"ปีเตอร์" ขี่มอเตอร์ไซค์ข้ามปี ปลดปล่อย เยียวยาความรู้สึกจากความสูญเสียน้องชาย พร้อมดูแลหลานให้เหมือนดูแลลูก ต้องเข้มแข็ง เดินหน้าต่อเพื่อคนที่ยังอยู่
ผ่านช่วงเวลาแห่งความเศร้า สูญเสียน้องชายด้วยโรคมะเร็งร้าย งานนี้ "ปีเตอร์ คอร์ป ไดเรนดัล" เผยว่าได้จัดทริปขี่มอเตอร์ไซค์เพื่อปลดปล่อยความคิดและเยียวยาจิตใจตัวเองจากความรู้สึกนี้ ตอนนี้เข้มแข็งขึ้น ต้องเดินหน้าต่อเพื่อคนที่ยังอยู่
"สภาพจิตใจต้องเรียกว่าโอเคพร้อมทำงานแล้วครับ แต่ตอนช่วงปลายปีก็ต้องบอกว่าแย่อยู่ ใครๆ ก็คงต้องแย่ มันจะมีจังหวะช่วงปีใหม่ที่ไม่ค่อยมีใครรับงานอยู่แล้วที่สามารถจัดเวลาให้กับตัวเองได้ แล้วผมก็ตามฟอร์ม เวลาที่ผมจะออกไปคิดโน่นคิดนี่การขี่มอเตอร์ไซค์มันทำให้มีเวลา เวลาที่ขี่มอเตอร์ไซค์ที่มันมีธรรมชาติที่สวยงามผมจะนั่งชมธรรมชาติ เติมพลัง ได้ทบทวนเรื่องราวต่างๆ นานาได้ดี ไปภาคเหนือก็เรียกว่าเป็นทริป เพราะว่าก่อนที่น้องจะเสียก็เคยบอกเขาว่าให้รีบหายเร็วๆ จะซื้อมอเตอร์ไซค์ให้คันนึงแล้วไปภาคเหนือด้วยกัน ก็เลยถือว่าเป็นทริปที่ได้พาไมค์ไปเที่ยวด้วย ก็ค่อยๆ ทำใจได้เรื่อยๆ ครับ"
"คือตอนที่ขี่มันก็คงไม่ทันได้คิดถึงเรื่องราวต่างๆ นะ การที่ขี่มอเตอร์ไซค์มันดีตรงที่ได้ฝึกสมาธิให้อยู่กับตัวเอง เพราะว่าสมาธิมันต้องอยู่กับการขับขี่มากกว่าขับรถ มันจะเหมือนกีฬาหลายๆ อย่าง อย่างเช่นกีฬายิงปืน การที่ใช้สมาธิมันจะอยู่ได้นาน มันจะโฟกัสเรื่องราวที่เราอยากจะคิดได้นานเหมือนกัน เพราะฉะนั้นก็ขี่มอเตอร์ไซค์ทั้งวันแล้วก็มานั่งชมวิวธรรมชาติ สวยงามมาก ได้นั่งคิดทวน ผมรู้ตัวว่าผมไม่ได้เป็นไปคนเดียวหรอก มีคนเข้ามาคอมเมนตื ทักทาย ก็มีหลายคนแนะนำเรื่องราวดีๆ มา"
"ก็บอกว่าถ้าอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ต้องให้เวลากับตัวเอง การที่จะเก็บไว้ไม่ใช่เรื่องดีเสมอไป การได้ปลดปล่อยตรงนี้ออกไปมันก็จะช่วยเยียวยาได้ ผมได้เข้าใจชัดเจนคือชีวิตเป็นอะไรที่เต็มไปด้วยอุปสรรค เราเจออุปสรรคแล้วเราจะจัดการกับมันยังไง ถ้าเราเหนื่อย ท้อ ไม่พยายามเราก็จะอยู่ที่เดิม เวลาไม่เคยรอใคร เราต้องพยายามข้ามมันไปให้ได้ เพื่อจะไม่ให้จมไปอยู่ที่เดิม แน่นอนว่าภาพเหล่านั้นเราจะไม่มีวันลืมหรอกว่าเราเคยอยู่จุดนั้น"
ต้องทำใจมากขึ้น เข้มแข็งและเดินหน้าต่อไปเพื่อคนที่ยังอยู่
