"เฉินลี่ฟง" มารดาของ "โจวเหวินฟะ" ได้เสียชีวิตลงแล้วด้วยวัย 98 ปี โดยพระเอกชื่อดังได้จัดพิธีศพอย่างเรียบง่าย, แทบไม่ได้แจ้งข่าวให้เพื่อน ๆ ในวงการบันเทิงทราบเลย และนำอัฐิของแม่ไปเก็บรักษาไว้ที่เกาะลัมมะ บ้านเก่าของครอบครัวเมื่อหลายปีก่อน
สื่อฮ่องกงได้รายงานข่าวเศร้าของพระเอกซูเปอร์สตาร์ โจวเหวินฟะ ว่าเขาได้สูญเสียคุณแม่ เฉินลี่ฟง ไปด้วยวัย 92 ในช่วงเดือน ก.พ. ที่ผ่านมา
พระเอกชื่อดังได้ชื่อว่าเป็นคนรักแม่มาก มีข่าวลือว่าเขาเคยต้องเลิกรากับ เฉินอี้เหลียน ไปเพราะฝ่ายหญิงเข้ากับแม่ของเขาไม่ได้ โดยเมื่อเร็ว ๆ นี้ เฉินอี้เหลียน ก็เพิ่งพูดถึงเรื่องนี้เป็นครั้งแรก และยอมรับกลาย ๆ ว่าตอนนั้นเธอค่อนข้างหัวดื้อ ก็เลยเข้ากับผู้ใหญ่อย่างแม่ของ โจวเหวินฟะ ไม่ค่อยได้ สุดท้ายความสัมพันธ์ระหว่างกันก็เลยต้องจบลงในที่สุด
โดย โจวเหวินฟะ เป็นลูกคนที่ 3 ในจำนวนพี่น้อง 4 คน เขามีพ่อที่ทำงานเป็นกะลาสีเรือ ที่ใช้ชีวิตส่วนใหญ่นอกบ้าน ทำให้ โจวเหวินฟะ ใช้ชีวิตอยู่กับแม่เป็นหลัก แม่จึงเป็นคนที่สำคัญกับชีวิตของเขามาก
การใช้ชีวิตบนเกาะเล็ก ๆ กับครอบครัวที่ไม่ได้มีเงินอะไรมากมาย ทำให้ โจวเหวินฟะ ต้องอดทนมาตั้งแต่เด็ก เขาช่วยที่บ้านทำงานมาตั้งแต่อายุน้อยมาก ๆ เคยทำงานในไร่ตั้งแต่อายุ 6 ขวบ
เติบโตในครอบครัวเล็ก ๆ บนเกาะที่ฮ่องกง โดยมีแม่เป็นเสาหลักของบ้าน
เมื่อโตขึ้นก็เริ่มรับรู้ว่าที่บ้านมีปัญหาทางการเงินค่อนข้างหนัก โจวเหวินฟะ ก็เลยช่วยแม่ทำงานอย่างสุดความสามารถ ทั้งขายขนม และผลไม้ เพื่อนำรายได้มาช่วยเหลือจุนเจือที่บ้าน
ขณะที่พ่อของเขากลับไม่ได้ทำตัวเป็นเสาหลักของครอบครัวเลย ทั้งติดพนัน และไม่มีความรับผิดชอบ แม่ของ โจวเหวินฟะ จึงเหมือนเป็นหัวหน้าครอบครัวไปโดยปริยาย
เมื่อ โจวเหวินฟะ เริ่มเรียนชั้นมัธยม เขาก็เริ่มหางานทำเป็นเรื่องเป็นราว กว่าจะเป็นพระเอกที่ดังระดับโลก โจวเหวินฟะ เคยทำงานทั้งเป็นคนขัดรองเท้า, เสิร์ฟอาหาร และยกกระเป๋าในโรงแรมมาแล้ว
จนเมื่ออายุ 18 ปี โจวเหวินฟะ จึงสมัยเข้าเป็นนักเรียนการแสดงของ TVB และจบการศึกษาเป็นรุ่นที่ 3 ของ โรงเรียน เขากลายเป็นพระเอกหนังชุดทางโทรทัศน์ และยิ่งโด่งดังในระดับโลก เมื่อร่วมแสดงหนังคลาสสิคในตำนาน "โหด เลว ดี" เมื่อปี 1986
แม่, ผู้หญิงที่สำคัญที่สุดในชีวิตของ "โจวเหวินฟะ"
ซึ่งแม้จะทำเงินได้อย่างมหาศาล และสร้างชื่อเสียงจนโด่งดังขึ้นเรื่อย ๆ แต่ โจวเหวินฟะ ก็ไม่ได้ดูแลแม่ด้วยเงิน หรือสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ เท่านั้น แต่เขายังพยายามหาเวลาจากตารางการทำงานที่ยิ่งเหยิงสุด ๆ เพื่อให้ได้อยู่กับแม่อย่างน้อยครึ่งวันของทุก ๆ สัปดาห์
ตอนที่แม่ของ โจวเหวินฟะ มีปัญหาเกี่ยวกับหัวเข่าเมื่อไม่กี่ปีก่อน โจวเหวินฟะ ก็พยายามหาหมอที่ดีที่สุดมารักษา และเป็นผู้ขับรถไปส่งแม่ไปทำกายภาพด้วยตัวเองในทุก ๆ วัน
ปกติคุณนายโจว จะพยายามหาเวลาทำบุญ และช่วยงานการกุศลต่าง ๆ อยู่เสมอ จนเมื่ออายุมากขึ้นสุขภาพแย่ลง จึงไม่สามารถไปร่วมงานต่าง ๆ ได้ด้วยตัวเอง โดยเมื่อปี 2008 ในวัย 86 ปี เฉินลี่ฟง ได้รับรางวัลเป็นชาวจีนผู้โดดเด่นระดับโลกมาแล้ว ซึ่งในงานวันนั้นท่านได้กล่าวถึงการทำงานที่แม่ และการสั่งสอนลูก ๆ ว่า "ฉันพยายามสอนให้ลูกอยู่ในสังคม และเอาตัวรอดให้ได้แค่นั่นเอง แต่เกิดมาไม่พิการก็ถือว่าเป็นบุญแล้ว"
โดยตัวของ โจวเหวินฟะ เคยบอกว่า "ถ้าเกิดชาติหน้าขอให้ผมได้เกิดมาเป็นลูกแม่อีกครั้งก็พอแล้ว"
