“โอปอล์-หมอโอ๊ค” สุดทนเข้าแจ้งความเอาเรื่องให้ถึงที่สุด หลังถูกแอบอ้างนำภาพไปโฆษณาขายผลิตภัณฑ์อาหารเสริม เพิ่มขนาดอวัยวะเพศ 15 เพจ ใช้ภาพใส่เสื้อกาวน์ตุ๋นเหยื่อ ให้คำแนะนำผิดๆ ถูกๆ เรื่องสุขภาพ ฝ่ายชายรับเซ็งมาก โดนทุกปี วอนอย่าหลงเชื่อ
งานเข้าอีกแล้วสำหรับ "หมอโอ๊ค สมิทธิ์ อารยะสกุล” และภรรยา “โอปอล์ ปาณิสรา อารยะสกุล” ที่ถูกกลุ่มคนไม่หวังดี แอบอ้างนำรูปไปตัดต่อเปิดเพจโฆษณาและขายสินค้าผลิตภัณฑ์อาหารเสริม ซึ่งเมื่อปีที่แล้วทั้งสองคนเคยเจอลักษณะเหตุการณ์คล้ายกัน คือแอบอ้างขายยาลดความอ้วนแต่ครั้งนี้ทั้งคู่โดนแอบอ้างขายกาแฟลดน้ำหนักและยานวดเพิ่มขนาดอวัยวะเพศ
โดยในวันนี้ (27 ธ.ค.) ในเวลา 9.30 น. โอปอล์-หมอโอ๊คได้เดินทางพร้อมหลักฐานเข้าแจ้งความที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) และเปิดใจให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนถึงกรณีดังกล่าวว่ามีการแอบอ้างตั้งแต่วันที่ 12 ธันวาคม มีผู้เสียหายเป็นจำนวนมากที่หลงเชื่อสั่งซื้อสินค้าไปใช้
หมอโอ๊ค : “อย่างที่หลายๆ ท่านน่าจะได้เห็นกันว่ามีการแอบอ้างชื่อผมและคุณโอปอล์ไปใช้ในการขายผลิตภัณฑ์ที่เราไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอีกแล้ว เป็นลักษณะของการขายออนไลน์ เฟซบุ๊ก อินสตาแกรม สื่อโซเชียลมีเดียหลัก ซึ่งค่อนข้างจะมีการทำงานกันอย่างมืออาชีพ"
"คือมีหลายเพจ พอมีผู้พบเห็นก็จะแจ้งกันเข้ามาถึงเราว่าเกิดอะไรขึ้น เราขายผลิตภัณฑ์ลักษณะนี้จริงหรือเปล่า มีหลายท่านเป็นผู้เสียหายไปแล้ว สั่งซื้อไปแล้ว บางท่านใช้ไปแล้วไม่ได้ผลก็ติดต่อกลับมาหาเรา"
"เริ่มตั้งแต่วันที่12 ธันวาคม ก็อยากจะเรียนทุกท่านว่าเราไม่ได้นิ่งนอนใจตั้งแต่เริ่มมาวันนั้นก็มีการโพสต์เตือนมาตลอดว่าผลิตภัณฑ์นี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรา ครั้งนี้ต้องยอมรับว่าหนักจริงๆ เพราะมีการแจ้งไปแล้ว และมีคนที่พยายามจะแจ้งว่ามันเป็นเว็บปลอม แต่สุดท้ายก็มีการเปิดใหม่อยู่ตลอดเวลา เขาทำงานกันอย่างเป็นระบบและเร็วมาก"
