xs
xsm
sm
md
lg

ฟังอีกมุม! ประโยชน์ของการนำเสนอข่าวผู้ก่อเหตุรุนแรง เพื่อศึกษาปัญหาและนำไปสู่การแก้ไข

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ฟังข้อดีการเสนอข้อมูลของผู้ก่อเหตุรุนแรง เผยอาจช่วยให้รูที่มาของปัญหาและวิธีแก้ไขได้ในอนาคต หลังมีกระแสเรียกร้องให้สื่อเลิกเสนอชื่อและใบหน้าผู้ก่อเหตุรุนแรง

จากกรณีสุดสลด จ.ส.อ.จักรพันธ์ ถมมา ทหารสังกัดค่ายสุรธรรมพิทักษ์ ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิง พ.อ.อนันต์ฐโรจน์ กระแส อายุ 48 ปี ผู้บังคับกองพันสรรพาวุธกระสุนที่ 22 กองบัญชาการช่วยรบที่ 2 กองทัพภาคที่ 2 และ นางอนงค์ มิตรจันทร์ อายุ 65 ปี แม่ยายของ พ.อ.อนันต์ฐโรจน์ เสียชีวิต ก่อนกลับมาที่ค่ายสุรธรรมพิทักษ์ ขโมยรถฮัมวีพร้อมอาวุธสงครามจำนวนมากเข้ามาที่ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช ถนนมิตรภาพ ต.ในเมือง อ.เมืองฯ จ.นครราชสีมา กราดยิงผู้คนภายในห้างฯ จนมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก เมื่อช่วงเย็นวันที่ 8 ก.พ.

นอกจากนี้ยังมีการเรียกร้องไม่ให้นำเสนอชื่อ ใบหน้า หรือแม้กระทั้งการตั้งฉายาให้กับผู้ก่อเหตุสลดกราดยิงกลางเมืองโคราช เพื่อเป็นการลดความเจ็บปวดของผู้สูญเสีย และเพื่อไม่ให้เกิดพฤติกรรมเอาอย่าง อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 10 ก.พ. ผู้ใช้เฟซบุ๊ก “Whee Pongpiphat” ได้ออกมาโพสต์ข้อความอธิบายเพื่อให้เห็นอีกแง่มุมหนึ่งของการนำเสนอข้อมูลต่างๆ ของผู้ก่อเหตุความรุนแรง โดยได้ระบุข้อความว่า

“ท่ามกลางกระแสเรียกร้องให้สื่อมวลชนและสาธารณชน “ไม่เนมชื่อ+ไม่ใช้ภาพ” คนร้ายกราดยิงโคราช เพื่อลดความเจ็บปวดของผู้สูญเสีย และเพื่อไม่ให้เกิดพฤติกรรมเอาอย่าง แต่การให้ข้อมูลต่างๆ เหล่านี้เก็บไว้เป็นประวัติศาสตร์ก็น่าจะมีประโยชน์ต่อการเรียนรู้ ค้นหาที่มาของปัญหา และหาวิธีแก้ไขต่อไปในอนาคต เอาเข้าจริง เคสมือปืนกราดยิงโคราช กับมือปืนกราดยิงมัสยิดที่นิวซีแลนด์ก็มีรายละเอียดที่แตกต่างกัน กรณีหลังชัดเจนว่าคนร้ายต้องการชื่อเสียง ต้องการส่งผ่านอุดมการณ์บางอย่าง ต่างจากกรณีแรกที่เริ่มจากความคับแค้นและเลยเถิดไปเป็นการสังหารหมู่

และท่ามกลางเสียงชื่นชมเจ้าหน้าที่ที่ยุติเหตุร้ายลงได้ การตรวจสอบการทำงานของเจ้าหน้าที่ว่ามีประสิทธิภาพพอหรือไม่ ทำให้ดีขึ้นกว่านี้ได้ไหม ละเมิดขั้นตอนต่างๆ ที่ควรกระทำหรือเปล่า - ก็ยังเป็นสิ่งที่ควรกระทำ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็เข้าใจอารมณ์ของสังคมช่วงนี้แหละ บางเรื่องยังละเอียดอ่อนอยู่ ต้องดูจังหวะในการเสนอเรื่องนี้ดีๆ หวังว่า จะมีการสรุปบทเรียนเพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุจริงๆ เพราะโศกนาฎกรรมที่เกิดขึ้น ชัดเจนว่าไม่ใช่แค่เรื่องของ “บุคคล” แต่เป็นปัญหาของ “ระบบ” บางอย่างด้วย มีคนเขียนไว้เยอะแล้ว ขอละไม่ลงรายละเอียด”




กำลังโหลดความคิดเห็น