล ผมย้ำเสมอว่าโปรดใช้วิจารณญาณในการรับชม เรื่องเหล่านี้กระทบไปถึงช่องที่กรุณาเอื้ออารีเห็นว่ารายการมีประโยชน์นำไปออกอากาศ แล้วกสทช.เรียกจริง แต่ผมไม่รู้ กระทบคือผมทำบุญไม่ได้ มีไหมประเทศนี้ที่ผิดจนทำบุญไม่ได้ ผมว่าผมเป็นคนแรก ผมดีใจมากเลย”
อ.เจมส์ : "ที่เราช้านิดนึงเนื่องจากว่าเมื่อวานนี้เพิ่งได้เอกสารของสเตทเมนต์ส่วนหนึ่ง ก็ประมาณ 4,000 หน้า ทั้งหมดนี้สามารถดาวน์โหลดผ่านคิวอาร์โค้ดนี้ได้เลย ใครที่สงสัยในตัวพี่บ๊วยว่ามีเอาไปใช้ส่วนตัวไหม สามารถดูได้ เพราะว่าสเตทเมนต์ในการโชว์มีโชว์ทั้งทางเข้า ทางออกไปบัญชีไหน เบิกยอดเท่าไหร่ อย่างกรณีวัดมโนภิรมย์ พี่บ๊วยเบิกยอดล้านกว่านะ แต่ที่วัดสรุปสุดท้ายมาสองล้านเศษ แล้วก็มียอดล้านเศษๆ ถ้าสงสัยผมพร้อมเปิดให้ดูเลย ผมอยากให้รายการผมเป็นบรรทัดฐานของสังคม ผมทำเพื่อส่วนรวม คุณทำแบบผมไหม เอาสเตทเมนต์มาโชว์ ตรวจสอบได้อยู่แล้ว ผมสแกนไปแล้วประมาณ 4,000 หน้า เหลืออีกประมาณ 2,000 หน้า ผมอยากให้เสร็จภายในคืนนี้ พรุ่งนี้เช้าทุกคนจะดูได้"
ไม่ต้องกลัวโกง รับท้อ ปวดหัวทุกวัน
บ๊วย : "ไม่ต้องกลัวว่าจะโกง ผมบอกแล้วรายการนี้คือชีวิต แต่มาว่าโกงบ้าง ลวงโลกบ้าง จินตนาการว่ามีคนมาว่าคุณแบบนี้ทุกสื่อ ทุกเมนต์ คุณจะรู้สึกยังไง ไม่ต้องห่วงว่าผมจะลวงโลกนะครับ เช็กสรรพากรรู้ได้อยู่แล้ว ตอนแรกท้อใจนะ ปวดหัวทุกวัน ผมผิดขนาดไหนเหรอพวกเราถึงทำบุญไม่ได้”
ไม่คิดฟ้อง อ.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์
อ.เจมส์ : "เรื่องกล้อง ผมไม่เถียงอ.เจษฎา ในมุมมองของนักวิทยาศาสตร์นะ ก็ขออนุญาตที่เอ่ยนามท่าน แล้วผมก็ไม่เคยคิดจะฟ้องอะไรแก เพราะว่าท่านก็พูดถึงกล้องในลักษณะแบบนี้มาประมาณปีนึงแล้ว ผมก็เห็นด้วยกับสิ่งที่แกพูด แต่ว่าสิ่งที่มันมีปัญหามันไม่เหมือนสิ่งที่แกเข้าใจ ใหม่ๆ ผมก็ไม่ได้เชื่อว่าเซนเซอร์ประเภทนี้ทำงานแบบนั้นได้ แต่ผมอยู่หน้างาน สิ่งที่อ.เรนนี่พูด กับกล้องที่ผมเห็นมันบังเอิญเกินไปทุกครั้ง มันเยอะจนผมเชื่อว่ามันมีความเป็นไปได้ที่มันจะจับสิ่งบางอย่างที่ผมพูดในรายการ”