"ตอนนี้เราเจอถึง15 เพจด้วยกัน แล้วก็มีการใช้แอคเคาท์ที่ใช้รูปผมเป็นรูปโปรไฟล์ เปรียบเสมือนว่าตัวผมเองเป็นคนตอบคำถาม มีการนำไปเจรจาเพื่อขายสินค้า มีการไปให้คำแนะนำเรื่องสุขภาพอีกด้วย อันนี้ถือว่าเป็นสิ่งที่กระทบกระเทือนจิตใจ และสร้างความเสียหายให้พวกเรามาก เพราะมีการปลอมเป็นตัวตนของเรา ข้อความที่ส่งไปสำหรับผมถือว่าใช้ไม่ได้ มีการใช้ภาพที่สื่อถึงความเป็นแพทย์ ให้คำแนะนำทางด้านสุขภาพที่ผมรู้สึกว่าไม่ได้เป็นไปตามความเป็นจริงเลย เลยคิดว่าเพียงแค่ชี้แจงเฉยๆ คงไม่เพียงพอแล้ว ก็เลยอยากจะมาพึ่งพาตำรวจแล้ว"
ทางเจ้าหน้าที่ "พันตำรวจเอก ศิริวัฒน์ ดีพอ" รองผู้บังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีเผยสามารถเอาผิดกับคนร้ายได้ฐานผิดพรบ.คอมพิวเตอร์ และฉ้อโกงประชาชน
พันตำรวจเอกศิริวัฒน์ : "ลักษณะแบบนี้เป็นการทำการตลาดที่ผิดกฎหมาย ไม่สมควรทำอย่างยิ่ง ที่มีการนำภาพ นำความเห็นต่างๆ ที่ไม่ใช่หมอมาขายสินค้าเพื่อสร้างยอดขาย ซึ่งคนร้ายพยายามปกปิดตัวเองแต่จริงๆ มีร่องรอย ความผิดอันนี้เป็นความผิดตามพรบ.คอมพิวเตอร์ แล้วก็รวมไปถึงผิดในฐานฉ้อโกงประชาชนด้วย”
ด้าน “โอปอล์” แจงภาพที่ใช้เป็นสื่อโฆษณาเป็นภาพตนและสามี พร้อมคำบรรยายที่เกินจริงซึ่งที่ผ่านมามีคนมาแจ้งตนเยอะมาก โอดทำเกินไปที่นำรูปสามีตนสวมเสื้อกาวน์ไปแอบอ้างขายผลิตภัณฑ์เพิ่มขนาดอวัยวะเพศ ลั่นเตรียมเอาผิดให้ถึงที่สุด
โอปอล์ : “รูปที่เขาใช้เป็นภาพหมอโอ๊ค แต่ใช้ชื่อโอปอล์ร่วมด้วย โดยใช้คำว่าคุณหมอโอปอล์กับคุณโอ๊ค เขาเปิดเพจเป็นสิบๆเพจเลย เขาก็จะใช้ชื่อต่างๆ นานา โอปอล์-หมอโอ๊คนักโภชนาการระดับโลกอะไรประมาณนี้"
"ซึ่งตั้งแต่มีคนแจ้งเรามาเราก็พยายามปรึกษาทางด้านกฎหมายว่าเราจะทำยังไงได้บ้าง ระหว่างนี้ก็จะมีคนส่งมาให้ดูเยอะมาก แล้วก็มีคนเชื่อเยอะ มีคนถามมาว่าถ้าไม่ใช่ของพี่ทำไมพี่ไม่ทำอะไรซักอย่าง อย่างวันนี้กระทั่งวันที่เรามาแจ้งความเพจนี้เขาก็เพิ่งออกผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ภายใต้ชื่อโอปอล์-หมอโอ๊ค เป็นผลิตภัณฑ์นวดเพิ่มขนาดอวัยวะเพศ ซึ่งใช้หน้าพี่โอ๊คเลย เป็นรูปพี่โอ๊คใส่เสื้อกาวน์ ปอล์รู้สึกว่ามันเป็นการกระทำที่เกินไป ระหว่างนี้เรามีการเก็บหลักฐาน มันมีร่องรอยซึ่งคราวนี้เราจะเอาผิดให้ถึงที่สุดเท่าที่เราจะทำได้"
