xs
xsm
sm
md
lg

“สามย่านมิตรทาวน์” ทุ่มงบตลาด 200 ล้าน เปิด 3 กลยุทธ์เด็ด-ผนึกพาร์ตเนอร์อัดอีเวนต์แรง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“สามย่านมิตรทาวน์” พร้อมทุ่ม 200 ล้านบาท ผ่าน 3 กลยุทธ์เด็ดปี 2020 ขนทัพร้านค้าวันแอนด์โอนลี่-ซิกเนเจอร์อีเวนต์-ผนึกพาร์ตเนอร์ชั้นนำเด็ดมัดใจลูกค้าทุกเพศทุกวัย เพื่อรักษาฐานลูกค้าให้อยู่ในระดับเดียวกันกับช่วงแรกหลังเปิดตัวที่ 70,000-80,000 คน/วัน ตลอดปี

นางสาวธีรนันท์ กรศรีทิพา รองกรรมการผู้จัดการสายงานพัฒนาธุรกิจรีเทล บริษัท แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือโกลเด้นแลนด์ เปิดเผยว่า “หลังจากเปิดให้บริการ “สามย่านมิตรทาวน์” โครงการมิกซ์ยูสมูลค่า 9,000 ล้านบาท เปิดให้บริการเต็มรูปแบบตั้งแต่ช่วงเดือนกันยายน 2562 ที่ผ่านมา รวมระยะเวลาที่เปิดให้บริการแล้ว 4 เดือน ซึ่งในวันแรกที่เปิดบริการมีผู้เข้าศูนย์ฯมากกว่า 150,000 คน มากกว่าที่ตั้งเป้าไว้ถึง 3 เท่าปัจจุบันสามย่านมิตรทาวน์มีผู้เช่าแล้วกว่า 95% เปิดบริการแล้ว 86% ส่วนที่เหลือเตรียมเปิดทยอยต่อเนื่อง แบ่งสัดส่วนประเภทร้านค้า เป็นร้านอาหารและเครื่องดื่ม 37% การบริการความรู้ต่างๆ 30% ซูเปอร์มาร์เกตและสินค้าในบ้าน 17% ร้านแฟชั่นเสื้อผ้า กีฬา ความงาม 11% และบันเทิง 5%

ส่วนพื้นที่อีก 5% ที่เหลือนั้นอยู่ระหว่างการเจรจาและเตรียมเปิดบริการของคู่ค้าซึ่งส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ขนาดเล็ก


โดยมีผู้ใช้บริการมากกว่า 70,000 คนในวันธรรมดา หรือมากกว่าที่ตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะมีประมาณ 37,000 คน โดยมากถึง 76% และมากกว่า 80,000 คนในวันเสาร์-อาทิตย์ ซึ่งมากกว่าเป้าหมายเดิมที่ตั้งไว้ที่ 30,000 คน มากถึง 140% และในช่วงที่มีกิจกรรมพิเศษ ซิกเนเจอร์อีเวนต์ เช่น ลานนมสามย่าน สามารถเพิ่มยอดผู้ใช้บริการได้ถึง 100,000 คนต่อวัน โดยที่มีผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าเอ็มอาร์ทีสถานีสามย่านมากถึง 1.2 ล้านคนต่อวัน จากเดิมที่มี 8 แสนคนต่อวัน

สำหรับกลุ่มลูกค้าสามารถแบ่งสัดส่วนได้ดังนี้ กลุ่มผู้สูงวัย สัดส่วน 28% กลุ่มนักเรียนนักศึกษา สัดส่วน 35% กลุ่มคนทำงาน สัดส่วน 35% และกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติ 25%

ขณะที่พื้นที่ร้านค้าที่เปิดบริการ 24 ชั่วโมงนั้น ก็ได้รับการตอบรับอย่างดีจากผู้บริโภค ปัจจุบันร้านค้าที่เปิด 24 ชั่วโมงกระจายในพื้นที่ต่างๆแล้ว 21 ร้านค้า และเตรียมที่จะเปิดอีก 4 ร้านค้า โดยสัดส่วนผู้มาใช้บริการร้านค้า 24 ชั่วโมงเหล่านี้แบ่งเป็น นักเรียน 65% คนทำงาน 34% และ นักท่องเที่ยว 1%


โดยในปี 2020 ทางศูนย์การค้ามีกลยุทธ์ในการเพิ่มยอดผู้ใช้บริการอย่างต่อเนื่องผ่าน 3 กลยุทธ์ดังนี้