"เราไม่มีความจำเป็นที่ต้องโกหกใคร หลายๆ คนที่ร่วมในรายการหรือเข้ามาดูตอนที่เราไลฟ์สดแรกๆ บางครั้งก่อนโควิด บางทีมากันเป็น 100 คน เขาก็เห็นว่ามันไม่มีซีจีครับ ผมก็เอากล้องโกโปรถ่าย ถามว่าอภินิหารไหมผมไม่รู้ แต่มันอธิบายไม่ได้ ผมอยากให้ทุกคนไปดูเทปวัดมหาบุศย์ ผมมีมีดหมอลงอาคม บอกขอให้ย่านาคเลือกหน่อยว่าอันไหนดีบ้าง มันก็เป็นภาพที่เป็นโครงร่างลงมาแล้วก็เลือกมีด คนที่ไปก็เห็นแบบนั้น มันแปลก นี่คือสิ่งที่ทำให้คนที่มาร่วมรายการเชื่อว่ามันเป็นไปได้ แบบที่เราบอก"
"แต่อันนี้มันไม่ใช่สิ่งสำคัญเลย เพราะหลายๆ คนก็เอากล้องมือถือธรรมดาถ่ายก็ติดวิญญาณ ผมว่ามีเป็น 100 เป็น 1,000 ภาพ มันก็ต้องไปอยู่ในสถานที่มีแบบนั้น ผมก็ไปถ่ายที่มันเป็นสถานที่มีประสบการณ์เกิดขึ้นอยู่แล้ว มันก็มีโอกาสที่จะติด แต่ผมพอจะแยกออกจากการที่ทำรายการมา แล้วเราก็ไม่ได้งมงาย เราใช้ทุกอย่างที่มีเป็นวิทยาศาสตร์ แต่สุดท้ายเรานำเสนอเรื่องของบาปบุญคุณโทษให้เข้าใจ"
"ผมศึกษาเรื่องประวัติศาสตร์เยอะ เวลาผมไลฟ์สดหรือถ่ายรูป หนังสือบ้านผมเยอะมาก ผมก็มีข้อมูล เพียงแต่ว่าบางอย่างเรื่องราวในอดีต คนที่เขียนบันทึกก็ไม่ใช่คนที่เจอโดยตรงทั้งหมด พงศาวดารหลายๆ เล่มเขียนเมื่อตอนต้นกรุงรัตนโกสินทร์ แต่คุณเขียนเรื่องราวย้อนลงไป 700 ปีหรือ 200-300 ปี ไม่ใช่ว่าผมไม่เชื่อนะ ผมเชื่อ เพราะผมอ่านเยอะ แต่ผมรับรู้เป็นข้อมูล สิ่งที่ผมต้องการจากพงศาวดารคือพงศาวดารประวัติศาสตร์ที่เจ็บปวดสอนอะไรเรา"
บ๊วย : "คนอาจจะกล่าวหาเราว่าพูดไม่ตรง แต่สิ่งที่นำเสนอลองดูดีๆ หัวใจของการนำเสนอคือเราเรียนรู้อะไรจากเรื่องราวเหล่านี้ ประเด็นเปรตมีไม่มี ผมไม่รู้หรอก แล้วผมถูกทวงถามแบบนี้หนักมาก ผมผิดอะไรเหรอ เอาให้ตายเลยเหรอ ผมไม่มีที่ยืนเลยนะครับ ผมพยายามพูดอะไรที่ไม่เกินพุทธศาสนา ผมก็ต้องอ่านเยอะขึ้น ปฎิบัติตัวเปลี่ยนแปลงมากขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับการทำรายการ ผมบอกเสมอว่า ผีจะมีจริงหรือไม่ ไม่ใช่เรื่องสำคัญ แต่กฎแห่งกรรมมีจริง และหนึ่งดวงจิตไม่ได้จบเพียงแค่ความตาย สุดท้ายแล้วเราจะภาคภูมิใจในการเป็นคนไทย ภูมิใจในสิ่งที่บรรพบุรุษ บูรพกษัตริย์ท่านฝากทิ้งไว้"
ไม่ต้องการพิสูจน์ เรนนี่เห็นผีจริงหรือไม่ ซัดไม่เชื่อก็ไม่ต้องดู