"คือถ้าเรายังเอาผิดเขาไม่ได้อยู่อย่างนี้ ปอล์เชื่อว่าคนที่โดนแบบเราก็มีเยอะ มันก็ไม่รู้จะทำยังไงแล้ว ที่เราลองปรึกษากัน ก็คงจะเอาผิดให้ถึงที่สุด คนที่หลงเชื่อไปสั่งซื้อของกับเขา เขาก็บอกว่าเป็นของหมอโอ๊คนะ คุณหมอโอ๊คเป็นคนวิจัย เป็นพรีเซนเตอร์และมาตอบในเฟซบุ๊กด้วย”
ด้านทนายความ "ณัฐธิดา ณัฐธิดา ประณุทนรพาล" เผยเคยทำทีล่อซื้อสินค้า พบพิรุธหลายอย่าง และไม่ทราบได้ว่าสินค้าดังกล่าวมีอย.ถูกกฎหมายหรือไม่
ทนายณัฐธิดา : "ทางเราก็มีการติดต่อไปทำเป็นสั่งซื้อของ ซึ่งก็รู้กระบวนการว่าเขาคงทำเป็นกระบวนการเพราะมันไม่มีการโอนเงิน มันจะมีการส่งและจ่ายเงินที่เคอร์รี่ จะติดต่อโทร.กลับไปหาเขาก็ไม่ได้ แล้วเว็บไซต์จะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ สุดท้ายมันไปลิงค์ที่เว็บต่างประเทศ 2-3 เว็บ แล้วที่เราแจ้งความไม่ใช่แค่คุณหมอเดือดร้อนแต่มันมีผู้ที่หลงเชื่อเยอะมากและติดต่อกลับมาว่าผลิตภัณฑ์นี้จริงหรือเปล่า ซึ่งเราไม่รู้ว่ามันมีอย.ไหม เป็นผลิตภัณฑ์ที่ถูกกฎหมายหรือเปล่า คนบริโภคไปแล้วจะเป็นยังไงต่อ"
"วันนี้เราก็เอาของที่เราทำทีส่งไปมามอบให้คุณตำรวจด้วย เป็นวัตถุพยาน เป็นของภายในประเทศมันมีหลายโปรดักส์ ทั้งอาหารเสริมเหมือนยาลดความอ้วน มีแบบที่เหมือนเป็นน้ำมันเอาไว้นวดเพื่อเพิ่มขนาด"
หมอโอ๊ค : "ซึ่งตัวผมไม่เคยผลิตสินค้าแบบนี้เลย เรามีธุรกิจของเราซึ่งเราทำถูกต้องอย่างชัดเจนก็มีทั้งคลินิก ทั้งผลิตภัณฑ์ของเราเองที่เป็นผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง มีอย.ถูกกฎหมาย"
โอปอล์ : "ผลิตภัณฑ์ของเราจะมีแบรนด์ที่ชัดเจนมาก อันนี้คืออะไรไม่รู้ไปเลย มันแรงมาก มีคนไดเร็กแมสเสจมาหาเราเยอะมาก"
หมอโอ๊ค : "มีเข้ามาทุกวัน วันนึงหลายสิบข้อความ"
“หมอโอ๊ค” เผยนับวันคนที่สั่งสินค้าเริ่มใกล้ตัวตนเข้ามาเรื่อยๆ ที่มาติดต่อสอบถาม
โอปอล์ : “ที่เราสะเทือนใจคือบางท่านเป็นผู้ใหญ่แล้วเขาซื้อเพราะเห็นชื่อคุณหมอโอ๊ค เขาให้ญาติของญาติถามมาทางเพื่อนเราว่าใช่ไหมเขาซื้อมาแล้ว"
