“เปิ้ล หัทยา” ใจหาย ถึงพิธีพระราชทานเพลิงศพ “ตั้ว ศรัณยู” เผยคุยกันทุกวัน จากกันแค่กาย แต่รักยังคงอยู่ในหัวใจ กลั่นหยดน้ำตาออกมาเป็นน้ำหมึกอาลัยสามี น้ำตาคลอบอกกลับบ้านยังแปลกๆ แต่ต้องฮึดเพื่อลูก เป็นไปได้อยากให้ “อ๊อฟ พงษ์พัฒน์” สานต่อละคร
ก่อนพิธีพระราชทานเพลิงศพ “ตั้ว ศรัณยู วงษ์กระจ่าง” ที่จะมีขึ้นในวันนี้ (18 มิ.ย.) ที่วัดนาคปรก “เปิ้ล หัทยา วงษ์กระจ่าง” ภรรยา และ “เอก ธเนศ วรากุลนุเคราะห์” พี่ชายตั้ว ได้เปิดใจให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน โดยเปิ้ลยอมรับว่า รู้สึกใจหาย บางช่วงที่เอ่ยถึงสามียังน้ำตาไหล เป็นภาพสะเทือนใจ โดยเจ้าตัวเผยแม้กายจะจากกัน แต่ความรักยังคงอยู่ในหัวใจเสมอ
เปิ้ล : “สำหรับการเตรียมงานในวันนี้ได้มีคุยกันว่าจะมีอะไรบ้าง ถ้าเกิดในเรื่องของตารางที่จะมีเราก็เตรียมไว้อยู่แล้ว แต่สำหรับใจก็...ใจหายค่ะ (เสียงสั่น)”
เอก : “จริงๆ เราส่งตั้วทุกวันทุกคืน ยังเป็นความรู้สึกดีๆ ที่ส่งให้ตั้วกลับไป ในขณะเดียวกัน ก็รู้สึกได้ว่าสิ่งดีๆ จากคนที่รักตั้วมากมายก็ส่งมาให้ผ่านเปิ้ล น้องหนุน น้องหนัง และครอบครัว รวมถึงตัวเราเอง รู้สึกว่ามันเป็นบรรยากาศแห่งสิ่งดีงามที่เกิดขึ้น”
“ในส่วนของพิธีพระราชทานเพลิงศพ เป็นกรณีพิเศษ วันนี้จะมีเจ้าหน้าที่เป็นตัวแทนมาทำพิธีให้ อัญเชิญกล่องไฟพระราชทาน อย่างที่บอกว่าเราซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น ถือเป็นเกียรติสูงสุดของผู้วายชนม์และครอบครัว พวกเราเองก็ปลาบปลื้มในพระมหากรุณาธิคุณที่ได้รับ”
“คนรักพี่ตั้วมาก จริงๆ ต้องบอกว่าพี่ตัวเป็นคนค่อนข้างเงียบๆ เวลาทำอะไรก็ไม่ค่อยยุ่งเกี่ยวกับโลกโซเชียล แต่ว่าเขามีผลงานให้เห็น เราเชื่อว่าเมื่อเขาจากไป เราก็ได้เห็นคำอำลาคำไว้อาลัย รวมทั้งผลงานต่างๆ ที่ปรากฏอยู่หลากหลายช่องทาง ทั้งทีวี วิทยุ โลกโซเชียลหรือทางเพื่อนๆ ที่โทรศัพท์เข้ามา เราก็เลยรู้สึกว่าเหมือนพี่ตั้วยังอยู่”
“ตู่ นันทิดา-สวนกุหลาบ” พร้อมร้องเพลงให้ฟัง ด้าน “หนึ่ง จักรวาล” จะมาบรรเลงเพลง
เปิ้ล : “อย่างพี่น้องสวนกุหลาบบอกเองว่าอยากจะมาร่วมร้องเพลง เพราะว่าเขาโตมาด้วยกันที่สวนกุหลาบ จึงอยากมาร้องเพลงให้พี่ตั้วฟัง ส่วน อ.ธนิสร์ ศรีกลิ่นดี ก็คุ้นเคยกับพี่ตั้วเป็นอย่างดี อยากมาเป่าขลุ่ย ด้านคุณหนึ่ง จักรวาล เคยทำงานด้วยกันก็อยากที่จะมาบรรเลงเพลง รวมไปถึง พี่ตู่ นันทิดา ซึ่งเคยมาตั้งแต่ขบวนขันหมาก วันนี้ก็จะมาร้องเพลงให้พี่ตั้วได้ฟัง อยากให้บรรยากาศเป็นธรรมชาติ ถ้าร้องได้ก็ร้องไปด้วยกัน”
หนังสือที่ระลึกคือตัวตนสามี เล่าถึงปาฏิหาริย์ ไม่คิดว่าจะเสร็จทันตามกำหนด
เปิ้ล : “ตอนที่เราคิดถึงของที่ระลึกที่จะทำให้ก็มีหลากหลายความคิดเห็นว่าจะทำอะไรกันดี แต่โดยตัวตนของพี่ตั้วเป็นคนชอบเขียนและอ่านหนังสือ แล้วก็มีความผูกพันกับหนังสือเพราะว่าทุกครั้งที่ไปต่างจังหวัดหรือไปไหน เขามักจะบอกว่าอย่าลืมเอาหนังสือเล่มที่โปรดไปด้วยนะ เราก็มีความรู้สึกว่าจะทำหนังสือทันไหม ทุกคนก็บอกว่าไม่น่าจะทัน แต่ปาฏิหาริย์ก็มีจริงคือพี่ที่เคารพและเพื่อนๆ สถาปัตย์จุฬาฯ ร่วมกันระดมรูปภาพ ความคิด และบทความ โดยบอกเราว่าทันนะแต่ว่าต้องส่งทุกอย่างภายในวันเสาร์ (13 มิ.ย.) จากนั้นนำส่งโรงพิมพ์วันอาทิตย์ แล้วหนังสือก็มาส่งเมื่อคืนนี้ (17 มิ.ย.)”