บ๊วย : "เพจนึงเขียนว่า เราต้องเหยียบไอ้รายการนี้ เพราะพอคนท้วงติงก็ไปฟ้องเขา ถามว่าท้วงติงคืออะไร แต่ข้อความที่เขาเขียนคือช่วยหยุดรายการที่หลอกลวงประชาชนสักที นี่ท้วงติงเหรอครับ ฉะนั้นเราเอาคำพูดของคนที่ไม่เห็นหน้าแถมประกาศตัวชัดเจนว่าอยู่ฝั่งตรงข้าม แถมเราเสพข้อมูลเขา แล้วตัดสินผม ผมก็ผิดอยู่แล้วครับ เรนนี่จะเห็นผีหรือไม่ ผมไม่ได้ต้องการพิสูจน์ มันเป็นความเชื่อส่วนบุคคล แต่ผู้หญิงคนนึง อายุ 30 ต้นๆ เรียกเขาอีบ้างล่ะ ด่าพ่อแม่บุพการีเขา ถ้าเป็นน้องเราจะทำยังไงล่ะ ไม่เชื่อก็ไม่ต้องดู ไม่เป็นไร ถ้าเกิดผิดกฎหมายก็แจ้งความ ท้วงติงที่ใช้คำสุภาพ พูดกันดีๆ และที่บอกว่ากรมศิลปากรมีจดหมายบอกว่าผมบุกรุก ลองดูนะครับ (อ่านจดหมายจากกรมศิลปากร) ชื่อเรื่องว่าขอแจ้งเรื่องการใช้สถานที่โบราณสถาน นี่คือบุกรุกเหรอครับ"
อ.เจมส์ : "เรื่องนี้คือที่เราไปหล่อพระที่วัดกระซ้ายนั่นแหละ ซึ่งเดิมก็มีพระพุทธรูปใหม่วางอยู่แล้ว และสิ่งที่เราได้รับทราบจากที่เราไปทำรายการก็คือ สิ่งศักดิ์สิทธิ์อยากให้เราหล่อพระ เราก็จะหล่อพระไปตั้ง และผู้ใหญ่ในพื้นที่ส่งจดหมายมาเตือนท่านก็ทำถูกแล้ว และอีกเรื่องก็คือแจ้งระเบียบการถ่ายทำสารคดีในเขตโบราณสถานนะครับ ลงวันที่ 2 มิ.ย. อันนี้ท่านก็ทำถูกแล้วล่ะ ผมก็ขอน้อมรับผิดในกรณีที่ถ่ายที่วักกุฎีดาว เป็นเทปแรกที่เราไปถ่ายสถานที่โบราณ"
"ผมก็สอบถามข้อมูลว่าวัดนี้เข้าไปถ่ายได้ไหม เขาก็บอกว่ามันไม่มีใครเฝ้า ไม่รู้จะถามใคร กลางคืนก็ไม่มีคนเฝ้า แต่ก็มีบ่อยๆ ที่มีคนเข้าไปนั่งสมาธิ ไปเดินจงกลมตอนเที่ยงคืน บางทีหลวงพ่อวัดตรงข้ามก็มาแผ่เมตตา เดินจงกลมกลางคืน ก็เลยคิดว่าเราก็น่าจะถ่ายได้นี่หว่า อันนี้คือความคิดโง่ๆ ของผม ผมก็น้อมรับ ผมก็เรียนผู้ใหญ่ว่าการที่ผมไปถ่ายครั้งนี้สร้างความเสียหายในเรื่องของ หรือมีเอฟซีเราไปทำอะไรให้เสียหาย ผมยินดีที่จะเข้าไปดำเนินการจัดการให้มันเรียบร้อยถ้ามันมีค่าใช้จ่าย"
อ้างไม่ทราบพื้นที่ร้างๆ ต้องขออนุญาต คิดว่าเดินเข้าไปได้เลย
