ไม่ขอเกษียณ “รอง เค้ามูลคดี” อยากทำงานแบ่งเบาภาระลูก หาเงินรักษา “แม่ทุม” ไม่เชื่อแม่ทุมป่วยระยะสุดท้าย เผยบอกรักทุกครั้งที่ไปเยี่ยม
แม้จะอายุ 73 ปีแล้ว แต่ “รอง เค้ามูลคดี” ก็ยังแข็งแรงรับงานละครมากมาย ล่าสุดปีนี้รับไปถึง 5 เรื่อง เพราะทำงานแล้วมีความสุข และยังได้มีค่าใช้จ่ายในการดูแล “แม่ทุม” ปทุมวดี เค้ามูลคดี ภรรยาที่ป่วยกล้ามเนื้ออ่อนแรงรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลมาหลายปีแล้ว และถึงแม้หมอจะแจ้งว่า ขณะนี้แม่ทุมป่วยระยะสุดท้ายแล้ว แต่พ่อรองก็ยังไม่เชื่อเพราะเห็นหมอเคยพูดแบบนี้แต่ก็อยู่มาได้หลายปี ล่าสุดพ่อรองและ "ยุ้ย ปัทมวรรณ เค้ามูลคดี” ลูกสาว ก็ได้มาร่วมงานชีวิตดี มีสุข ทุกย่างก้าว กับ หลินจือมิน เอ็กซ์ตร้า ก็ได้เปิดเผยถึงเรื่องดังกล่าวรวมไปถึงสุขภาพของตัวเองด้วยว่า
พ่อรอง : "ตอนนี้มันดีเกินกว่าเหตุ ความดันเหลือ 130 ซึ่งเราอายุ 73 ปี หมอบอกความดันดี แล้วเบาหวานเหลือ 92 จาก 190 ก็พยายามทานทุเรียนน้อยลง"
ยุ้ย : "แต่ก็อย่าประมาทนะ ต้องดูแลตัวเอง แต่คุณพ่อถ้าไม่ทำงาน คุณพ่อน่าจะป่วยกว่าเดิมเพราะคุณพ่อทำมาตั้งแต่วัยรุ่น วันไหนไม่ทำงานอยู่บ้านเขาจะเหงา เวลาไปกองถ่ายเขาจะได้เจอคน"
“พ่อรอง” ต้องทำงานเพราะอยากแบ่งเบาภาระของ “ยุ้ย” ในการดูแล “แม่ทุม” ภรรยา
พ่อรอง : "มี 5 เรื่องในปีเดียว ทำงานทุกวันแล้วมีความสุขไม่เหนื่อย แต่พอวันไหนละครยกกองอยู่บ้านมันเหงาบอกไม่ถูก เรารู้ว่าชีวิตเราเกิดมาเพื่อการทำงานและโดยเฉพาะอย่างยิ่งเรารู้ว่า เรามีภาระที่ต้องรับผิดชอบอยู่ ถ้าเราไม่ทำงานให้ลูกดูแลแม่ทุมคนเดียวลูกจะจุกแน่ เพราะเขาก็ต้องดูแลครอบครัวเขา หลานสาวก็ยังเรียนอยู่ เรื่องแม่ก็ไม่ใช่เรื่องธรรมดา ถ้าหากเราได้ทำด้วย ก็จะได้แบ่งเบาภาระให้ลูกดูแลลูกไป ส่วนแม่พ่อดูแลเอง ไม่เหนื่อย ผมกะอยู่ถึงอายุ 99 ปี ไม่คิดเกษียณเลย หมอบอกอายุ 95 ให้ระวังคุณรองจะเริ่มไอเจ็บคอเล็กน้อย การทำงานทำให้สุขภาพจิตดีขึ้นเพราะการทำงานทุกวัน"
ทุกวันนี้ “พ่อรอง” ไปไหนมาไหนเองตลอด
ยุ้ย : "เวลาคุณพ่อไปทำงานก็จะมีความสุข แค่ห่วงเรื่องการขับรถ บางทีมีรถกองถ่ายมารับบ้าง แต่บางทีจะไปไหนเขาก็ขับรถเอง ไม่ค่อยบอก(หัวเราะ)"
พ่อรอง : "ต้องบอกว่าเป็นคนที่ขับรถเองมาตั้งแต่หนุ่ม ใครขับให้ก็ไม่ได้ดั่งใจ ขนาดลูกขับก็ยังโดนดุ อยากให้แซงเขาก็ไม่แซง บอกว่าอันตราย"
ยุ้ย : "ขนาดเมื่อวานหลานยังบอกว่าคุณตาขับรถเบาๆ หน่อย(ยิ้ม)"