“ส่วนเพลงสู่ฝันอันยิ่งใหญ่ที่เขียนไว้หลังหนังสือนั้น เราคิดว่าพี่ตั้วเป็นคนผูกพันกับบทกวี บทเพลง เวลาที่เขาเขียนอะไรก็ตามก็จะมีความผูกพันกับกลอน เพลง และตัวหนังสือ ฉะนั้นเราเชื่อว่ารุ่นพี่ที่สถาปัตย์จุฬาฯ ที่เคารพได้เลือกแล้ว ว่าบทเพลงนี้น่าจะเป็นบทเพลงที่มีความลึกซึ้งสำหรับพี่ตั้ว”
เผยความรักสำคัญที่สุดในชีวิต ตั้ว ศรัณยู
เปิ้ล : “เวลาอยู่กันในครอบครัว เชื่อว่าทุกคนก็จะมีหลายอย่างที่พูดคุยกัน เราก็จะถามว่าอะไรที่คิดว่าสำคัญที่สุดในชีวิต บางทีเราก็อาจจะได้ยินคำว่าครอบครัวสำคัญที่สุดในชีวิต หรือบางคนคิดว่าจะได้คำตอบเป็นอย่างอื่น แต่ทุกครั้งที่ถามพี่ตั้วจะตอบว่าความรักเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิต เพราะว่าเขารักงานของเขา”
“เขาไม่เคยมีอาชีพไหนเลย นอกจากอาชีพนักแสดงเพราะเขารักการแสดง เลยทำมันด้วยความรัก หรือว่าครอบครัวก็ตามที่เวลามันมีปัญหา หรือมีเรื่องใหญ่ๆ มันก็สามารถที่จะแก้ปัญหาได้ เรื่องใหญ่ก็กลายเป็นเรื่องเล็ก เพราะว่าเราคุยกันด้วยความรัก แม้ว่าจะมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันซึ่งเป็นธรรมดาของคนในครอบครัว แต่สุดท้ายเราก็สามารถที่จะจบลงได้ เพราะเขาบอกว่าถ้าเรามีความรักเราจะค่อยๆ พูดจากัน ถ้าอยู่ในอารมณ์ก็อย่าเพิ่งคุย เลยมีความรู้สึกว่าอยากเขียนเรื่องของความรักถึงพี่ตั้ว”
กลั่นหยดน้ำตาออกมาเป็นน้ำหมึก
“เราใช้เวลานานมากในการกลั่นกรอง ทั้งที่ตัวอักษรไม่เท่าไหร่ เพราะเราต้องใช้เวลาเขียนอย่างรวดเร็วเพื่อที่จะส่งไปให้คนทำหนังสือ บอกเลยว่ามันยาก เพราะถ้าเกิดว่าหยดน้ำตามันออกมาเป็นน้ำหมึกหรือดินสอได้ มันก็คงจะเป็นตัวอักษรแล้ว เขียนอยู่นานมากจนหนุนกับหนังบอกว่า ทำไมใช้เวลาเขียนนานมาก สมัยก่อนพี่ตั้วเองก็เคยชอบแซวเวลาเราเขียนอะไรทีหนึ่งว่า...ช้ามากเปิ้ล นานมากเปิ้ล คือเราอาจจะคิดมากก็ได้”
“ส่วนเพลงลมหายใจของกันและกัน ตั้งแต่ช่วงเวลาที่พี่จิก ประภาส ได้เขียนเนื้อเพลงนี้ พี่ตั้วบอกว่ามันเป็นเนื้อเพลงที่สั้น แต่ความหมายมันครอบคลุมหมดเลย อาจเป็นเพราะเราคู่กันมาแต่ชาติไหน จะรัก รักเธอตลอดไป เป็นลมหายใจของกันและกัน ก็นั่นแหละค่ะความหมายทั้งหมด”
ลอยอังคารที่สัตหีบที่เดียวกับคุณแม่พี่ตั้ว