อ.เจมส์ : "แต่มันมีหนังสือลงวันที่ 9 มี.ค. 63 เป็นหนังสือที่พี่บ๊วยทำหนังสือส่งไปที่อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา เพื่อขออนุญาตถ่ายทำรายการวันที่ 27 ก.พ. ที่บริเวณวัดราชบูรณะ อันนี้คือหนังสือที่ตอบกลับจากกรมอุทยานว่าทางอุทยานพิจารณาเอกสารแล้ว ขอให้ท่านใช้สถานที่อื่นที่ไม่ใช่โบราณสถานสำหรับการถ่ายรายการ อันนี้เราก็เริ่มฉลาดแล้วว่าสถานที่มันถ่ายไม่ได้ พอท่านไม่อนุญาต ผมก็ไม่ได้ไปถ่ายนะครับ นี่ก่อนหนังสือเตือนจะมาอีก คือผมไม่เคยทำรายการ ผมทำงานอย่างอื่นมา ผมอยู่เรือ ผมเป็นอาจารย์สอน บางเรื่องผมก็ไม่ทราบว่าพื้นที่ร้างๆ มันต้องขอ ผมก็นึกว่าพื้นที่ร้างๆ เดินเข้าไปได้เลย"
"อย่างวัดกระซ้าย ผมก็ถามคนที่ดูแลพื้นที่ เขาก็บอกว่าเข้าไปถ่ายได้ แล้ววัดกุฎีดาวผมก็เห็นมียูทูปเบอร์ไปถ่ายกันเยอะแยะไปหมดเลย แล้วกรณีคนอื่นไปถ่ายนี่ขออนุญาตหรือเปล่าครับ หรือถ้าวันนึงผมอยากจะทำสกู๊ปข่าวลงพื้นที่เหมือนที่พี่ๆ นักข่าวลงพื้นที่ไปวัดกระซ้ายนี่ต้องขออนุญาตหรือเปล่า ผมต้องมีสคริปต์ไหมว่าผมต้องไปสัมภาษณ์ใคร เราไม่เคยคิดที่จะทำอะไรละเมิดกฎหมาย เพราะเมื่อไหร่ที่เราอยู่เหนือกฎหมายมันก็ไม่ถูกต้อง เราทุกคนต้องทำตามกติกาของสังคมถูกไหมครับ"
ฟุ้งทำให้เกิดเศรษฐกิจชุมชน วอนให้ไปดู before - after
บ๊วย : "บางที่ที่พวกเราไป แล้วหลังจากนั้นมันทำให้เกิดเศรษฐกิจชุมชนครับ คนมาทำบุญกัน การที่ผมไปทำนี่ไม่ได้อวดอ้างหรือทวงนะครับ แต่อยากให้ไปดู before - after มันมีการพัฒนาธุรกิจฐานราก แต่เขาบอกสิ่งของเสียหาย ชาวบ้านเดือดร้อน ชาวอยุธยาเดือดร้อน เหมาอย่างนี้เลยเหรอครับ”
เผยโอนหมดบัญชี 28 ล้านภายในวันเดียวเพราะกลัวสรรพากร
บ๊วย : "คือรายการเราไม่ได้ทำเพื่อรับบริจาค ผมเลยทำบัญชีเดียว ผมก็กลัวสรรพากรเหมือนกัน”
อ.เจมส์ : "เรากลัวเรื่องดอกเบี้ยสะสมด้วย อย่างบัญชีพระเจ้าตากกว่าจะสร้างเสร็จมันใช้เวลานาน เพราะฉะนั้นดอกผลที่ได้จากบัญชีพระเจ้าจาก ยอด 11 เกือบ 12 ล้านมันควรอยู่ในบัญชีนั้น เพราะวัตถุประสงค์ของคนที่บริจาคในการจัดสร้างสถูปตรงนี้ด้วยกันมันควรอยู่ในนั้น ผมเลยบอกพี่บ๊วยว่าให้เปิดแยกบัญชีเลย เพราะบางรายการที่เราทำบุญกันไปแล้วมันยังมีเรื่องของหมายเลขบัญชีอยู่ในออนไลน์ เดี๋ยวคนจะเข้าใจผิดแล้วโอนมาอีก ก่อนที่จะมีดรามาครั้งแรก พี่บ๊วยก็เลยเปิดบัญชียกช่อฟ้าที่วันเดียวล้านกว่าบาทน่ะ ผมบอกว่าถ้ารับบริจาคเสร็จก็ปิดบัญชีเลย"