หมอโอ๊ค : "ก็มีหลากหลาย อันนี้ก็โดนกับตัวเองโดยตรงเนื่องจากว่าเขาเข้าถึงกลุ่มคนที่ใกล้ตัวเรามาก มีกลุ่มที่เป็นญาติของคนไข้เราจริงๆ หรือกลุ่มของญาติพนักงานเราเลย ซึ่งหลายท่านก็มาด้วยความคาดหวังว่าพอซื้อไปแล้วอยากให้ได้ผล แล้วราคาก็ไม่ได้ถูก ชิ้นนึงเกือบ 2 พันบาท เขาเชื่อถือในตัวเรา เห็นรูปเรา เห็นเราตอบคำถาม เขาตัดสินใจซื้อทันที บางท่านก็ใช้วิธีโดยการโทร.มาถามว่ามีขายที่คลินิกไหม เป็นงานวิจัยของเราลักษณะไหน คือทุกคนตื่นเต้นครับ ผมว่าเขาจับกับความรู้สึกของคนว่าทุกคนก็อยากมีสุขภาพดี อยากจะผอม อยากจะได้ผลรวดเร็ว ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นอะไรที่เล่นกับความรู้สึกคนมาก และใช้ในเรื่องของการแพทย์ในทางที่ผิด"
"คนที่สั่งไปเคยเจอปัญหาอะไรแล้วมาบอกกับเราไหมนี่ยังไม่เจอนะครับ มีแค่ไม่แน่ใจมากกว่า แต่โดยมากคือตัดสินใจซื้อไปแล้ว เพราะตั้งแต่เห็นภาพก็คงรู้สึกว่าอยากจะลดน้ำหนักจริงๆ ก็เลยซื้อไปเลย เหตุผลที่มาแจ้งความในวันนี้คือหวังว่าคนจะไม่ถูกหลอกลวงอีก เป็นความหวังแบบที่สุดของเราเลย ยิ่งกว่าอะไรทั้งหมดก็คือไม่อยากให้ใครโดนหลอกลวงเพิ่มเติมขึ้นอีก ลักษณะของสิ่งเหล่านี้ก็มักจะมีลักษณะที่ค่อนข้างสังเกตได้ นั่นก็คือจะไม่ยอมให้รายละเอียดเกี่ยวกับตัวเองเลย ไม่บอกว่าตัวเองอยู่ที่ไหน แหล่งผลิตอะไรยังไงมันบอกไม่ได้จริงๆ"
เสียความรู้สึกโดนแอบอ้างบ่อย โอดปีก่อนก็โดนแอบอ้างจนตนต้องมาแจ้งความตำรวจไปทลายโรงงานมาแล้วรอบนึง ปีนี้เจออีก
หมอโอ๊ค : "จริงๆ ก่อนหน้านี้เราก็เคยมาแจ้งความเหมือนกันที่มีการหลอกลวงเรื่องการแปะสะดือลดความอ้วน ตอนนั้นได้มีการทลายโกดังกันไปเรียบร้อยแล้วครับ มีการจัดการไปและเงียบไปเลย ก็มาอีกทีคือรอบใหม่รอบนี้"
โอปอล์ : "เราก็ปลื้มที่เรามาได้ทุกปีเลย (หัวเราะ) ในช่วงเวลาเดียวกัน"
หมอโอ๊ค : "คือเสียความรู้สึกอยู่แล้วครับ ไม่มีใครอยากโดนอะไรแบบนี้ เพราะมันเป็นการสร้างความเข้าใจที่ผิด และต่อให้เราพยายามแถลง หรือพยายามชี้แจงอย่างไร มันก็ไม่ได้ไปถึงทุกๆ คน 100 เปอร์เซ็นต์อยู่แล้ว มันเป็นความเสียใจที่เราไม่อยากให้ทุกคนเข้าใจผิดจริงๆ และแน่นอนคือมากไปกว่านั้นหลายท่านก็เป็นผู้สูงอายุ บางท่านก็ไม่ได้มีสตางค์เยอะนัก ราคามันก็สูง เลยเต็มไปด้วยความรู้สึกที่แย่ในเวลาที่เราเจอกับเหตุการณ์แบบนี้ แต่เราก็จะทำให้ดีที่สุด มันไม่สนุกหรอกครับการที่ต้องมาพบคุณตำรวจ ต้องเสียเงินทองในการดำเนินการ ต้องมาเสียเวลาทุกอย่าง มันไม่ใช่สิ่งที่ง่ายเลย แต่เราก็ทำให้เต็มที่ที่สุด เพื่อให้บทเรียน และเป็นการสร้างมาตรฐานของสังคมว่าคุณทำแบบนี้ไม่ได้"
