ในยุคที่โคโรนาไวรัส หรือ โควิด-19 กำลังระบาดหนักไปทั่วโลก เรื่องของความสะอาดในพื้นที่ต่างๆ กลายมาเป็นสิ่งที่ผู้คนต้องหันมาให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกๆ ในการดำเนินชีวิต ทั้งเรื่องของการรณรงค์ให้ล้างมือบ่อยๆเพื่อป้องกันเชื้อโรคที่อาจเกาะอยู่ตามสิ่งของรอบ ๆ ตัว ไปจนถึงการสวมหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันเชื้อโรคทั้งจากตนเองไปสู่คนอื่น และจากคนอื่นมาสู่ตนเอง
รวมถึงล่าสุดที่มีการยืนยันว่าการใช้ห้องน้ำร่วมกับคนที่มีเชื้อโคโรนาไวรัส หรือ โควิด-19 นับเป็นภาวะเสี่ยงเพราะในอุจจาระสามารถพบเชื้อได้มากที่สุด และการกดชักโครกโดยที่ไม่ปิดฝาก่อนก็จะทำให้เชื้อโรคสามารถฟุ้งกระจายออกมาและมีโอกาสทำให้ผู้อื่นติดเชื้อได้
จากสิ่งต่าง ๆ ที่กล่าวมา ส่งให้การทำงานของโลกฮอลลีวูดกำลังจะเปลี่ยนแปลงไป หลังมีการเปิดเผยบทความเกี่ยวกับสุขอนามัยในโลกฮอลลีวูด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องของการใช้ห้องน้ำ และความสะอาดในกองถ่าย ที่ถือว่าเป็นสิ่งที่เลวร้ายที่สุดของคนทำงานกันเลยทีเดียว
สุขอนามัยสุดแย่ในกองถ่าย
ในส่วนของแวดวงบันเทิง วิกฤติโคโรนาไวรัส ได้เผยให้เห็นสิ่งแย่ ๆ ที่ถูกปิดไว้มานานเกี่ยวกับการเสี่ยงภัยจากการทำงาน และสิ่งจำเป็นพื้นฐาน ในกองถ่ายทำทั้งภาพยนตร์และโทรทัศน์ ที่มีคนอยู่ร่วมกันเป็นจำนวนมาก ขณะเดียวกัน ไวรัสที่กำลังระบาดและทำให้ผู้คนบาดเจ็บล้มตายเป็นจำนวนมากนี้ ยังช่วยเปิดเผยความลับที่สกปรกที่สุดของฮอลลีวูด กับข้อสงสัยที่มีมานานเกี่ยวกับสุขอนามัยในกองถ่ายทำอีกด้วย
ในปัจจุบัน สุขอนามัยที่ไม่ได้รับความใส่ใจกลายเป็นสิ่งที่ต้องทนยอมรับว่ามันคือส่วนหนึ่งของการทำงาน โดยในช่วงที่กองถ่ายทำต่าง ๆ จำเป็นต้องหยุดชะงักเพื่อชะลอการระบาดของเชื้อไวรัสที่กำลังแพร่ระบาดไปทั่วโลก ก็กระตุ้นให้เกิดการถกเถียงกันถึงเรื่องความสะอาด มีการตั้งคำถามที่กว้างขึ้น และการตระหนักถึงความหมายของพื้นที่ทำงานที่ปลอดภัยในโลกฮอลลีวูด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มของทีมงานฝ่ายโปรดักชันที่ต้องออกไปเผชิญกับความเสี่ยงมากที่สุด
"ลอว์เรนซ์ คาร์แมน" ช่างภาพวัย 65 ปี ที่เคยร่วมงานในกองถ่าย The Amazing Spider-Man,Veronica Mars ได้เผยว่า “ไม่มีใครทำความสะอาดกองถ่ายเลย ถ้าผมขึ้นไปยืนบนเวที พวกเขาก็ตะโกนปิดกอง แล้วทุกคนก็แยกย้าย จากนั้นพวกเขาก็ล็อกประตู แล้วก็เปิดมันอีกทีเมื่อเปิดกอง”
คาร์แมน ยังนึกย้อนไปถึงตอนที่เขาต้องถ่ายทำในย่านดาวน์ทาวน์ของลอสแองเจลิส ซึ่งกองถ่ายตั้งอยู่ใกล้กับกองขยะสารคัดหลั่งและกองเข็มฉีดยา “นั่นคือความเป็นจริงของดาวน์ทาวน์ในแอลเอ นั่นคือสิ่งที่คุณต้องทำ คุณก็แค่พยายามอย่าไปใกล้มันแล้วก็ทำงานของตนเองต่อไป”