บ๊วย : "วันนั้นคือวันที่มีดรามาพอดี ผมก็เลยโอนหมดเลย เพราะผมกลัวสรรพากร ก็เลยเปิดบัญชีเดียว พอจบก็ปิดยอด"
อ.เจมส์ : "ปิด แต่ยังไม่ได้โอนไปไหน แค่เปลี่ยนบัญชี จะได้รู้ว่าเงินสถูปพระเจ้าตาก 11 ล้านอยู่ตรงนี้ครบ มีสเตทเมนต์ แล้ววันที่ 28 ก.ค. ยอด 4 ล้านเศษ เราก็ตั้งใจทำบุญเนื่องในวันเฉลิมท่าน เราต้องการยกผลบุญถวายเป็นพระราชกุศลให้ท่าน เราถึงเลือกวันที่ 28 ก.ค. พอวันนั้นปุ๊บยอดนี้ก็หายไป ปิดบัญชีเลย"
ยันตั้งใจจะโอนอยู่แล้ว ไม่ได้ตั้งใจโอนสยบดรามา
บ๊วย : "ที่ถามว่าทำไมต้องทำวันดรามา คือเราตั้งใจทำอยู่แล้ว ถามว่าโอนสยบดรามาใช่ไหม ไม่ใช่ครับ แต่มันจะได้ชัดเจน เพราะยอดมันตรง ผมอัปเดตตรง ไปนั่งไล่ดูยูทิวบ์ก็ได้ ผมเลยไม่ได้กังวลอะไร พอมีดรามาพอดีก็ทำเลย จะได้ชัดเจน แล้วก็มีกองทุนโควิด ที่เอาชื่อบัญชีเป็นชื่อผม ผมก็เอาชื่อตัวเองการันตี ยอด 13,165,811.28 บาทใช้ไปแล้ว 8,042,274.99 บาทตลคงเหลือ 5,123,536.29 บาท ตอนนี้ผมก็เลยแยกมันชัดเจน เพราะว่าสถูปพระเจ้าตากเริ่มสร้างแล้ว มีการจ่ายสถาปนิด จ่ายค่างวดต่างๆ ผมเลยต้องแยก ไม่งั้นผมจะงงเอง ก่อนที่ผมจะโอนผมก็ต้องเช็กว่ายอดตรงไหม"
"เราตั้งใจโอนวันนั้นอยู่แล้ว แต่คิดว่าไม่ต้องรีบมาก เพราะเคลียร์เลขตรง กว่าจะตรงได้ใช้เวลานะครับ เพราะมียอดเกิน 2 พันกว่าบาท บางคนบอกว่าเราหวังดอกเบี้ย ยอด 2-3 พันกว่าบาทครับ ยอด 28 ล้าน ถามว่ามีบัญชีเดียวหรือหลายบัญชี คือบัญชีเดียวกันที่มีอยู่ 25 ล้านมีทั้งกฐินวัดแก้วฟ้า มีทั้งสถูปพระเจ้าตาก มีทั้งทำบุญเด็ก มีทั้งผ้าป่าวัดมโนภิรมย์ มีทั้งกองทุนโควิด มันเลยเป็นยอด 25 ล้าน วันที่ผมปิดยอดเลขมันตรงนะ เพื่อความชัดเจนผมเลยแยกออกมา ไม่งั้นเวลาจะแยกไปใช้อันไหนมันจะงง เวลาคนโอนมาเราก็จะทราบว่าเขาโอนมาเพื่ออันไหน เพราะเราจะบอกก่อนเลยว่ากองนี้ปิดแล้วนะ ถ้าใครโอนมาอีกจะไปสมทบยอดกองนี้นะ เราประกาศก่อนเลย"
อ.เจมส์ : "ตอนนี้เราก็กำลังรวบรวมเอกสารยื่นจดเป็นมูลนิธิไปเมื่อวันที่ 2-3 มี.ค. ที่เขตบางขุนเทียน"