เปิ้ล : “เราอยากทำให้เร็วที่สุดและสมบูรณ์ที่สุด คือเราให้เวลากับเขา พรุ่งนี้เก็บอัฐิ แล้วก็อาจจะไปลอยอังคารเลย ก็เป็นที่เดียวกับคุณแม่พี่ตั้วที่สัตหีบ”
“ในส่วนลูกสาว น้องหนังตอนที่เขาอยู่เกาหลีเขาจะคุยกับพี่ตั้วทุกวัน แต่กับแม่เราก็จะเขียนกันทุกวัน ด้วยความเป็นลูกสาวที่เขาห่วง ก็จะถามถึงทุกวันว่าเป็นยังไง ก็บอกเลยว่าหนังอาจจะเป็นเยอะกว่าหนุน ต่อหน้าคนอื่นเขาจะยิ้ม หัวเราะ แต่พอถึงบ้านจะมีคำถามเยอะ บางมีเคยปล่อยให้คุยกับลุง ให้ลุงช่วยนิดนึง”
ร้องไห้ กลับบ้านยังรู้สึกแปลกๆ อยู่เลย
เปิ้ล : “มันก็แปลกๆ นะ มันยังแปลกอยู่เลย (ร้องไห้) มันก็ต้องฮึด ต้องบอกกับตัวเองว่าเรายังมีหนุน หนัง เรายังมีหลายสิ่งหลายอย่างที่ต้องทำ ก็ปล่อยให้เป็นธรรมชาติ ถ้าน้ำตาจะไหลก็ปล่อยให้มันไหล แล้วเดี๋ยวก็จะบอกกับตัวเองว่าต้องสู้”
ลั่นพูดกับพี่ตั้วทุกวัน
เปิ้ล : “เราออกจากวัดค่อนข้างจะดึกทุกวัน นอนก็อาจจะแค่ 2-3 ชั่วโมง หัวถึงหมอนก็หลับ ต้องตั้งนาฬิกาปลุก ให้ตื่นมาที่นี่ เลยยังไม่ได้ฝัน แต่ก็พูดกับเขาทุกวัน ขับรถคนเดียวก็พูด พี่ตั้วเป็นยังไงบ้าง อยู่ไหนแล้ว ก็พูดไป”
หากเป็นไปได้อยากให้ “อ๊อฟ พงษ์พัฒน์-แดง ธัญญา วชิรบรรจง” สานต่อละคร
เปิ้ล : “เปิ้ลเองเคยเป็นผู้จัดที่ร่วมทำงานกันมาตั้งแต่เรื่องแรกคือน้ำพุ สุภาพบุรุษลูกผู้ชาย หลังคาแดง ระยะหลังเห็นพี่ตั้วเข้าที่แล้วเราก็แค่ติดต่อประสานงาน แล้วก็เป็นทีมพี่ตั้วทำเต็มตัว ก็ยังไม่ได้คุยในรายละเอียดลึกๆ ว่างานที่ค้างอยู่ ละครที่ค้างอยู่ที่เหลือประมาณ 9-10 คิว ก็ปรึกษาพี่อ๊อฟ พี่แดง ว่าจะยังไง เผื่อพี่ตั้วจะมีผู้กำกับบางคนอยู่ในใจบ้าง รวมถึงได้คุยกับพี่อ๊อฟบ้าง พี่อ๊อฟเขาบอกว่าเขายินดีนะ เดี๋ยวพอเสร็จงานแล้วคงจะมานั่งคุยกันอย่างเป็นเรื่องเป็นราว ก็มีความเป็นไปได้ว่าจะเป็นพี่อ๊อฟค่ะ”
“ส่วนค่ายละคร อย่างที่บอกว่าเราหันมาทำสายวิทยุ เพลง คอนเสิร์ต พี่ตั้วก็ทำละครไป แต่เราเองก็ยังช่วยกัน บางทีพี่ตั้วก็ถามเพลงนี้ใครร้องดี หรือว่าตรงนี้ดาราคนไหนเปิ้ลรู้จัก ติดต่อคนนี้ให้หน่อย หลังจากนี้คงจะได้คุยกันกับทีม”
เตรียมสานต่อทุกเรื่องเพื่่อลูก
