ดรามาขึ้นมาจนกลายเป็นแฮชแท็กอันดับ 1 กันเลยทีเดียว
ด้วยพลังแห่งรัก และศรัทธาของกลุ่มโอตะวงไอดอลเกิร์ลกรุ๊ป อย่าง BNK48 ที่ไม่พอใจเป็นอย่างยิ่ง ต่อกรณีที่มีการเผยแพร่คลิปของผู้เข้าประกวดจากรายการ The Brothers Thailand รายการประกวดเฟ้นหาไอดอลชาย ที่จะออกอากาศทางช่อง 3 ซึ่งเข้าไปใช้ BNK48 The Campus เป็นสถานที่ถ่ายทำ
เพราะในความรู้สึกของชาวโอตะแล้ว ถือว่า BNK48 The Campus เป็นพื้นที่สงวน ที่ไม่สมควรที่จะมีการอนุญาตให้ผู้อื่นผู้ใดเข้าไปใช้บริการได้
ถ้าไม่ใช่กิจกรรมที่เกี่ยวข้องโดยตรงของ BNK 48 กับโอตะ !!!!
เรื่องนี้ไม่ใช่แค่การหลับหูหลับตาห้ามหวงโดยไม่มีเหตุผล แต่มีเบื้องลึกเบื้องหลังที่ซับซ้อน และสมควรที่บรรดาโอตะทั้งหลายจะรวมตัวกันก่อหวอด
เป็นชนวนของการเกิดรอยร้าวรอยใหญ่ ชนิดที่ไม่รู้ว่าจะสามารถกลับมาประสานกันติดหรือไม่ ? อย่างไร ?
จุดเริ่มต้นมาจากตั้งแต่เมื่อคราที่ บริษัท โรส เอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอร์ปอเรชั่นได้ซื้อสิทธิโมเดลของไอดอลญี่ปุ่นอย่าง AKB48 เพื่อมาบุกตลาดในเมืองไทย ภายใต้แบรนด์ BNK48
ทั้งนี้โดยมีการจัดตั้งบริษัทย่อยชื่อ BNK48 Office เพื่อเข้ามาบริหารวง รวมกระทั่งการจัดสรรรายได้และงบประมาณทั้งหมด และมีการประกาศสมาชิกรุ่นแรก ในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2560 ซึ่งในเบื้องต้นของการถือกำเนิดวง BNK48 นั้น ยังไม่มีสถานที่ฝึกซ้อมอย่างเป็นเรื่องเป็นราว เป็นเหตุให้สมาชิกของวงจำเป็นต้องเปลี่ยนสถานที่ซ้อมอยู่เป็นระยะ
ต้นสังกัดเอง ก็มองเห็นถึงปัญหา อุปสรรค และความไม่คล่องตัวที่เกิดขึ้น กระทั่งออกซิงเกิลมาได้ 3 เพลง และเริ่มมีโอตะเหนียวแน่นในระดับหนึ่ง จึงมีการสร้างห้องกระจกเล็กๆ ขึ้นที่เอ็มควอเทียร์ เพื่อใช้เป็นสถานที่ซ้อม รวมถึงเป็นแหล่งพบปะสังสรรค์ระหว่างสมาชิก BNK48 กับบรรดาโอตะในคราเดียวกัน
และด้วยพลังของโอตะนี่เอง ที่เป็นแหล่งสร้างรายได้อย่างหนึ่ง โดยการสนับสนุนสินค้าที่ทางต้นสังกัดผลิตออกมาจำหน่ายเป็นระยะๆ
จวบกระทั่งเมื่อทาง BNK48 Office มีแผนการที่จะสร้างสถานที่ที่จะใช้เป็นศูนย์กลางเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่าง BNK48 และเหล่าโอตะให้แน่นแฟ้นและยั่งยืนมายิ่งขึ้น โดยวาดโครงการไว้ว่า จะต้องเป็นสถานที่ที่ต้องมีทั้งเวทีการแสดง , ร้านขายของที่ระลึก และหมายรวมถึงร้านกาแฟ รวมอยู่ในที่เดียวกัน สำหรับไว้ทำกิจกรรมต่างๆ ในลำดับต่อๆ ไป ซึ่งก็เป็นโมเดลเดียวกับที่วง AKB48 ใช้ คือมีเธียเตอร์ อยู่ที่ห้างดองกี้ ในย่านอากิฮาบาระ โดย Campus ของ BNK48 มีพื้นที่ใช้สอยรวมประมาณ 1,000 ตารางเมตร อยู่บนชั้น 4 ของห้างเดอะ มอลล์ บางกะปิ
ประเด็นมันอยู่ตรงที่ค่าใช้จ่ายในการก่อสร้าง Campus ในพื้นที่ขนาดนี้ และต้องมีฟังก์ชันที่ครบครันตามที่วางโครงการไว้นั้น จะต้องใช้เงินมหาศาล ในขณะที่รายได้ของ BNK48 ยังไม่มากพอที่จะดำเนินการดังกล่าวได้
จึงเป็นที่มาของการระดมทุนครั้งยิ่งใหญ่ !!!!
