พิธีเปิดตัว “วิทยาลัย ติงเซียง หม่าม้า “ (Dingxiang Mama College) ซึ่งนำเสนอคอร์สเรียนออนไลน์เกี่ยวกับการตั้งครรภ์ และความรู้ด้านการคลอดบุตร ที่จัดขึ้นในกรุงปักกิ่ง เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ได้รับความสนใจอย่างล้นหลาม
ซ่งข่ายเหวิน สาวออฟฟิศในปักกิ่งวัย 32 ปี หนึ่งในผู้ใช้บริการ เป็นคุณแม่ของลูกสาวอายุ 5 เดือน โดยเธอรู้สึกกังวลและกดดันกับบทบาท ‘คุณแม่’ ของเธอเป็นอย่างมาก
“ฉันรู้สึกกดดันมากเมื่อต้องกลายเป็นคุณแม่มือใหม่ เวลาที่ลูกร้องไห้และไม่ยอมนอนในตอนกลางคืน ฉันพยายามลองวิธีต่างๆ เพื่อให้ลูกหยุดร้อง เช่นป้อนอาหาร เปลี่ยนผ้าอ้อม อุ้มเธอไว้ในอ้อมกอดและพาเดินไปรอบๆ บ้าน สามีของฉันก็ลุกขึ้นมาช่วยฉันด้วย “ ซ่งกล่าว
“อย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์ก็ยังออกมาไม่เป็นที่น่าพอใจเท่าไร ลูกสาวของฉันมักจะร้องไห้นาน 30-40 นาทีในแต่ละครั้ง และหลับไปหลังร้องไห้จนเหนื่อย ฉันต้องพยายามตื่นขึ้นมาดูลูก แม้ว่าฉันจะเหนื่อยขนาดไหน และยังต้องไปทำงานในเช้าวันถัดไป “
เมื่อลูกสาวของซ่งเป็นไข้หรือมีอาการไอ ในฐานะคนเป็นแม่ เธอรู้สึกกังวลอย่างมาก “ฉันควรพาลูกไปพบแพทย์ทันทีหรือให้ยากับลูกดีนะ ? ฉันไม่มั่นใจเรื่องของปริมาณยาที่ควรให้ และค่อนข้างกังวลเกี่ยวกับผลข้างเคียง”
แม้ความรู้ในการเลี้ยงลูกของซ่งนั้นมีจำกัด แต่แล้วความกังวลของเธอก็คลี่คลายลง เมื่อเพื่อนของเธอแนะนำให้เธอใช้ ‘ติงเซียง หม่าม้า’ แพลตฟอร์มรวบรวมข้อมูลสำหรับแม่และเด็ก
ซ่งสามารถค้นหาวิธีแก้ไขปัญหาการเลี้ยงลูกสาวของเธอได้อย่างรวดเร็ว “ฉันยินดีจ่ายเงินสำหรับหลักสูตรออนไลน์ที่ติงเซียง หม่าม้าจัดให้ เพราะพวกเขาสอนให้ฉันรู้ถึงวิธีการเป็นแม่ที่ดี”
ติงเซียง หม่าม้า เป็นผู้ให้บริการข้อมูลด้านสุขภาพออนไลน์ ในเครือของบริษัทติงเซียงหยวน มีเป้าหมายให้บริการข้อมูลด้านแม่และเด็กระดับมืออาชีพสำหรับคุณแม่ โดยมีผู้ใช้งานในปัจจุบันมากกว่า 10 ล้านคน
บริษัทฯ กำลังดำเนินการในการให้บริการความรู้ที่สามารถชำระเงินซื้อทางออนไลน์ และจะเพิ่มการลงทุนในด้านการจัดทำบทเรียนออนไลน์ที่เกี่ยวข้องกับการตั้งครรภ์การคลอดบุตร รวมไปถึงการเลี้ยงดูบุตร เพื่อช่วยขจัดความวิตกกังวลให้แก่เหล่าคุณแม่มือใหม่ ฉู่หยาง รองประธานบริษัท ติงเซียงหยวน (Dingxiangyuan) และผู้ก่อตั้งบริษัท ติงเซียง ดอกเตอร์ (Dingxiang Doctor) และติงเซียง หม่าม้า (Dingxiang Mama) กล่าว
