“แม็ก พิพัฒน์พล” นักแสดงรุ่นใหญ่ เผย หายจากวงการไปหลายปี เหตุต้องรักษาโรคไทรอยด์ แถมเจอก้อนเนื้อที่เสี่ยงเป็นมะเร็ง เลยต้องรีบรักษา บอกผลข้างเคียง คือ ถ้าต้องพูดนานๆ เสียงจะแหบ แต่ไม่มีผลอย่างอื่น ร่างกายแข็งแรงดี เผย ดีใจได้กลับมารับบทคอมเมดี้อีกครั้ง หลังห่างไป 20 ปี บอกอยากรับบทหัวเราะสนุกสนานบ้าง เพราะชีวิตเครียดกันมาพอแล้ว ร้านสเต็กที่เปิดมากกว่า 15 ปี ยังไปได้เรื่อยๆ ถ้าไม่มีงานในวงการก็คงยึดธุรกิจนี้สร้างรายได้ต่อไป
เรียกว่าหายหน้าหายตาจากวงการไปหลายปีทีเดียว สำหรับนักแสดงรุ่นใหญ่อย่าง “แม็ก พิพัฒน์พล โกมารทัต” ที่หลายคนอาจจะคุ้นหน้ากับบทตัวร้ายซะส่วนใหญ่ แต่จริงๆ แล้วบทคอมเมดี้ก็เป็นอีกหนึ่งทางถนัดของเจ้าตัวเหมือนกัน ล่าสุด เลยได้หวนกลับมารับละครแนวนี้ในละครเรื่อง “สมบัติมหาเฮง” ทางช่อง 7HD ของผู้จัดชั้นครูอย่าง “ฉลอง ภักดีวิจิตร” อีกครั้ง
“คงเป็นเพราะความบังเอิญที่เรื่องที่แล้วได้เล่นกับอาหลองเอาไว้ครับ เป็นทหารญี่ปุ่น ผมเคยร่วมงานกับอามาแล้วจากเรื่องเสาร์ 5, แข่งรักนักซิ่ง, ทอง 10 สำหรับเรื่องสมบัติมหาเฮงนี้ ก็ได้มาเล่นเป็นทหารญี่ปุ่นอีก ไม่ได้คิดว่าอาจะให้เราพูดญี่ปุ่นนะ ก็เสนอไปว่าลองดูไหมพูดให้มีติดสำเนียงญี่ปุ่น เหมือนคนญี่ปุ่นที่มาอยู่เมืองไทยนานแล้ว ออกทางหางเสียง อาก็เลยบอกว่าลองดู พอลองพูดดูมันก็ไม่เลวนะ เราเองก็เคยไปอยู่ญี่ปุ่นมา 3 เดือน ก็พอจะจำหางเสียงเขาได้ และถ้าเราเชื่อว่ามันใช่มันก็ต้องใช่ บวกกับการแต่งตัวเสื้อผ้าหน้าผมเข้าช่วย”
“ก็ห่างหายจากละครคอมเมดี้ไปนานนะครับ แต่จริงๆ สมัยที่เข้ามาวงการใหม่ๆ ผมเล่นบทแบบนี้นะ บ๊องๆ ต๊องๆ ตลก แต่ช่วงหลังไม่ค่อยมีโอกาสได้เล่น มักจะได้เล่นเป็นบทเจ้าพ่อ มาเฟีย บทดุ บทโกรธ ซึ่งคาแรคเตอร์จริงๆ ตั้งแต่เริ่มเล่นละครมา คือ เริ่มจากบทคอมเมดี้เลยครับ ดังนั้น เรื่องนี้เลยถือเป็นการกลับมาเล่นคอมเมดี้ของผมอีกครั้งในรอบ 20 ปีเลย เป็นมุมที่คนดูไม่ได้เห็นผมนานแล้ว เพราะว่าเราไม่มีโอกาสได้เล่นเลย”
“ทุกวันนี้อยากจะเล่นมาก อยากเล่นอะไรที่มันไม่เครียด เล่นแล้วได้เป็นตัวของตัวเอง จริงๆ ทุกคนอยากสนุกมากกว่าทุกข์นะ อยากจะหัวเราะอยากจะยิ้มมากกว่าร้องไห้ ถ้ามีโอกาสเปลี่ยนให้ได้เล่นเป็นคนดีบ้างเราก็อยากจะเล่น อยากเล่นเป็นพ่อดีๆ อยากจะมอบสายตาดีๆ มีมุมหวานๆ มุมของความรักบ้าง เพราะว่าทุกวันนี้จะเจอมุมของความเกลียดโกรธอาฆาตพยาบาท แต่ว่าเล่นเรื่องนี้คือสนุกมากจริงๆ”
เผยหายจากวงการไปกว่า 3 ปี เพราะปัญหาเรื่องสุขภาพ
“ผมห่างหายจากการเล่นละครไป 3 ปี เนื่องจากว่าไม่สบายเป็นไทรอยด์ หมอเจาะดูก็พบว่าเนื้อมันไม่ค่อยดี มีสิทธิ์ที่จะเป็นมะเร็งได้ควรจะตัดออกซะ ผมว่ามันคงจะเป็นวงจร คือมีอยู่ช่วงหนึ่งที่เล่นเยอะมากเห็นหน้าบ่อย พอมาถึงจุดนึงทางช่องก็เลยบอกว่าหน้าช้ำให้เบรกหน่อย ก็เลยได้พักรักษาตัวเอง ก็ยังคงต้องดูแลตัวเอง ไปฟอลโลว์อาการตามที่คุณหมอนัดทุกๆ 4 เดือนครับ”
