MGR online - “หมอโอ๊ค-โอปอล์” ร้อง ปอท. เอาผิดเพจขายอาหารเสริม แอบอ้างนำภาพไปใช้ แถมบอกหมอคนดังเป็นผู้วิจัย ค้นคว้า ตรวจสอบพบเป็นเว็บที่มาจากรัสเซีย
วันนี้ (27 ธ.ค.) เวลา 10.00 น. ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) นายแพทย์สมิทธิ์ อารยะสกุล หรือ หมอโอ๊ค พร้อมด้วย นางปณิสรา อารยะสกุล หรือ โอปอล์ ภรรยา เดินทางเข้าร้องทุกข์ต่อ พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รอง ผบก.ปอท. ในฐานะโฆษก บก.ปอท. พ.ต.ท.ภีมทศ เกตุเทศ รอง ผกก.3 บก.ปอท. และ ร.ต.อ.เปตอง ด่านปรีดา รอง สว. (สอบสวน) กก.3 บก.ปอท. เพื่อขอให้ตรวจสอบและดำเนินคดีกับผู้ที่แอบอ้างนำภาพไปหลอกลวงขายสินค้าแก่ผู้อื่นในสื่อออนไลน์เพราะอาจสร้างความเสียหายต่อหน้าที่การงานและชื่อเสียง
นายแพทย์สมิทธิ์ กล่าวว่า สืบเนื่องเมื่อวันที่ 12 ธ.ค.ที่ผ่านมา มีคนรู้จักไปพบว่า ภาพของตนและภรรยา ปรากฎบนโฆษณาขายสินค้าทางช่องทางต่างๆ ในโซเชียลมีเดียทั้งในเพจเฟซบุ๊ก อินสตาแกรม และเว็บไซต์ต่างๆ โดยแอบอ้างว่าตนเป็นผู้ทำการวิจัยคิดค้นผลิตภัณฑ์อาหารเสริมและลดน้ำหนัก พร้อมคอยตอบคำถามกับคนที่สนใจซื้อสินค้าและให้ความรู้ทางสุขภาพเพื่อให้ดูเหมือนเป็นสินค้าของตนเองและมีตัวจริงมาตอบ ซึ่งหลังจากทราบเรื่องก็รีบแจ้งรายงานไปทางเฟซบุ๊กว่าเป็นบัญชีปลอม แต่ต่อมาไม่กี่วันก็มีบัญชีเฟซบุ๊กใหม่กลับมาหลอกลวงขายสินค้าแบบเดิมอีก
"จากการตรวจสอบพบมีเว็บไซต์แบบนี้มากถึง 15 เพจ ที่เปิดให้บริการ และปลายทางของแต่ละเว็บไซต์จะเชื่อมต่อให้ไปสั่งซื้อสินค้าจากต่างประเทศ เชื่อว่ากลุ่มขบวนการขายสินค้าเหล่านี้ทำเป็นขบวนการ ทั้งนี้หากใครที่หลงเชื่อซื้อสินค้าไปแล้ว ก็แนะนำให้เข้าแจ้งความกับตำรวจในท้องที่ ให้ดำเนินคดีเอาผิดให้ถึงที่สุด โดยวันนี้ได้นำหลักฐานภาพเพจเฟซบุ๊กที่แอบอ้างสร้างความน่าเชื่อถือในการขายอาหารเสริมไม่ได้มาตรฐานมามอบให้เจ้าหน้าที่ ปอท." นายแพทย์สมิทธิ์ กล่าว
ด้าน พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ เผยว่า กรณีดังกล่าวไม่เพียงเข้าข่ายเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ชัดเจน ยังเข้าข่ายเป็นความผิดฐานฉ้อโกงประชาชนด้วย หลังจากนี้ก็จะรับเรื่องไว้ดำเนินการสืบสวน เพื่อติดตามจับกุมผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปอท.ได้ตรวจสอบพบว่าเว็บไซด์ที่ใช้รูป นายแพทย์สมิทธิ์ หรือหมอโอ๊คเป็นพรีเซ็นเตอร์ลดความอ้วน และเพิ่มขนาดอวัยวะเพศชาย เป็นเว็บไซต์ที่มาจากประเทศรัสเซีย ทำให้ยากต่อการตรวจสอบจะได้ทำการเสนอกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ปิดกั้นต่อไป