“บริการให้ความรู้แบบต้องชำระเงิน คิดเป็นสัดส่วนประมาณร้อยละ 80 ของรายได้รวมของติงเซียง หม่าม้า โดยมีจำนวนลูกค้าที่ชำระเงินมากกว่า 800,000 ราย” ฉู่กล่าว
“เราต้องการช่วยให้คำแนะนำสำหรับผู้หญิงทีเปลี่ยนสถานะมาเป็นคุณแม่มือใหม่ และคลายความวิตกกังวล ดังนั้นเราจึงตัดสินใจเข้าร่วมในระบบแพลตฟอร์มการให้ความรู้นี้”
ฉู่มีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสในธุรกิจการให้บริการข้อมูลออนไลน์แบบเสียค่าใช้จ่าย ขณะที่กลุ่มแม่และเด็กนับว่าเป็นภาคที่ใหญ่ที่สุดของอุตสาหกรรมสุขภาพ
กลุ่มวิจัยและให้คำปรึกษาด้านการตลาดไอรีเสิร์ช (iResearch) กล่าวว่า อุตสาหกรรมให้ความรู้ออนไลน์แบบชำระเงินของจีน มีแนวโน้มว่าจะเติบโตอย่างมากในอีก 3 ปีข้างหน้า รายได้คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 2.35 หมื่นล้านหยวน (ประมาณ 1.04 แสนล้านบาท) ในปี 2020 จากตัวเลข 4.91 พันล้านหยวน (ประมาณ 2.1 หมื่นล้านบาท) เมื่อปี 2017
ตู๋อี้ตาน หัวหน้าฝ่ายธุรกิจของติงเซียง หม่าม้า กล่าวว่า ผู้เกิดยุคหลังปี 1990 ได้กลายเป็นแรงผลักดันสำคัญของตลาดสินค้าแม่และเด็ก ผู้ใช้หลักของติงเซียง หม่าม้า มาจากเมืองหลักและเมืองรองที่มีการศึกษาและรายได้สูงทั้งยังต้องการความรู้เกี่ยวกับการตั้งครรภ์และการเป็นพ่อแม่จากอินเตอร์เน็ตเป็นอย่างมาก
“เรามีผู้เชี่ยวชาญมากกว่า 800 คน ส่วนใหญ่เป็นแพทย์จากโรงพยาบาลระดับ 3A ซึ่งเป็นระดับที่สูงที่สุดในระบบการจัดอันดับโรงพยาบาลรัฐในประเทศจีน และเรายังมีคณะกรรมการตรวจสอบอีกกว่า 1,000 คน”
บริษัทได้เปิดตัว “วิทยาลัย” สำหรับหญิงตั้งครรภ์ในขั้นแรก สอนพวกเธอถึงวิธีการเตรียมความพร้อมสำหรับการตั้งครรภ์, การมีสุขภาพและรูปร่างที่ดี พร้อมกับให้ข้อมูลเกี่ยวกับการคลอดและการดูแลทารกแรกเกิด
ในอนาคตจะมีการแนะนำเนื้อหาเพิ่มเติม ผู้ใช้สามารถเลือกหลักสูตร และกำหนดแผนการเรียนรู้ตามความต้องการของตนเองได้อย่างอิสระ
สถิติจากไอรีเสิร์ช ยังแสดงให้เห็นว่ารายได้ในวงการธุรกิจแม่และเด็กสูงถึง 2.5 ล้านล้านหยวน (ประมาณ 11 ล้านล้านบาท) ในปี 2018 และคาดว่าจะสูงถึง 3 ล้านล้านหยวน (ประมาณ 13 ล้านล้านบาท) ในปี 2020
อวี๋ปิน ผู้วิจารณ์อิสระในวงการอุตสาหกรรมอินเตอร์เน็ตกล่าวว่า ภาคการแบ่งปันความรู้ควรเน้นเนื้อหาที่มีคุณภาพ, เนื้อหาเชิงลึก และสำรวจความต้องการข้อมูลที่เป็นปนะโยชน์ในอนาคตมากขึ้นเพื่อดึงดูดผู้ใช้งาน