บ๊วย : "ผมคิดว่าการจดเป็นมูลนิธิมันง่ายกว่าการเป็นชื่อบุคคลนะ ผมก็กลัวจริงๆ แต่ทีนี้ใครจะพูดว่ามูลนิธิมันจะยิ่งตรวจสอบไม่ได้ ผมว่าอันนี้อาจจะเข้าใจผิด ในมุมมองผมนะ ผมอาจจะโง่กว่าก็ได้ครับ"
บี : "ส่วนที่คนสงสัยว่าโอนไปบัญชีเดียวโดยที่ยังไม่ได้แยกบัญชี คือบัญชีเริ่มต้นที่มีเงินก้อนใหญ่ 28 ล้านสมมตินะคะ แล้ววันที่ 1 มันมีการที่จะแยกบัญชีอยู่แล้ว พอลงตัวว่าเราจะโอนกัน แยกบัญชีไปว่าอันนี้อยู่บัญชีนี้ เราก็จะได้โอนเงินแยกไปตามบัญชีต่างๆ ซึ่งแต่ละบัญชีคุณก็สามารถตรวจสอบได้"
บ๊วย : "ต้องโอนวันที่ 1 เพราะมันมีดรามาพอดี แล้วเรายังไม่ได้โอนไปบัญชีไหนเลย แค่เปลี่ยนบัญชีแยกออกไปเฉยๆ เรียกว่าแบ่งสมุดนั่นแหละ ผมอาจจะสื่อสารผิดในตอนแรก ผมโง่เอง ขอโทษครับ (ยกมือไหว้) สรุปคือยังไม่ได้โอนไปไหน แค่เปลี่ยนสมุด"
บี : "ถ้าวันที่ 6 นี้ หากวัดไม่รับเราจะทำยังไง ทางเราก็จะคืนตามบัญชีที่โอนมา เพราะเราไม่เอาไปใช้อย่างอื่นอยู่แล้ว สมมติวัดเขียนเช็คกลับคืนมา เงินกลับเข้ามาในบัญชีก็โอนคืนตามบัญชีที่โอนมาเลยค่ะ เพียงแต่ต้องใช้ระยะเวลาในการโอน"
บ๊วย : "1,194,000. กว่าบาทครับ"
ขาดความมั่นใจไปหมดแล้ว
บ๊วย : "ตอนนี้บอกตรงๆ ว่าพูดไลฟ์ในเพจยังไม่ค่อยกล้าเลย กลัวคนแคปอีก ผมไลฟ์ยังต้องลบออกเลย ขาดความมั่นใจ แต่ที่ว่าทำไมไม่โอนเงินตรงเข้าวัด ไม่ใช่ว่าทุกๆ ครั้งต้องโอนบัญชีชื่อบ๊วย อย่างวัดแค สุพรรณบุรี เจ้าอาวาสท่านจะทำหอสวดมนต์ ก็ยังบอกให้โอนไปที่วัดได้เลย เพราะเราก็กลัวจะแบกเกินไป ผมก็บอกโอนตรงที่วัดได้เลย 2 ล้านกว่าบาท ท่านก็มีใบอนุโมทนาบัตรมาให้ อย่างวัดสุทัศน์ท่านทำเหรียญหลวงพ่อกลักฝิ่น ก็โอนตรงเข้าวัดเลย วัดพระธาตุผาเงา ที่เชียงรายก็โอนตรงที่วัด ไปดูได้ โพสต์ยังอยู่ครบครับ"
ไม่เอาเงินบริจาคไปใช้ ถ้าทำจริงจะไม่มีที่ยืน
บ๊วย : "น่ากลัวมาก ปากบอกว่าคนนั้นคนนี้เป็นเปรต ถ้าทำนะผมไม่มีที่ยืน ขนาดไม่ได้ทำยังแทบไม่มีที่ยืนเลย"
อ.เจมส์ : "บอกตรงๆ ว่ายุคนี้มันโกงได้อยู่แล้ว แต่ถ้าคนโกงมันไม่เก่ง ไม่มีเส้น โกงไม่ได้หรอกครับ อย่างคิวอาร์โค้ดที่เอามาให้เนี่ย ผมบริสุทธิ์ใจ เอาไปดูเลยครับ"
