"ต่อ ธนภพ" ขนลุกเข้าฉากกับ "แอฟ ทักษอร" คอนเฟิร์มแม่กลับมาแล้ว ปัดช่วยเคาะสนิม ยันคำเดิมไม่ได้เก่ง แต่จะทำให้เต็มที่ที่สุด ไม่อยากให้คนดูต้องคาดหวัง ลั่นแฮปปี้อายุ 25 สนุกกับงานจนลืมเบญจเพส
หนุ่มๆ อิจฉากันเลยทีเดียว หลังจากที่ "ต่อ ธนภพ ลีรัตนขจร" เป็นพระเอกที่ได้เปิดซิงการแสดง "แอฟ ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ" ในรอบ 10 ปีกับละคร "ขอเกิดใหม่ใกล้ๆ เธอ" อีกทั้งงานนี้สาวแอฟยังให้เครดิตหนุ่มต่อที่ช่วยเคาะสนิมทางการแสดง โดยเจ้าตัวชี้แจงว่า ไม่ได้เก่งขนาดนั้น
"สนุกดีนะครับ สรุปคืออย่างที่ผมเคยบอกไปแล้วว่า ผมรู้จักกับพี่เขามาก่อนหน้านี้ แต่ว่าละครเรื่องนี้ทำให้สนิทกันมากขึ้น (แอฟบอกเป็นคนเคาะสนิมทางการแสดง?) เนี่ย ผมเห็นตั้งแต่วันงานแถลงข่าวที่ช่องเลย คือผมไม่ได้เก่งขนาดนั้น เพราะว่าเราสนิทกัน รู้จักกันมากกว่า แล้วรู้สึกว่าทุกคนจะมีวันที่ดี และวันที่ตัวเองรู้สึกว่าเรายังทำได้ไม่ได้ คือวันนั้นพี่แอฟเขามีอารมณ์แบบ เหมือนรู้สึกว่าตัวเองอยู่คนเดียว ก็เลยเดินไปหาแล้วบอกว่าจริงๆ พี่เปิดได้เลย พี่ไม่ได้อยู่คนเดียว พี่จะเล่นร้อยเทกพี่ก็เล่นเลย ผมเล่นกับพี่เอง คือหมายถึงว่า ผมรู้สึกว่าในละครหรือว่าโปรเจกต์อะไรก็ตาม มันดีคนเดียวไม่ได้ เราไม่สามารถทิ้งเพื่อนร่วมงานแล้ว ไม่ใช่แค่กับพี่แอฟ กับริชชี่ (อรเณศ ดีคาบาเลส) หรือใครก็ตาม เพราะว่าเรายังไม่อยากให้คนอื่นทิ้งเราเลย แล้วเราจะทิ้งคนอื่นได้ยังไง"
คอนเฟิร์ม แม่กลับมาแล้ว ขนลุกเข้าฉากด้วยกัน
"หลังจากนั้นก็มาเลย แม่กลับมาแล้ว(หัวเราะ) ทุกวันนี้โอเคเลย ดีมาก เพราะว่าจริงๆ แล้วตอนที่ออดิชั่นด้วยกัน พี่แอฟเก่งมากเลยนะครับ มันเหมือนกับมีวันหนึ่งที่เราลองเล่นกันแบบไม่จริงจัง แต่ว่าเล่นให้พี่บอย (ถกลเกียรติ วีรวรรณ) พี่ป้อน (นิพนธ์ ผิวเณร) ดู ผมขนลุกเลย ตอนเล่นกับพี่แอฟ พี่แอฟเล่นดีมาก"
กดดัน ไม่อยากให้ใครต้องมาคาดหวัง ยังคงแนวคิดเดิมไม่ได้เก่ง
"จริงๆ อยากบอกมากว่าเราเองเป็นคนทำงาน พูดตรงๆ คือเราไม่รู้หรอก บางครั้งเราไม่ได้ต้องการให้ใครมานั่งคาดหวังถึงเรา คือหลายๆ โปรเจกต์ที่ทุกคนดูผมมา ผมไม่ได้ทำจากความคาดหวัง ผมทำเต็มที่เท่าที่ผมทำได้ แล้วทุกครั้งที่เติบโตขึ้นมันก็อาจเติบโตได้มากขึ้น ก็เลยรู้สึกว่าอยากให้คงแนวคิดเดิมกันไว้ว่าเรายังไม่ได้เก่งขนาดนั้น เราก็ไม่อยากให้คาดหวังไปเกินกว่าเหตุ แต่ว่าอยากให้รอดู เพราะว่าเรื่องนี้มันใหม่มากสำหรับผม ส่วนกระแสจิ้นที่มาตั้งแต่ละครไม่ออนแอร์ แฟนคลับพี่แอฟน่ารักด้วยนะครับ บ้านผมก็น่ารัก พอเจอบ้านพี่แอฟที่น่ารักเช่นกัน มันเลยเกิดการร่วมงานกันง่ายขึ้น แล้วพี่แอฟน่ารักกับทุกคน"