"ต้องบอกว่าประสบการณ์ชีวิตของผมมันเยอะมาก ผมก็รู้อยู่แล้วแหละว่ามันเป็นชีวิตเราที่ต้องทำใจ คือช่วงที่เราเศร้าก็ร้องไห้ให้มันเต็มที่ไปเลย แต่ว่าเมื่อจบงานแล้วก็ควรจะเข้มแข็งแล้วเดินหน้าไป เพื่อคนที่ยังอยู่ อาจจะไม่ใช่ทุกคนที่ทำใจได้ง่าย มันก็เป็นเรื่องที่ยากมากสำหรับคนๆ หนึ่ง แต่ว่าเรายิ่งช่วยกันใครที่แข็งแกร่งที่สามารถช่วยคนอื่นได้ ก็ประคองกันได้ดีมากขึ้น ผมก็เลยคิดว่าเรากลับไปแก้อะไรมันไม่ได้ สิ่งที่เราทำได้ตอนนี้ก็คือแข็งแกร่งเพื่อคนที่ยังอยู่"
จะดูแลลูกน้องชาย ไม่ต่างจากลูกตัวเอง
"คือจริงๆ แล้วต้องบอกว่าหลานชายยังเล็กมาก เพิ่งจะได้ 2 ขวบ คิดว่าเขาโตมาเขาก็คงจะจำอะไรไม่ค่อยได้ สิ่งที่ผมและครอบครัวรวมถึงเพื่อนๆ ก็คุยกันว่าเราจะต้องช่วยกันเลี้ยงหลาน ช่วยกันเล่าเรื่องราวของไมเคิลให้เขาฟังเยอะเยอะ ให้เขารู้ว่าพ่อเขาเป็นคนดีแค่ไหน พ่อเขามีเรื่องราวแบบไหนให้เขารู้จักพ่อเหมือนพ่อเขายังอยู่ ส่วนอะไรที่สามารถช่วยได้ก็จะเต็มที่อยู่แล้ว ลูกของน้องชายผมว่ามันก็ไม่ได้มีความต่างจากลูกของตัวเองสักเท่าไหร่ เรามีลูกของพี่สาวหรือว่าลูกของน้องชายเราก็รักเหมือนลูกของตัวเอง เพราะฉะนั้นถ้าเขาขาดอะไรเราก็เต็มที่กับเขาอยู่แล้ว"
เผยพร้อมส่งเสียค่าเทอมเต็มที่ หากสปอนเซอร์เข้ารายการเยอะๆ
"ค่าส่งเสียค่าเทอมอะไรพวกนี้ถ้าสปอนเซอร์เข้ามารายการผมเยอะๆ ก็จะเต็มที่แน่นอนอยู่แล้วครับ (หัวเราะ) เพราะผมก็ไม่อยากให้เขาขาดอะไรจากชีวิตไป แต่อย่างที่ว่ายังต้องมีหลายอย่างที่ยังต้องดูแล"
รับวันเกิดที่ผ่านมาไม่มีอะไรพิเศษ แผนที่วางเอาไว้ก็กินเวลาทั้งปี ไม่ชิลสักนิด
"ไม่มีอะไรพิเศษให้กับตัวเองครับนอกจากเวลา เพราะว่าปีที่ผ่านมาก็มีหลายอย่าง ช่วงต้นปีก็มีวางแผนทำรายการหลายรายการ โครงการอื่นก็กำลังวางแผนอยู่ซึ่งมันก็ค่อนข้างจะกินเวลาไปเยอะ ทั้งปีก็ไม่ชิลเลย ทำงานตลอด ด้วยความที่มันเป็นรายการท่องเที่ยวก็ต้องออกไปข้างนอก แต่ก็มีช่วงปลายปีที่มามีเวลาให้ตัวเอง ได้ออกไปขี่มอเตอร์ไซค์"
"เรื่องทำบุญ ก็ทำทุกปีอยู่แล้วครับ ผมไปเดินทางก็ขึ้นก่อนคนเดียว ยังดีที่มีพรรคพวกพาเที่ยว สถานที่ที่ไปทั้งหมดก็สวยมาก เป็นประสบการณ์ใหม่ที่สวยงามอลังการมากที่เราไม่เคยรู้จักมาก่อน ผมขี่มอเตอร์ไซค์ข้ามปีมาประมาณหนึ่งสัปดาห์กลับมาเตรียมงานกองถ่ายก็ไม่ได้เจอลูกเลย จะพาไปหาคุณปู่"