บ๊วย : "ขอให้เป็นตัวอย่างและเป็นมาตรฐานเลยครับ"
ยืนยันไม่ได้เอาเงินใส่กระเป๋าตัวเอง
บ๊วย : "เอาเงินใส่กระเป๋าแล้วไปเข้าธนาคารครับ คือเงินพวกนี้เขาจบมาให้เรา เขาเชื่อในตัวเรา ผมกำลังถูกทำลายวิกฤติศรัทธานะครับ เขาโอนมาแบบนี้ใช้ไม่ได้เลยนะครับ"
เผยจะฟ้องใครสักคน ต้องเป็นความผิดที่ชัดเจน
บี : "ประเด็นเรื่องของการดำเนินคดี ตอนนี้อยู่ในระหว่างพิจารณาและเก็บรายละเอียดข้อเท็จจริง ซึ่งในการดำเนินคดีใครสักคนนึงเนี่ย คนนั้นจะต้องละเมิดต่อกฎหมายกับเราจริง ฉะนั้นไม่ต้องกลัวว่าจะเป็นการดำเนินคดีแบบกลั่นแกล้ง หรือกวาดๆ จะต้องเป็นความผิดที่ชัดเจน และเราจะต้องได้รับความเสียหายอย่างชัดเจนนะคะ"
ปัดตอบเรื่องติดต่อสื่อสารกับดวงพระวิญญาณบูรพกษัตริย์ ไม่อยากให้แตกแยก
บ๊วย : "เรื่องคนเห็นผีน่ะผมคิดว่าไม่น่าจะมีคนเดียว และเป็นความเชื่อ ผมไม่ได้บอกว่าให้ใครต้องเชื่อเหมือนผมนะครับ เรื่องนี้ใครถูกพูดถึงหรืออ้างอิง ใช้คำว่าข้อมูลบิดเบือนหรือไม่ ไม่รู้ แต่เสพไปแล้ว และผมมานั่งตอบแบบนี้มันจะไปกันใหญ่ ผมขออนุญาตว่ามีเพจใดๆ ก็ตามมาถามผม ผมขอตอบเพื่อประเด็นสังคม แต่ถ้าผมตอบเพื่อการสร้างความชิงชัง แตกแยก ผมไม่อยากตอบครับ ช่องส่องผีตอนนี้เป็นแค่ส่วนหนึ่งของเรื่องดรามา เดี๋ยวก็ต้องมีเรื่องดรามาใหม่"
เสียใจถูกด่าบิดเบือนประวัติศาสตร์
บ๊วย : "เสียใจครับ แต่ผมขออนุญาตไม่ตอบ แต่ให้ดูทั้งหมดว่าคอนเทนต์รายการคืออะไร ตอบไปมันก็ไม่จบ"
โวยกล่าวถึงบูรพกษัตริย์ด้วยความเคารพ ไม่ได้แอบอ้างเพื่อผลประโยชน์
อ.เจมส์ : "อย่างกรณีที่คลิปที่เขาตัดมาสั้นๆ ว่าเห็นใครๆ ผมจะเรียนว่าเทปวัดขุนอินทประมูล สถานที่ไหนที่มีครูบาอาจารย์ เกจิอาจารย์ท่านเคยมานั่งสวดมนต์หรืออะไร มันจะมีบารมีประสิทธิ เหมือนคล้ายๆ การห้อยหลวงปู่ทวด อันนี้ก็คือความเชื่อของผมว่าจะมีบารมีประสิทธิมา และวันนั้นที่เราหล่อพระ เราหล่อเพื่อเป็นพระราชกุศล เราคิดว่าเราทำเพื่อแผ่นดิน เวลาเราอัญเชิญเทวดา เราก็จะอัญเชิญสิ่งศักดิ์สิทธิ์ครูบาอาจารย์ บูรพกษัตริย์ที่เราเคารพมา ก็เป็นเหมือนบารมีของท่านมา"
ไม่เห็นประโยชน์ในคำถาม หากเห็นแต่ไม่เชื่อ