ส้วมหลุมยังมีอยู่
"เดโบราห์ โจนส์" วัย 50 ปีที่ทำงานตกแต่งฉากให้กับรายการโทรทัศน์และภาพยนตร์มานานกว่า 19 ปี ได้เผยถึงประสบการณ์เลวร้ายตลอดเวลาที่ผ่านมา เกี่ยวกับการใช้ห้องน้ำในสถานที่ที่เธอต้องทำงาน “ฉันต้องทำงานให้กับหลายๆรายการโดยที่ไม่มีสุขาหรือห้องอาบน้ำที่เพียงพอ รวมไปถึงที่ล้างมือ น้ำดื่มสะอาด หรือ ที่ทิ้งขยะ”
โจนส์ ยังได้นึกย้อนไปถึงเหตุการณ์ที่ทำเอาเจ้าตัวถึงขั้นบอกว่า เป็นประสบการณ์ที่เลวร้ายที่สุดที่ได้เห็นห้องน้ำขณะไปถ่ายทำกันที่หุบเขาซานเฟอร์นันโด เพราะห้องน้ำไม่มีประตู แถมเป็นส้วมหลุมอีกด้วย ทำให้เธอต้องยอมขับรถไปตามถนนแล้วไปใช้ห้องน้ำที่ซูเปอร์มาร์เก็ต ราล์ฟ ที่อยู่ในละแวกใกล้เคียงแทน
เธอยังบอกเล่าถึงการถ่ายทำอีกที่ ที่ทีมงานกว่า 100 ชีวิตต้องใช้รถสุขาเคลื่อนที่ 3 คันร่วมกัน โดยตอนนั้นต้องทำงานกันในโกดังที่ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกแถมในครัวก็ไม่มีน้ำร้อนซ้ำยังท่อตันไม่สามารถใช้งานได้นานกว่า 2 สัปดาห์อีกด้วย
โดย โจนส์ ยังจำได้ดีถึงตอนที่ต้องทำงานในกองถ่าย ที่ผู้ประสานงานกองถ่ายปฏิเสธจะเช่าถังขยะ เพราะเป็นนโยบายประหยัดงบ ทำให้ทีมงานต้องเอาลังมาทำเป็นถังขยะ หรือสร้างถังขยะเองจากวัสดุเหลือใช้ “ฉันว่าสิ่งจำเป็นในเรื่องความต้องการด้านพื้นที่ของกลุ่มงานอาร์ตควรถูกจัดความสำคัญให้มาก่อนพวกที่นั่งทำงานในตึกนะ”
ทางด้านอาหารการกินในกองถ่าย ส่วนมากก็จะเป็นการกินรวมกันแบบบุฟเฟต์ ทีมงานคนหนึ่งเผยว่า แม้จะเก็บกวาดโต๊ะอาหารให้สะอาดเพียงใด แต่มันก็ยังคงเลอะเทอะสกปรกมากอยู่ดี เพราะมีทั้งนักแสดงและทีมงานที่นิสัยสกปรกมักง่ายอยู่ในกองทั้งนั้น
“คุณไม่สามารถไปบอกนักแสดงได้หรอกนะว่า ‘เฮ้ นายเอานิ้วจุ่มลงไปในอาหารไม่ได้นะ’ มันกลายเป็นเรื่องใหญ่ได้เลย คุณตกงานแน่ ถึงแม้คุณจะเดินเข้าไปบอกคนที่อยู่เหนือกฎเกณฑ์พวกนี้ว่าช่วยพูดอะไรสักอย่างสิ พวกเขาก็จะปฏิเสธบอกว่าไม่ได้ทำ แม้ว่านั่นจะเป็นสิ่งที่คุณควรต้องรับผิดชอบต่อความเป็นอยู่ที่ดีของทีมงานทุกคนก็ตาม”
นอกจากนั้นในเวลาที่เร่งรีบ การพักเข้าห้องน้ำ แล้วต้องรีบกลับไปถ่ายทำต่อ ก็ทำให้มีหลายคนเพิกเฉยต่อการล้างมือหลังทำธุระส่วนตัวเสร็จ หรือบางทีก็ทำงานเหนื่อยทั้งวันจนไม่ยอมอาบน้ำเลยก็มี
จำเป็นต้องทบทวนใหม่
ก่อนที่จะมีการระบาดของโคโรนาไวรัส "อไลนา แมคมานัส" ผู้ช่วยช่างภาพฝ่ายเทคนิควัย 33 ปี ที่ทำงานอยู่ในแวดวงโทรทัศน์ได้เผยว่า เธอมักเป็นคนที่ระวังเรื่องความสะอาดอยู่แล้ว “การมาทำงานพร้อมกับกลิ่นตัวเหม็นๆ ไม่ใช่เรื่องที่เกิดขึ้นบ่อยๆหรอกนะ แล้วงานของฉัน เครื่องไม้เครื่องมือของเราค่อนข้างพิเศษ ฉันเองมักจะเช็ดทำความสะอาดอุปกรณ์ด้วยทิชชู่เปียกอยู่ตลอด”