เปิ้ล : “เปิ้ลว่าทุกเรื่อง จริงๆ แล้วช่วงที่พี่ตั้วไม่สบาย อยู่โรงพยาบาลเราก็จะคุยกัน พี่ตั้วเขาก็จะมีไอเดียมากมาย เขาเห็นเราสะสมกางเกงยีนส์เยอะมาก ชอบแต่งตัว ทำไมไม่ไลฟ์เกี่ยวกับสิ่งที่เราถนัด แล้วเขาก็จะบอกว่าปัจจุบันนี้โลกเป็นยังไง ไปถึงไหนแล้ว มาดูตรงนี้ด้วยว่าเราจะทำอะไรที่มันสอดคล้องไปกับปัจจุบันนี้ที่มันมีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น ก็จะคุยกัน เรื่องของการทำอะไรสานต่อ เราทำให้อยู่แล้วเพราะเรามีลูกๆ หนุง - หนัง ก็เพิ่งจะเรียนจบ ก็คงจะช่วยดูแลตรงนี้ ก็มีพี่เอก ที่กำลังทำหนังอยู่ ก็ช่วยกันทำไปนะ”
เอก : “ได้ๆ ส่วนผมถ้ามีอะไรจะทำให้ตั้ว ที่รู้สึกว่าต้องทำ สำคัญที่สุดคือเรื่องดูแลหลาน แล้วก็เปิ้ล มันรู้สึกได้เลยโดยอัตโนมัติ แบบไม่ต้องคิดเลยว่าจะต้องทำ ทีนี้ก็จะมาต่อเนื่องกันว่าดูแลยังไง มันก็เห็นตั้งแต่วันแรกที่ตั้วไปแล้วว่าต้องดูแลยังไง ลุงหนูคิดถึงพ่ออีกแล้ว ก็บอกว่าเมื่อคิดถึงพ่อก็บอกตัวเองต่อนะว่าฉันกำลังคิดถึงพ่ออยู่อีกแล้ว หลานก็บอกว่า เอาอีกแล้วลุง เราก็บอกว่าเอาอย่างนี้แหละ อย่างอื่นก็ไม่ต้องไปสนใจ เราคิดถึงพ่อก็บอกกับตัวเองว่ากำลังคิดถึงพ่อ พ่อไม่มาเลย ก็บอกพ่อไม่มาแล้ว ทำไมพ่อไม่มา อ้าว ก็พ่อไปสบายแล้วไง ไม่ต้องมาแล้ว จะให้พ่อมาห่วงทำไม ก็คุยแบบนี้”
“ก็รู้สึกว่าอันนี้น่าจะเป็นภารกิจหลักให้เขาค่อยๆ คลายว่าการที่พ่อไม่อยู่ การที่พ่อไม่มาหา ไม่ได้แปลว่าพ่อไม่รักหรือว่าพ่อไม่ห่วงหรือว่าอะไรไม่ดี ไม่ใช่ พ่อไม่มาดีแล้ว เราพยายามบอกหลานแบบนี้ เพราะพ่อไม่มีอะไรต้องห่วง เพราะเราไม่น่าห่วงอะไรแล้วไง ถูกต้องไหม พ่อมั่นใจว่าเราดูแลตัวเองได้ ทั้งสองคนดูแลแม่ได้ ก็รู้สึกว่าภารกิจนี้น่าจะเป็นภารกิจหลักที่จะทำให้ตั้ว”
คุยกับตั้วทุกวัน จากกันแค่กาย แต่รักไม่เคยหายไป
เปิ้ล : “ทุกวันจะบอกกับพี่ตั้วว่าวันนี้เป็นวันแรกนะ วันนี้วันที่สองนะ ใครมาบ้าง ใครเป็นเจ้าภาพ ก็คุยกันตามความรู้สึก วันนี้เจอใคร ใครฝากบอกอะไรเป็นพิเศษ คุยไปเรื่อยๆ เหมือนเขายังอยู่แต่เขาไม่ตอบเรา บอกเสมอว่าเราจากกันแค่ร่างกาย อาจจะไม่ได้มีลมหายใจของพี่ตั้ว พี่ตั้วอยู่กับเราเสมอ ความรักยังอยู่ในหัวใจเสมอ ไม่ได้หายไปไหน จากกันเพียงกายแต่ความรักไม่เคยหายไป”
“สิ่งแทนใจมีหลายอย่าง ทุกอย่างยังคงอยู่ในหัวใจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวความรัก ความผูกพัน พี่ตั้วถึงแม้เขาจะดูเป็นคนเข้มๆ แต่เขาก็มีความกุ๊กกิ๊กของเขา เราเอามาดูแล้วก็น่ารักดี ไม่ว่าจะเป็นรูปภาพ เป็นกลอนที่เขาเขียน”