1. ขนทัพร้านค้าเปิดให้บริการที่นี่ที่เดียว (One and Only) สามย่านมิตรทาวน์ยังคงมุ่งเน้นไปที่ร้านค้าสายฟูด สายโนวเลดจ์ พร้อมร่วมกันสร้างชุมชน “คลังอาหารและการเรียนรู้” ซึ่งทัพร้านอาหาร เช่น ทิม ฮอร์ตัน (Tim Hortons) เชนร้านกาแฟแบรนด์ดังจากแคนาดา ดินส์ (Din’s) ร้านอาหารนีโอไต้หวัน เม่ย เว้ย หว่าน (Mei Wei Wan) ต้นตำรับก๋วยเตี๋ยวเนื้อไต้หวัน สไปซี่ เฮ้าส์ (Spicy House) ร้านอาหารรัสเซียสูตรต้นตำหรับ โคกิดา (Gogida) ต้นตำรับปิ้งย่างส่งตรงจากเกาหลี และมีเค สตรีท(K-StrEAT) ศูนย์รวมอาหารเปิดประสบการณ์และวัฒนธรรมเกาหลีแท้ๆ ได้ที่นี่เท่านั้น ที่เตรียมเปิดบริการเมษายนนี้ และทัพร้านค้าส่งเสริมการเรียนรู้ อาทิ แองกริซ (Angkriz) โรงเรียนสอนภาษาอังกฤษโดยครูลูกกอล์ฟ โรงเรียนแซฮุน (Zaehoon Korean Language School) โรงเรียนสอนภาษาเกาหลีด้วยหลักสูตรเอาใจวัยรุ่นให้ได้เรียนกับเจ้าของภาษาอย่างใกล้ชิด โรงภาพยนตร์เฮ้าส์สามย่าน (House Samyan) โรงภาพยนตร์สำหรับกลุ่ม Moviegoers ที่ใหญ่ที่สุดของกรุงเทพฯ รวมถึงการอัพเดทร้านค้าที่ศูนย์ดำเนินการเองอย่างเช่น มีเดียม แอนด์ มอร์ (Medium and More) ศูนย์รวมงานอาร์ตแอนด์คราฟท์ และเวิร์กชอป และแอพรอน วอล์ค (Apron walk) ศูนย์รวมวัตถุดิบ และสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการทำอาหารครบวงจร ซึ่งการปรับเปลี่ยนสินค้าและบริการให้มีความทันสมัย เป็นทางเลือกในการช้อปปิ้งที่เหมาะสมกับผู้บริโภคยุคใหม่อยู่เสมอ


3. ผนึกพาร์ตเนอร์ชั้นนำ (Mitr Partnership) ในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมาสามย่านมิตรทาวน์ได้ผนึกพาร์ตเนอร์ชั้นนำ เกิดเป็นกิจกรรมต่างๆ มากมาย เช่น สามย่านมิตรทาวน์-เอไอเอส ขนทัพ 5G ให้คนไทยได้สัมผัสกิจกรรมประกาศความพร้อมของการให้บริการ 5G พร้อมทัพพรีเซนเตอร์และกิจกรรมส่งเสริมการขายอัดแน่นตลอดกิจกรรม สามย่านมิตรทาวน์-อมรินทร์ กับการร่วมมือจัดมหกรรมนิยายนานาชาติ ครั้งที่1 งานบุ๊กแฟร์ที่รวบรวมหนังสือนิยายเอาไว้มากที่สุด สามย่านมิตรทาวน์-การีน่า Free Fire Pro League การแข่งขันลีกสำหรับมืออาชีพครั้งแรกของเกม Free Fire ที่จะเฟ้นหาสุดยอดฝีมือของประเทศไทย ซึ่งในปี 2020 นี้ทางศูนย์การค้ายังคงเปิดรับพาร์ตเนอร์ต่างๆ ที่สนใจจัดกิจกรรมที่จะเป็นผู้สร้างตำนานใหม่ให้กับสามย่านได้กลับมารุ่งเรืองอีกครั้งไปพร้อมๆ กัน ซึ่งขณะนี้ได้เริ่มมีการพูดคุยกับพาร์ตเนอร์แล้วหลายราย คาดว่าจะสร้างความคึกคักให้กับตลาดรีเทลให้น่าจับตามองยิ่งขึ้น

นางสาวธีรนันท์กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ปัจจัยลบจากการท่องเที่ยวผลกระทบต่อธุรกิจรีเทล โดยตลาดนักท่องเที่ยวจีน-เกาหลี-ญี่ปุ่น-ฮ่องกง ยังคงเป็นตลาดใหญ่ที่สุดที่มาใช้บริการรีเทลในประเทศไทย สำหรับปัจจัยลบด้านปัญหาสุขภาพในจีน เชื่อว่าจะส่งผลเพียงระยะสั้น เนื่องจากทางการจีนได้ควบคุมขอบเขตการระบาดของโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ


กำลังโหลดความคิดเห็น