อย่างไรก็ตาม แมคมานัส ยืนยันว่าตัวเธอเองค่อนข้างประหลาดระวังเรื่องความสะอาดอยู่แล้ว “ไม่ใช่ว่าทุกคนจะมานั่งเช็ดทำความสะอาดอุปกรณ์ที่ใช้ทำงานอยู่ตลอดหรอก แต่ฉันเคยฝึกเรื่องนี้ในช่วงฤดูที่ไข้หวัดระบาด ทันทีที่มีคนหนึ่งป่วยฉันก็จะเริ่มเช็ดทำความสะอาดกล้อง ไข้หวัดมันติดต่อกันไปทั่ว ฉันเลยต้องคอยป้องกันไม่ให้มาติดเหมือนกัน”
ด้าน "เดฟ เพอร์กัล" ผู้กำกับจากซานตาโมนิกา เผยถึงเรื่องนี้ว่า “ระบบที่ใช้ในกองถ่ายมันถูกใช้กันมานานนับร้อยปีแล้ว อุปกรณ์ทุกชิ้นในการผลิตภาพยนตร์มันถูกส่งต่อจากคนหนึ่งไปยังอีกคนหนึ่ง เลนส์ถูกส่งต่อทางเดียว การแต่งหน้าและการทำผมจำเป็นต้องสัมผัสร่างกายกับนักแสดง"
"พวกที่ดูแลอุปกรณ์กองถ่ายก็ต้องสัมผัสอุปกรณ์เดียวกัน แม้แต่เวลาที่เราจะกิน มันก็เหมือนกับกองทัพทหารที่แห่กันมาที่โรงอาหารเข้าแถวรออาหารกันเนืองแน่น”
“นี่คือไวรัสที่มองไม่เห็น คุณจะทำยังไง? ผมไม่แน่ใจว่ามันคืออะไร แต่ผมจะไม่ให้ทีมงานของผมต้องเข้าไปเสี่ยงอันตราย”
หลังจากที่ศึกสู้กับ Covid-19 ทุเลาลง ฮอลลีวูด ก็จะกลับเข้าสู่หมวดปกติ และเมื่อถึงเวลานั้น ทีมงานทุกคน ก็ควรจะต้องพบกับระเบียบการแบบใหม่ ทั้งเรื่องของการใส่ถุงมือ การสวมหน้ากากอนามัย มีจุดสำหรับล้างมือ มีพนักงานคอยหมั่นทำความสะอาด และมีเจ้าหน้าที่ด้านการแพทย์ประจำอยู่ในกองถ่าย
ส่วนทางด้านของการตรวจหาเชื้อในร่างกาย ก็ยังเป็นประเด็นหนึ่งที่ถกเถียงกันในวงการภาพยนตร์ ถึงความเป็นไปได้ที่จะจัดให้มี “การกักกันตนเอง” สำหรับทีมงานที่บินจากอเมริกา ไปยังประเทศอื่น โดยต้องมีการกักตนเองเป็นเวลาอย่างน้อย 2 สัปดาห์ และอีก 2 สัปดาห์ หลังจากบินกลับถึงบ้านที่อเมริกาแล้ว
ยังมี "สตีเวน โปสเตอร์" นักถ่ายทำภาพยนตร์และอดีตประธานของ IATSE Local 600 วัย 76 ปีได้กล่าวว่า วงการบันเทิงได้กำหนดกฎเกณฑ์เรื่องความปลอดภัยไว้อย่างดีที่สุด แต่วงการบันเทิงก็มีประสบการณ์น้อยเหลือเกินกับการรับมือและจัดการกับโรคระบาด
“มันคงดีที่จะสร้างมาตรฐานเรื่องความสะอาดให้เป็นไปตามข้อเรียกร้อง เข้าใจได้ที่เราต้องเข้าเรียนรู้สิ่งต่างๆอย่างเช่นเรื่องของความปลอดภัย เรื่องของกลิ่นในอากาศ เมื่อมันมีอันตรายจากสารต่างๆที่อยู่ในอากาศ เราถูกสอนให้ระบุสัญญาณความปลอดภัยทั่วไป"
"อย่างเช่น กลิ่นแบบนี้คือมีก๊าซ เราถูกสอนให้เรียนรู้ทั้งหมด เพราะฉะนั้นถ้ามันขยายรวมไปถึงเรื่องระเบียบความสะอาดเพื่อทำให้ทีมงานของเราสะอาดปลอดเชื้อโรค นั่นคงเป็นสิ่งที่ดีมาก ๆ เลย”