โอปอล์ : "ซึ่งคราวนี้ก็หวังพึ่งเจ้าหน้าที่มากๆ ค่ะ (หัวเราะ)"
ตร. บอกคนร้ายเป็นคนประเทศลักษณะเดียวกับเคสที่แล้วที่ทั้งคู่เคยเจอ
พันตำรวจเอกศิริวัฒน์ : "คือเรื่องนี้อย่างที่คุณหมอกับโอปอล์บอก ปีที่แล้วก็มีการนำภาพดาราที่มีชื่อเสียงมาประกอบกับสินค้า ตอนนั้นก็ได้รับการประสานงานไปทลายและยึดของมาประมาณ 30,000 ชิ้น จากนั้นได้ไปดำเนินคดีต่อ แต่ตอนนั้นคนที่ทำเป็นคนต่างประเทศ ลักษณะคล้ายๆ กัน อย่างครั้งนี้ก็เหมือนกัน ความผิดคือ พรบ.คอมพิวเตอร์อยู่แล้ว โทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท รวมไปถึงเรื่องฉ้อโกงประชาชน"
"คนร้ายเป็นคนต่างประเทศครับ แต่ยังไงของก็ต้องอยู่ในเมืองไทยอยู่แล้ว เพราะมันมีการส่งได้จริง อย่างคราวที่แล้วจะเป็นในลักษณะเอาสินค้ามา และถามอะไรก็จะตอบอย่างเดิม โดยใช้โรบอตตอบ สังเกตง่ายๆ เลย ถามอะไรก็แล้วแต่เขาจะตอบแค่ว่า สนใจสั่งซื้อไหมคะ แต่ครั้งนี้รายละเอียดเยอะขึ้น"
"อยากจะฝากพี่น้องประชาชนนะครับ สำหรับกรณีที่เห็นสินค้าแล้วมีการนำรูปบุคคลที่มีชื่อเสียงมา อย่าเพิ่งรีบซื้อ หาข้อมูลก่อน อย่างน้อยผมเชื่อว่าบุคคลที่มีชื่อเสียงเขาจะมีเพจ หรือมีโซเชียลมีเดียของเขา ลองอินบ็อกซ์ไปถามหรืออะไรก็ได้ว่ามันจริงไหม แล้วถึงค่อยตัดสินใจซื้อ ไม่เช่นนั้นจะตกเป็นเหยื่อ และอย่างที่คุณหมอบอก เราไม่รู้ว่าสินค้าที่เขาขายหากบริโภคไปแล้วจะมีอะไรหรือเปล่า จะเป็นอันตรายอะไรหรือไม่"
สุดท้าย "หมอโอ๊ค-โอปอล์" ฝากเตือนให้ประชาชนซื้อสินค้าอะไรให้ระมัดระวังดูให้ถี่ถ้วน พร้อมเตือนสินค้าอะไรที่การันตีเห็นผลภายใน 3 วันนั้นล้วนไม่เป็นความจริง