บี : "คำว่าบารมีประสิทธิหรือบารมีของท่านนี้ โดยลักษณะการเห็นของอาจารย์คือเป็นลำแสง ซึ่งไม่สามารถจะอธิบายหรือบอกให้กับใครที่ไม่ได้มีความเชื่อได้ทราบว่าเขาเห็นจริงหรือไม่จริง ต่อให้เห็นจริงแต่คุณไม่เชื่อ เพราะคุณไม่ได้เห็นเหมือนเขา มันก็ไม่เกิดประโยชน์ในการตอบคำถามนี้ ประเด็นเรื่องการแอบอ้างเป็นอีกหนึ่งประเด็นที่ใช้กันจังเลย คำว่าแอบอ้างมันแฝงไปด้วยว่าเราใช้ประโยชน์จากการพูดถึง ซึ่งในการกล่าวถึงแต่ละท่านของเราไม่ได้มีการอ้างเพื่อประโยชน์ แต่เป็นการกล่าวถึงด้วยความเคารพ”
บ๊วย : "ส่วนหลังจากนี้จะทำรายการอยู่ไหม ตอนนี้งงอยู่ คือรายการเราทำไปพัฒนาไป เพราะฉะนั้นเราก็ต้องพัฒนาอีก แต่ว่างงเหมือนกันนะ"
อ.เจมส์ : "คือเราก็มีปรึกษากันอยู่ 2-3 คน เรื่องคอนเทนต์ เพราะเราจะไม่บอกอะไรกับอ.เรนนี่ ผมเชื่อว่ารายการผมตอนนี้ที่มีคนถ่าย 2-3 คนเหมือนเมื่อก่อน มันไม่ได้มีคนดู 1-2 หมื่น ผมควรจะมีความรับผิดชอบมากขึ้น ผมน้อมรับที่ทุกท่านได้เตือนให้สติว่าคุณต้องระวัง เพราะว่าบางครั้งเราพูดอะไรไปชี้นกเป็นนก ชี้ไม้เป็นไม้ ฉะนั้นบางคนดูเขาไม่ได้ใช้วิจารณญาณ เขาเชื่อไปเลย"
"ผมก็อาจจะต้องกลั่นกรองมากยิ่งขึ้น เราก็คงจะประณีตในการถ่ายทำ เพราะรายการเรามันสด ไม่มีสคริปต์ บางทีเดินๆ ไปไม่รู้จะเจออะไรเลย เราก็คิดว่าจะทำงานที่สร้างสรรค์ เป็นประโยชน์ ผมทำรายการผมก็ทำให้ลูกดูนะ ผมทำให้เด็กๆ ดูด้วย คนตามเราเป็นเด็กๆ ก็มี ผมไม่อยากปลูกฝังให้เขางมงาย ไม่อยากปลูกฝังให้เขาเชื่ออะไรที่ไร้สาระ"
"แต่ผมจะบอกสุดท้ายว่าหนูต้องเป็นคนดีนะลูก แผ่นดินนี้ถ้ามันขาดความสามัคคีกัน และขาดคนดี มันอยู่ไม่ได้หรอก ทุกครั้งที่เกิดความแตกแยกในสังคม เกิดความไม่สามัคคี แผ่นดินก็ไม่มีที่อยู่กันหมด มันเดือดร้อนทุกคน เราทำรายการก็ไม่ได้อยากให้ผมเป็นต้นเหตุทำให้คนโกรธ"
"ผมก็ต้องงดบางส่วนที่มันอาจจะล่อแหลมหรือคนคิดได้ในหลายแง่มุม ก็คงต้องปรับครับ ยอมรับว่าเราไม่คิดว่าจะเป็นที่สนใจของใครด้วย ผมไม่ได้เป็นที่รู้จักของใครอยู่แล้ว เราก็ทำรายการเพราะคิดว่าทำแล้วสังคมน่าจะได้ประโยชน์ เพราะฉะนั้นผมก็จะทำให้มันดีขึ้น ให้เกิดประโยชน์ตามจุดมุ่งหมายที่เราตั้งใจตั้งแต่แรกครับ"