ผู้กำกับ ไรอัน จอห์นสัน (Star Wars: The Last Jedi, Looper) อาสารวมทีมซุปเปอร์สตาร์ แดเนียล เคร็ก, โทนี่ คอลเล็ตต์, เจมี่ ลี เคอร์ติส, อนา เดอ อาร์มาส, คริส อีแวนส์, ดอน จอห์นสัน, ไมเคิล แชนนอน และ ลาคีธ สแตนฟิลด์ ในภาพยนตร์ “KNIVES OUT ฆาตกรรมหรรษา ใครฆ่าคุณปู่” ปริศนาฆาตกรรมพล็อตล้ำเรื่องราวของนักสืบชื่อดัง (เคร็ก) ต้องร่วมมือกับตำรวจพื้นที่เพื่อสอบสวนกลุ่มผู้ต้องสงสัยในคดีฆาตกรรม ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นสมาชิกในครอบครัวของเหยื่อที่เป็นนักเขียนนิยายอาชญากรรมผู้โด่งดัง
ฮาร์ลาน ธรอมบีย์ (คริสโตเฟอร์ พลัมเมอร์) นักเขียนนิยายอาชญากรรมผู้มั่งคั่ง ถูกพบเป็นศพที่คฤหาสถ์ของตัวเองในเช้าวันเกิดครบ 85 ปี เบอนัวต์ บลังก์ (แดเนียล เคร็ก) นักสืบผู้โด่งดังเข้ามารับผิดชอบคดีนี้ เขารู้สึกว่ามีอะไรไม่ชอบมาพากล ทุกคนในครอบครัวตกเป็นผู้ต้องสงสัย เมื่อมีการอ่านพินัยกรรมทำให้สถานการณ์ยิ่งตึงเครียดขึ้น สมาชิกครอบครัวของฮาร์ลานที่ต่างหิวเงินยิ่งเผยธาตุแท้ออกมา เมื่อมาร์ทา (อนา เดอ อาร์มาส) แม่บ้านชาวอเมริกาใต้ผู้ดูแลธรอมบรีย์ พบว่าตัวเองต้องมาพัวพันในสถานการณ์สุดยุ่งเหยิง มันยิ่งชัดเจนว่าไม่มีความลับไหนรอดพ้นภายใต้ชายคาคฤหาสถ์แห่งนี้ ไม่เว้นแม้แต่กระทั่งความลับของตัวเธอเอง
ไรอัน จอห์นสัน (The Brothers Bloom, Looper) กลับมาพร้อมกับภาพยนตร์สืบสวนสอบสวนที่มีกลิ่นอายผลงานของ อัลเฟรด ฮิทช์ค็อก และ อกาธ่า คริสตี้ เพื่อให้บทออกมาเฉียบและเปี่ยมไปด้วยอารมณ์ขัน เขาลงมือเขียนด้วยตัวเอง บวกกับทีมนักแสดงแนวหน้าของวงการที่นานๆ จะรวมตัวกันได้ขนาดนี้ และด้วยความทุ่มเทจนถึงระดับลายระเอียดของจอห์นสันและทีมงาน ทำให้ Knives Outเป็นภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ที่จะสร้างความหฤหรรษ์ส่งท้ายปี
ทำไมคุณถึงอยากทำหนังปริศนาฆาตกรรมสไตล์ดั้งเดิม?
ผมรักหนังแนวนี้ ผมเป็นแฟนผลงาของ อกาธ่า คริสตี้ มาตั้งแต่เด็กๆ ผมไม่อยากจะสปอยนะแต่หนังเรื่องนี้คือการนำทุกสิ่งที่ผมรักในงานของ อกาธ่า คริสตี้ มาใส่ในจอภาพยนตร์ มีการเติมสิ่งใหม่ๆ ให้เข้ากับยุคนี้ลงไปด้วย กลายเป็นอะไรที่ผู้ชมไม่น่าจะเคยเห็นที่ไหนมาก่อน
คุณเคยทำหนังทุนต่ำอย่าง Brick ในปี 2005 ก่อนจะมาทำบล็อคบัสเตอร์ใน The Last Jedi คุณรู้สึกอย่างไรที่ต้งกลับไปทำหนังที่มีทุนจำกัดอีกครั้ง?
สนุกดีนะ เหมือนได้ปรับโหมดตัวเองอีกครั้ง มองในด้านนึงมันก็ต่างกันเยอะนะ แต่ถ้ามองอีกด้านแก่นหลักของการทำงานมันก็เหมือนเดิม คุณพยายามถ่ายทำมันโดยดึงศักยภาพของนักแสดงออกมาให้ถึงขีดสุ พื้นฐานมันเหมือนกัน ผมได้ทำงานใกล้เคียงกับความเป็นจริงกว่าเดิม ไม่ต้องแบบความกดดันแบบทำหนังสตูใหญ่ ค่อนข้างโล่งอกอยู่เหมือนกันนะ
หลังจากความกดดันในการทำThe Last Jedi คุณรู้สึกปลดปล่อยเวลาทำหนังเรื่องนี้ไหม?