หมอโอ๊ค : "สมัยนี้การซื้อของง่าย สะดวกสบายมากขึ้น มันมีทั้งดาบสองคมเลยครับ ทำให้เราเข้าถึงผลิตภัณฑ์ต่างๆ ได้ง่าย แต่ก็อาจจะทำให้เกิดมิจฉาชีพลักษณะนี้เพิ่มมากขึ้นด้วย การใช้ใบหน้าหรือชื่อเสียงของผู้อื่นมันเป็นสิ่งที่ทำได้ง่ายมาก และเป็นความผิด ใครที่คิดจะทำก็อยากให้ล้มเลิกเสีย ส่วนที่เราออกมาครั้งนี้มันเป็นความตั้งใจของเราจริงๆ เราอยากจะสร้างบรรทัดฐานไม่อยากให้มันเกิดขึ้นกับสังคมไทยนะครับ และสำหรับผู้ที่เดือดร้อนหรือสั่งซื้อไปแล้ว โดนหลอกลวง ก็สามารถไปแจ้งความได้เหมือนกันนะครับ เราก็จะทุ่มเท เอาผิดให้ได้"
"และคิดว่าอยากให้เป็นตัวอย่างจริงๆ ครับ ว่าสิ่งเหล่านี้มันเป็นความผิดทาง พรบ.คอมพิวเตอร์ จริงๆ ก็วิงวอนทุกท่านหากพบเห็นผลิตภัณฑ์อะไรที่น่าสงสัย ลักษณะเฉพาะของมันคือนำรูปมาตัดต่อ และมีการอวดอ้างสรรพคุณเกินจริง อันนี้ขอพูดในฐานะแพทย์ว่าปัจจุบันก็ยังมีนะครับ อะไรที่ลดน้ำหนักได้ภายใน 3 วัน หรือเพิ่มขนาดอวัยวะบางอย่างขึ้นได้ภายใน 3 วัน มันเป็นไปไม่ได้ ยังไงก็ตามการลดน้ำหนักที่ดีที่สุดก็คือการดูแลตัวเองด้วยการควบคุมอาหารและการออกกำลังกาย บางท่านก็มาถามนะครับ ให้ซื้อเลยเพราะภรรยาผอมเร็ว (หัวเราะ) แต่ขอยืนยันว่าเป็นการผอมด้วยวินัยและการควบคุมของสามีเป็นหลัก"
โอปอล์ : "ค่ะ อายเลย (ยิ้ม)"
หมอโอ๊ค : "ทั้งหมดยังไม่มีอยู่จริงนะครับ ยาลดน้ำหนักอะไรก็ตาม มันต้องใช้การควบคุมภายใต้การดูแลของแพทย์ครับ ลักษณะแบบนี้ ทางลัดแบบนี้ ก็ขอฝากไว้เลยว่าให้เขียนเครื่องหมายคำถามไว้ในใจเยอะๆ เลยนะครับ และลักษณะอีกอย่างคือเวลาสั่งซื้อจะไม่ยอมให้เลขบัญชี จะมีการจ่ายปลายทางเท่านั้น ขอโอนเงินก็ไม่ได้ ขอจ่ายบัตรเครดิตก็ไม่ได้ ไม่มีหลักฐานอะไรเลย แบบนี้แนะนำให้ระมัดระวังเป็นพิเศษครับ"
โอปอล์ : "ปอล์ไม่มีอะไรเสริมเลยค่ะ แต่ที่รู้สึกว่าอันนี้มันเกินไปเพราะเขาซื้อสปอนเซอร์ หมายถึงเขาซื้อบูทเยอะ และถ้าเข้าไปดูในแอดมันจะเป็นการเรียงไวยกรณ์ที่ผิดของภาษาไทยเลย อย่างการเรียกปอล์ว่า คุณหมอโอปอล์ คือถ้าเรา เอ๊ะ ได้โปรดอย่างหลงเชื่อ อ่านสักนิดหนึ่ง อันนี้ที่เรารู้สึกว่าเขาหลอกลวงก็คือราคามันเกือบ 2,000 เลย และการล่อซื้อมันทำให้เรารู้ว่ามีคนซื้อของเขาเยอะ ดังนั้นคนตกเป็นเหยื่อเยอะแน่นอนค่ะ ส่วนใหญ่เป็นผู้ใหญ่ด้วย ถ้าคุณพ่อคุณแม่มาปรึกษาอะไร ก็ให้ลูกหลานช่วยกันดู และอยากจะชี้แจงว่าเราสองคนไม่เกี่ยวข้องกับเพจใดๆ เหล่านี้ที่มีสรรพคุณอย่างที่คุณหมอโอ๊คกล่าวค่ะ"