ด้วยการผลิตสินค้าพิเศษที่ชื่อ Founder Member Box ออกมาวางจำหน่ายในราคากล่องละ 20,000 บาท จำนวนทั้งหมด 1,000 กล่องด้วยกัน
โดยบวกลบคูณหารแล้วว่า ถ้าขายหมด ต้นสังกัดจะได้เงินก้อนมาเหนาะๆ 20 ล้านบาท บวกกับรายได้จากทางอื่นๆ สิริรวมแล้ว ประมาณ 30 ล้านบาท ซึ่งก็มากพอที่จะใช้ในการก่อสร้าง จนกระทั่งแล้วเสร็จ และสามารถเปิดใช้อย่างเป็นทางการได้ในวันที่ 11 พฤษภาคม 2561
ฉะนั้นก็ไม่แปลก หากบรรดาโอตะทุกคนจะรู้สึกว่าตัวเอง ต่างก็มีศักดิ์ และศรี ในฐานะที่เป็นหนึ่งในหุ้นส่วนของ BNK48 The Campus ทั้งยังมองว่าเป็นสถานที่ที่มีคุณค่าทางจิตใจมากเกินกว่าที่จะให้ใครก็ได้ ที่ไม่ใช่ BNK 48 เข้ามาข้องเกี่ยว
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ขึ้นไปเหยียบบนเวทีของเธียเตอร์ !!!
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าในเวลาต่อมา ฐานความนิยมของ BNK 48 จะเพิ่มมากขึ้น ยังผลให้รายได้หลั่งไหลเข้ามามากตามไปด้วย แต่ต้นสังกัด ซึ่งเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น Independent Artist Management หรือชื่อย่อ iAM ก็ยังมีแผนการที่จะขายไลน์ธุรกิจให้เติบโตมากยิ่งขึ้น
ไม่ว่าจะเป็นการขยายฐานการตลาดเกิร์ลกรุ๊ปไอดอลสู่ภูมิภาคต่างๆ ทั่วไทย
และหมายรวมถึงการนำโมเดลของ BNK48 เข้ามาใช้ ในธุรกิจศิลปินไอดอลชาย โดยใช้ชื่อรายการว่า The Brothers ที่มีภรรยาของพระเอก “ติ๊ก-เจษฎาภรณ์ ผลดี” ร่วมเป็นหุ้นส่วน ซึ่งก็ได้รับความสนใจในหมู่วัยรุ่น มีผู้ที่สนใจสมัครเข้าร่วมรายการถึง3,500 คน และจะทำการคัด จนเหลือ 20 คนสุดท้าย เพื่อนำมาเข้าคอร์สเทรนนิ่งเป็นเวลา 90 วัน โดย 3 คนสุดท้ายที่ชนะเลิศจะได้เซ็นสัญญาเป็นนักแสดงในสังกัดช่อง 3
ประเด็นดรามาเกิดขึ้นในรอบคัดจาก 120 คนให้เหลือ 40 คน ที่ใช้สถานที่ BNK4 The Campus เป็นสถานที่จัดเวิร์ค ช้อป
และซีนที่ยังความไม่พอใจให้กับเหล่าโอตะเป็นอย่างยิ่ง ก็คือมีหนึ่งในผู้เข้าประกวดขึ้นไปนั่งบนเวทีเธียเตอร์ !!!
สถานที่ที่ก่อสร้างขึ้นมาด้วยเม็ดเงินส่วนหนึ่งจากการระดมทุนของบรรดาโอตะ และสมควรจะถูกสงวนไว้เฉพาะกิจกรรมของ BNK48 กลับถูกนำมาแปรเป็นสถานที่ที่ทางต้นสังกัดนำมาเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ในทางอื่น
อย่างไรก็ดี แม้ว่าทาง iAM จะออกมาแสดงความรับผิดชอบในเบื้องต้นด้วยการงดเผยแพร่คลิปดังกล่าว เพื่อไม่ให้กระทบกับความรู้สึกของบรรดาโอตะมากกว่านี้
แต่ก็ดูเหมือนว่าจะไม่ได้ช่วยทำให้สถานการณ์คลี่คลายมากขึ้นเท่าใดนัก !!!!
งานนี้ก็ไม่รู้ว่าทาง iAM จะแก้เกมต่อไปในทิศทางไหน ที่แน่ๆ ถ้าขืนปล่อยให้สถานการณ์ยังคงมาคุอยู่อย่างนี้ ย่อมไม่ก่อให้เกิดผลดีขึ้นอย่างแน่นอน !!!???
นิตยสารผู้จัดการ 360 องศา สุดสัปดาห์ ฉบับประจำวันที่ 22-28 กุมภาพันธ์ - 2563