ใกล้วันเกิดยังต้องทำงานหนัก
"ทำงานครับ ถ่ายภาพยนตร์ ก็คือจริงๆ ปีนี้ผมทำงานหนักมาก แทบไม่มีโอกาสเจอพี่ๆ นักข่าวที่งานเลย ไม่ใช่ว่าเราไม่ไปนะ เราไปไหนไม่ได้ เพราะว่าละครก็ถ่าย ภาพยนตร์ก็ต้องรีบเร่ง ก็เลยแบบ จริงๆ ช่วงนี้ผมหนักมาก"
แฮปปี้กับชีวิต 25 ปี ลืมช่วงเบญจเพส
"ใช่ครับ ลืมคำนี้ไปเลย ผมแฮปปี้กับชีวิต 25 ปีของตัวเอง และอยากจะต้อนรับชีวิต 26 แบบแฮปปี้ด้วยเหมือนกัน ถามว่ามีอะไรหนักไหม ปลายปีที่เริ่มถ่ายหนังครับ ถ้าอยากรู้ว่าหนักยังไง รอหนังฉาย มันมีคอนฟลิกซ์บางอย่างที่ไม่ได้เป็นไปตามบทเสมอไป ผมว่าสามารถเห็นได้ในหนัง เป็นสิ่งที่ไม่เคยเจอ แล้วชีวิตนี้ก็ไม่คิดว่าจะเจอด้วย แต่คิดว่าได้ใช้ครับ เรื่องราวเกิดขึ้นที่นิวยอร์ก สนุกดีครับ รู้สึกว่าหนักสุดแล้วในปีที่ผ่านมา"
โตขึ้น เลือกงานที่ท้าทายขึ้น
"ตั้งใจไหม ตั้งใจครับ แต่พอเป็นงานไม่มีอะไรง่าย อะไรยาก ผมเชื่อว่าประสบการณ์มากขึ้นความสนใจเราจะเปลี่ยนไป ตอนเด็กกว่านี้เราจะสนใจบทประเภทหนึ่ง แต่พอเราโตขึ้นจะเริ่มสนใจไปอีกประเภท แล้วทุกวันนี้เราไม่อยากให้คนยึดติดว่าเราต้องเล่นแบบไหน เราก็จะพยายามเปลี่ยนไปเรื่อยๆ มากกว่า ถามว่ากดดันไหม กดดันครับ แต่ไม่เกี่ยวกับคนอื่นนะ เป็นที่ตัวผมเอง ผมกลัวทำไม่ได้"
มีหน้าที่แสดง คนชี้ความสำเร็จคือคนดู
"นี่คือสิ่งที่ผมพยายามพูด คือผมไม่รู้หรอกครับว่าอันไหนประสบความสำเร็จหรือไม่ประสบความสำเร็จ ผมมีหน้าที่ทำ ทุกวันนี้ผมได้แต่ขอบคุณทุกคน ที่ประสบความสำเร็จได้ไม่ใช่เพราะผม ผมทำแค่เต็มที่ แต่คนที่ทำให้ประสบความสำเร็จคือคนดู ไม่เกี่ยวกับผมครับ ก็คอยดูการเจริญเติบโตของผมมากกว่า จริง ๆ ทุกวันนี้ผมก็รู้สึกว่าเรายังไม่ได้โต เรื่องนี้ผมก็มาเรียนรู้ผมก็มาเรียนรู้กับพี่แอฟเยอะมาก ช่วยได้เยอะครับ"
ขอพรวันเกิดให้ได้นอนก่อน และขอให้ทุกคนชอบผลงาน หนังหลุดไปเลยในรอบ 5 ปี ทุกผลงานคือความทุ่มเท
"ขอให้ได้นอนก่อนก็ดีแล้ว(หัวเราะ) ตอนนี้ไม่ค่อยได้นอน ขอพรให้ได้นอนก่อน พรปีนี้ขอแค่ให้ทุกคนชอบงานเรา ปีนี้เป็นอีกปีหนึ่งที่ผมรักงานทุกชิ้นที่ผมทำ รักมาก เพราะว่าหนังก็คือหลุดไปเลย ใน 5 ปีที่ผ่านมาไม่มีใครเห็นธนภพในเฉดนี้ ละครก็เป็นเวย์ที่ผมสนใจ และได้มีโอกาสมาเล่น ผมก็มีความทุ่มจริงๆ ครับ"