พ่อรอง : "อยู่คนเดียวสบายใจ ยิ่งอยู่กับเพื่อน เพื่อนก็ไม่ขัด ดีนะแม่ป่วย ถ้าคุณทุมไม่เจ็บจะหนักกว่านี้อีก คนนั้นคุมยิ่งกว่าลูกอีก แต่ถ้าวันไหนรู้ว่าเลิกกองถ่ายดึกมากก็จะไม่ขับเอง ไกลๆ ก็ไม่เอารถไปนะ"
เผยเคล็ดลับสุขภาพแข็งแรง
พ่อรอง : "หนึ่งเราต้องมีจิตใจสบาย ทำอะไรก็แล้วแต่สบายๆ ไม่เดือดร้อนใคร ออกกำลังกายบ้างตามสมควร พักผ่อนให้เต็มที่ แค่นี้ก็อยู่ได้นานแล้ว"
ไม่เชื่อ “แม่ทุม” ป่วยระยะสุดท้าย
พ่อรอง : "หนูอาจจะต้องถามแบบนี้ไปอีก 5-6 ปี คือโรคนี้หมอบอกอยู่ได้ 4 ปี ไม่มีใครอยู่เกิน 4 ปี แต่นี่จะ 8 ปีแล้ว แล้วทุกวันก็ยังแข็งแรง แต่ถามคุณหมอว่าเป็นยังไง เขาก็บอกระยะสุดท้าย ทุกวันไม่เชื่อหมอแล้ว เพราะบอกว่าระยะสุดท้ายมาหลายปีแล้ว"
บอกรัก “แม่ทุม” ทุกครั้งที่ไปเยี่ยมที่โรงพยาบาล
“ทุกวันนี้ก็สลับกันไป ลูกบ้าง เราบ้าง แต่เมื่อวานไปทั้งพ่อทั้งลูก เวลาไปก็บอกเขาว่า พ่อรักแม่นะแล้วก็หอมแก้มเขาทุกครั้ง แม่แข็งแรงขึ้นนะอ้วนมากแล้วขาวผ่องเลย ซึ่งมันไม่น่าเชื่อเพราะเข้าโรงพยาบาลครั้งแรกผอมแล้วก็ดำ ตอนนี้สวยเลย ก็ไม่รู้นะว่าแม่รู้เปล่า พอดีเราพูดกับเขาเราเหลือบตาไปมองโน่นมองนี่ แต่ยุ้ยบอกว่า หนูว่าแม่รับรู้"
กำลังใจสำคัญต้องคิดบวก
ยุ้ย : "ก็อย่างที่พ่อบอก ยุ้ยเชื่อว่าครอบครัวเราเป็นกำลังใจที่สำคัญให้แก่กันมาตลอด ตั้งแต่คุณแม่ยังไม่ป่วย ทุกคนในครอบครัวก็ช่วยเหลือกันทุกเรื่องอยู่แล้ว วันหนึ่งที่คุณแม่ป่วย ทั้งคุณพ่อ ทั้งยุ้ย ทั้งพี่ชาย ก็ไม่เคยปล่อยมือกัน แบ่งเบากันไปในแต่ละเรื่อง แล้ววันนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือกำลังใจ"
"เรื่องคุณแม่เรารู้อยู่แล้วว่าเป็นยังไง เพราะเราก็มีโอกาสได้ทำความเข้าใจกับโรคที่คุณแม่เป็น แต่มันก็ไม่มีใครคิดไปข้างหน้าหรอก ถึงเรารู้เราก็พยายามไม่คิด อะไรที่บวกเราก็คิดบวกไปก่อน แล้วทุกวันที่ไปหาคุณแม่ก็เห็นว่าผิวพรรรณผ่องใส แล้วคุณแม่ก็ยังดูดีอยู่ เราเจอแม่สดใสอยู่ เราก็จะไม่เอาเรื่องทุกข์ใจมาคุยกัน อย่างที่คุณพ่อบอกว่าสิ่งที่ทำให้แข็งแรงคือความคิดจากข้างใน จิตใจดี คิดบวก ก็เลยพยายามให้คุณพ่อมีความสุขจากหลานด้วย เพราะนอกจากคุณแม่ก็ยังมีคุณพ่อให้ดูแล"
"เราคิดว่ากำลังใจสำคัญ นอกจากกำลังใจจากครอบครัวแล้ว ยังได้จากทุกคนขอบคุณด้วยนะคะ ทั้งที่รู้จักและไม่รู้จัก เวลาไปไหน ทุกคนก็จะถามตลอดคุณแม่เป็นยังไง ฝากให้กำลังใจนะ มันเป็นสิ่งที่สร้างกำลังใจให้ครอบครัวเรามากๆ ก็ต้องขอบคุณทุกๆ คนด้วยค่ะ"