ต้องบอกว่าเป็นคนที่สร้างความประทับใจให้กับคนในวงการบันเทิงที่ได้รู้จักและทำงานด้วยจริงๆ สำหรับศิลปินผู้จากไปอย่าง “ตั้ว ศรัณยู วงษ์กระจ่าง”
ยืนยันได้จากข้อความจากใจของใครหลายคนที่เรียงร้อยขึ้นมาหลังเจ้าตัวเสียชีวิต รวมถึงล่าสุดจาก “ดำรง พุฒตาล” ผู้ก่อตั้งนิตยสาร “คู่สร้างคู่สม” ที่ออกมาเผยเรื่องราวความประทับใจในสิ่งที่ “ตั้ว ศรัณยู” ทำไว้โดยที่ตนไม่มีโอกาสได้พบเจอและขอบคุณกับอีกฝ่ายกระทั่งกลายเป็นเรื่องค้างคาใจในวันนี้
เมื่อได้ทราบข่าวว่า คุณศรัญยู วงษ์กระจ่าง เสียชีวิต ผมก็พยายามคิดทบทวนว่า ผมได้เคยพูดคุยกับเขาหรือไม่หรือผมได้เคยสัมภาษณ์เขาหรือไม่และคิดเลยเถิดไปว่าในชีวิตนี้ที่ผ่านมาผมได้เคยพบปะกับ “ตั้ว” บ้างหรือเปล่า
มันเป็นไปได้หรือที่เราทั้งสองจะไม่เคยมี ปฏิสัมพันธ์กันเลยทั้งทั้งที่อยู่ในวงการบันเทิงมาด้วยกันยุคเดียวกัน
แต่เป็นไปได้ครับ
คุณศรัญยู เป็นดาราหนังใหญ่และเป็นดาราละครโทรทัศน์ผู้มีชื่อเสียง ชีวิตวันๆ นึง ก็จะอยู่กับกองถ่ายภาพยนตร์ หรือไม่ก็อยู่กับกองถ่ายละครโทรทัศน์
ส่วนตัวผมนั้นเป็น คนทำรายการโทรทัศน์ และทำสื่อสิ่งพิมพ์คู่สร้างคู่สม วันๆ นึง ก็จะอยู่ในห้องส่งสถานีโทรทัศน์หรือในห้องบันทึกรายการโทรทัศน์ หรือไม่ก็จะอยู่ในกองบรรณาธิการหนังสือของผม
โดยอาชีพและหน้าที่การงานที่เราทั้งสองต้องทำอย่างเคร่งครัด มันก็มีความเป็นไปได้สูง ที่เราสองคนอาจจะไม่เคยเจอกันเลย
อะไรคือสิ่งที่ค้างคาใจผม เมื่อทราบว่าคุณตั้วได้จากโลกนี้ไปแล้ว ซึ่งแม้แต่วินาทีนี้มันก็ยัง “ไม่แล้วใจ” ผมไปเสียที ก็จะขอเล่าให้ฟัง…..
“ตั้ว” เป็นดาราใหญ่พระเอกคนดังทั้งในจอหนังและจอโทรทัศน์ ที่ได้ขึ้นเป็นปกของหนังสือคู่สร้างคู่สมเกือบ 20 ครั้ง ถือว่าเป็นดาราชาย ที่เป็นนายแบบถ่ายปก คู่สร้างคู่สม มากที่สุดคนหนึ่งในรอบ 38 ปีของหนังสือเล่มนี้
บางเล่ม ตั้ว ได้ถ่ายตั้งแต่ปี พ.ศ. 2530 คือเมื่อ 32 ปีที่ผ่านมา โดยถ่ายคู่กับคุณมลฤดี ยมาภัย นางเอกในเรื่องบ้านทรายทอง ออกอากาศทางช่อง 7
ผมได้รับทราบจากคำบอกเล่าของ “เอสโส่ย” ช่างภาพคู่บุญของ คส.คส. ว่า ตั้ว เป็นคน ที่มีอัธยาศัยไมตรีที่ดีเยี่ยมยอด ไม่เรื่องมาก ไม่จู้จี้ รู้สึกสนุก และ ให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ทุกครั้งที่เขาได้ถ่ายปก และชอบพูดว่า
“มาเลยคู่สร้างคู่สม ของพี่เลาะ”
(คนในวงการทีวีเท่านั้นที่เรียก ดำรง ว่า พี่เลาะ-คุณเลาะ-และ ไอ้เลาะ…)
ช่างภาพมือดีของผมเคยบอกผมว่า ทุกครั้งที่ตั้ว มาถ่ายปกให้เรา ตั้ว ช่วยออกความคิดและมีไอเดียต่างๆ ว่าจะเอามุมไหน จัดเป็นท่านั่งหรือท่ายืนดี จะถ่ายเต็มตัว หรือครึ่งตัวดี และยังช่วยออกความคิดอีกว่า ถ้าพระเอกนางเอกแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าแบบนี้ แบบนั้น จะใช้ฉากหลังตรงไหนแบบไหนถึงจะเหมาะ
ผมบอกกับ เอสโส่ย ตากล้องว่า ผมยังไม่มีโอกาสได้เจอกับ ตั้วเลย เขาขึ้นเป็นปกให้เราเป็นสิบครั้ง ถ้าผมเจอตั้วที่ไหน ก็จะขอเข้าไปกอดและขอบคุณเขาที่ดีกับผม และทำตัวเสมือนเป็นผู้ร่วมงานในกองบรรณาธิการของผม
เมื่อเดือนตุลาคม พ.ศ. 2538 คือ 25 ปีที่ผ่านมาแล้ว ทีวี ช่อง 7 มีละครเรื่อง “มนต์รักลูกทุ่ง” พระเอกก็คือ ศรัณยู และนางเอกชื่อ ณัฐริกา ธรรมปรีดานันท์ ซึ่งเราก็จะไปถ่ายดาราคู่นี้เป็นปกด้วย
ผมให้คุณ ภาวนา คนตรง “เอ๋” ผู้ช่วย บก. ตามคุณเอสโส่ยไปที่กองถ่ายละครด้วย
ตกบ่ายวันนั้นคุณเอ๋โทรศัพท์มาหาผมรายงานว่า คุณตั้วเสนอว่า ปกของ คู่สร้างคู่สม ทุกๆ เล่ม ก็จะมีแต่ภาพดาราชาย กับดาราหญิงเอาศีรษะชิดกัน ตาต้องมองกล้องแล้วยิ้มให้กล้อง ทุกๆ ฉบับจะออกมาเป็นแนวนี้ตลอด
ถ่ายปกฉบับนี้ คุณตั้ว เสนอว่าอยากให้พระเอกสบตานางเอกอย่างโรแมนติกโดยไม่ต้องยิ้มและไม่ต้องมองกล้อง หัวก็ไม่ต้องชิดติดกัน
ผมเห็นว่าเป็นแนวคิดเชิงสร้างสรรค์แบบจิตวิทยามวลชน ก็ยอมแหกกฎกติกาของตนเองที่ตั้งเอาไว้มาเป็นเวลานาน ดังรูปปกที่เอามาให้ดู
ผมรู้สึกเสียใจที่ตั้วต้องเสียชีวิตลงก่อนวัยอันควร และรู้สึกเสียใจและเจ็บใจตัวเอง ที่ไม่มีโอกาสแสดงความขอบคุณ ความชื่นชมและความประทับใจกับตั้ว ที่มีให้กับผมและคู่สร้างคู่สม
พักผ่อนให้สบายเถิดน้อง