“ซึ่งก็ไม่ได้ทำให้เป็นอุปสรรคในการทำงานเลย อาจจะมีแค่เรื่องเสียงที่เราคอนโทรลยากหน่อย เพราะการตัดไทรอยด์มันจะไปเบียดกับเส้นเสียงแล้วทำให้เสียงมันแหบ เวลาพูดยาวๆ เสียงจะแหบ ร้องเพลงไม่ได้ด้วยเพราะว่าคุมคีย์ไม่ได้ นี่คือข้อเสีย แต่นอกนั้นก็ไม่มีปัญหาอะไรครับ สุขภาพแข็งแรงปกติ ขับมอเตอร์ไซค์ ปั่นจักรยานระยะไกลได้ เดินทางไปต่างจังหวัดได้ มาถ่ายเรื่องนี้ผมไม่เคยค้างเลยนะกลับบ้านตลอด ถ้าระยะทางไม่เกิน 200 กิโลเมตรผมเอาอยู่ กลับบ้านนอนมันแฮปปี้กว่า”
เผยคนชอบมองว่าหยิ่ง แค่ไม่เคยง้อของานใคร เพราะถ้าคนเห็นถึงความสามารถก็จะเข้ามาหาเอง
“บางคนจะมองว่าผมหยิ่ง แต่จริงๆ คือ เราไม่รู้จะคุยเรื่องอะไร อย่างในเรื่องนี้น้องนักแสดงวัยรุ่นเข้าฉากด้วยกันบ่อย ถ้าน้องๆ เขาอยากรู้อะไรแล้วเขามาถาม อะไรที่เราพอจะบอกจะเล่าให้เขาฟังได้เราก็จะเล่า หรือว่าอะไรที่มันเป็นตัวอย่างที่ดีก็จะนำเสนอเขาไป อะไรที่ควรทำไม่ควรทำก็พยายามบอกสอนกัน เราอาจจะเป็นคนโลกส่วนตัวสูงเก็บตัวมากเกินไป ไม่ค่อยเข้าหาใครก่อน”
“เกิดมาพูดได้เลยว่าผมไม่เคยโทรศัพท์ไปขอใครเล่นละคร เราก็เป็นนักแสดงของเราที่เราคิดว่าเราเป็นสินค้า ถ้าเขาอยากจ้างเราเขาก็จ้างเอง ถ้าเขาไม่อยากจ้างก็แล้วแต่เขา เป็นคนประจบไม่เป็น อาจจะเพราะว่าเป็นลูกนายทหารด้วยมั้งครับ เลยไม่ค่อยอยากจะพึ่งใคร มีความรู้สึกว่าถ้าเราไปพึ่งใครเราไปขอความช่วยเหลือจากใคร มันจะเป็นเรื่องของบุญคุณ เราต้องตอบแทน ถ้าเป็นไปได้ก็ช่วยเหลือตัวเองก่อน”
บอกธุรกิจร้านสเต็กไปได้สวย เปิดมา 15 ปีแล้วยังคงอยู่ได้ดี
“นอกจากเล่นละครแล้ว ธุรกิจร้านสเต็กก็ยังทำอยู่ครับ ถือว่าดีและยังอยู่ได้ ก็ถือว่าเราเลือกถูก ไม่ได้ชอบทานนะครับ เพียงแต่ว่าพอวันนึงเราคิดว่าจะทำธุรกิจก็คิดว่าอะไรที่ทำแล้วมันพอมีกำไร ไม่เหนื่อยมาก ไม่วุ่นวาย หมู เนื้อ ปลา จบเลยไม่ยุ่งยากมาก ก็เลยทำและอยู่มาได้ 15 ปี ผมไม่ค่อยไปร้านนะ เพราะแฟนจะเป็นคนทำ เราเหมือนเป็นคนสร้าง แต่ให้แฟนเป็นคนดูแลบริหารไป ถือว่าประสบความสำเร็จนะ ขนาดอยู่หนองหมาว้อนะ (หัวเราะ) ซ้ายทุ่งนา ขวาลำคลอง”
“15 ปีที่แล้วใครๆ ก็บอกว่าบ้า ไปเปิดได้ยังไงคลอง 11 ลำลูกกา ไม่ได้เป็นแหล่งท่องเที่ยวอะไรเลย ตอนนั้นถือว่าเราเสี่ยง และแล้วมันก็เดินของมันไปตามทางที่เราวางเอาไว้ อาจจะไม่ได้ร่ำรวยมาก เพราะว่าเราไม่ได้เปิดในเมือง แต่ ณ วันนี้เราไม่เดือดร้อน วันนึงถ้าไม่มีงานแสดงเราก็จะทำธุรกิจตรงนี้ไป วันนี้มาแสดงละครก็ไม่ได้รู้สึกว่าเรามาเพราะความลนลาน เรามาเพราะว่าเรารักเราอยากทำ ตอนนี้อยากจะปฏิเสธก็ได้แล้ว และเราอยากให้คนดูได้ดูของดี ดูอะไรที่เราอยากทำออกมาจากใจเรา”
“ก็ต้องขอบคุณสำหรับทุกกำลังใจที่ติดตามกันมานะครับ อยากให้ติดตามกันไปเรื่อยๆ จะยังสร้างสรรค์ผลงานออกมาให้ได้ชมกันอีก และฝากละครเรื่องสมบัติมหาเฮงนี้ไว้ด้วย อีกไม่นานคงจะได้รับชมกันทางช่อง 7HD ผมว่าเป็นละครที่แปลกใหม่สนุก เป็นละครที่มีความน่ารัก มีความระทึก เรื่องราวน่าติดตามมีมุมมองใหม่ๆ ที่ผู้กำกับเอามาแทรกเอามาใส่ไว้ในละครเรื่องนี้มากมาย ผมว่าเป็นละครที่ครบรส ถ้าคุณไม่ดูจะต้องเสียใจนะครับ”