อาจจะฟังดูแปลกแต่ไม่เลยนะ อันที่จริงผมมีอิสระเยอะมากตอนทำ The Last Jedi ต้องขอบคุณทีมงานลูคัสฟิล์มและดิสนีย์ด้วย ไม่มีความรู้สึกแบบว่า ‘ฉันเป็นอิสระแล้ว’ หรืออะไรแบบนั้นเลย ที่แตกต่างอาจจะมีตรงที่ผมสนุกกับการเขียนบทสนทนาในหนังเรื่องนี้มากกว่า ยิ่งตัวละครแต่ละตัวมีบุคลิกที่ชัดเจนทำให้มันยิ่งสนุก แถมทีมนักแสดงเรื่องนี้มีแต่ตัวท็อป ผมเขียนอะไรไป พวกเขาก็พูดได้เข้าปากหมดนั่นแหละ
คุณเลือก แดเนียล เคร็ก เป็นคนแรก เพื่อมารับบท เบอร์นัว บลองก์ นักสืบสไตล์ แอร์กูล ปัวโรต์ นั่นเซอร์ไพรซ์อยู่เหมือนกันนะ
ใช่ ผมติดตามเขามานาน ชื่นชมฝีมือเขา ผมยังดูงานละครเวลาทีของเขา ผมชอบที่เขาแสดงใน Logan Lucky เอามากๆ ผมรู้ว่าเขาเป็นนักแสดงคุณภาพ รับบทได้หลากหลาย พบเคยพบกับเขาอยู่บ้างตามงานต่างๆ เลยได้รู้ว่าเขาเป็นคนตลกพอตัวเลยทีเดียวพอหนังบอนด์ภาคใหม่ถูกเลื่อนไปเป็นเดือนๆ เขาเลยมีเวลาว่าง เรารีบติดต่อเขาทันที ไม่ว่าจะปัวโร, โคลัมโบ, หรือมิส มาร์เปิ้ล นักสืบเหล่านี้มีคุณสมบัติที่เหมือนกันคือพวกเขาเป็นคนขี้เล่น สำหรับเบอนัวต์ บลังก์ ผมอยากให้เขาเป็นตัวละครที่มีสีสัน ไม่ได้เป็นคนสมบูรณ์แบบ ต้องขอบคุณแดเนียล เคร็ก ที่ถ่ายทอดมันออกมาได้ไร้ที่ติ
เหมือนว่านักแสดงแต่ละคุณที่คุณเลือกมา คุณอยากจะฉีกภาพลักษณ์เดิมๆ ของพวกเขา อย่าง คริส อีแวนส์ ที่เข้ามารับบม แรมซัม จอมแสบของเรื่อง มันต่างกับลุคกัปตันอเมริกาของเขาอย่างสิ้นเชิง
ผมพยายามทำให้ตัวเองแปลกใจอยู่เสมอเหมือนกัน แน่นอนถ้าขึ้นชื่อว่าเป็นนักแสดงที่มีฝีมือ พวกเขาต้องรับบทได้หลากหลาย คริส อีแวนส์ ไมเคิล แชนน่อน หรือนักแสดงทุกคนในเรื่องนี้ล้วนมีคุณสมบัติที่ว่า ผมแค่พยายามจับพวกเขาเล่นทในบทที่ไม่เคยมีใครเห็นพวกเขาเล่นมาก่อน อย่าง ไมเคิล แชนนอน ที่มักรับบทเป็นคนแกร่ง ไม่เกรงกลัวใคร ในเรื่องนี้เขารับบทเป็นน้องชายคนเล็กของบ้าน เป็นคนขี้แพ้ไม่เอาไหน มันสนุกนะที่ได้เห็นเขาฉีกภาพเดิมๆ ของตัวเอง เมื่อคุณตัวละครมากมายหลายมิติ ทุกตัวละครมีเจตนาที่ต่างกัน เต็มไปด้วยการหักมุม แม้ว่าคุณจะใช้โครงสร้างเล่าเรื่องแบบมาตรฐานแต่มันมีอะไรให้คุณต้องคิดหาทางออกอีกเยอะ
หนังแนวปริศนาฆาตกรรมถูกเอาไปล้อเลียนมากมาย แถมโดนดัดแปลงเป็นละครทีวีจนเกร่อ มันยากแค่ไหนในการทำให้อารมณ์ขันและความจริงจังของตัวเรื่องสมดุลกันพอที่จะดึงดูดผู้ชมได้?
นั่นสำคัญมากเลยนะ ความสนุกเป็นสิ่งที่มาอันดับแรก และผมไม่ได้อยากแค่อยากคารวะผลงานของอกาธา คริสตี้เท่านั้น แต่ยังรวมถึงหนังที่ผมโตมากับมัน สมัยที่ ปีเตอร์ อัสตินอฟ รับบทเป็นปัวโรต์ มันมีความเป็นละครเวทีหน่อย ๆ แต่คุณพูดถูก หนังเรื่องนี้ไม่ทำมาล้อเลียนหรือตั้งใจให้เป็นหนังตลก ความสมดุลคือหัวใจสำคัญเนื้อเรื่องต้องไม่เว่อจนเกินไป และมันไม่ได้เกี่ยวกับการตามหาฆาตกรอย่างเดียว มันยังมีตัวละครที่น่าสนใจให้เอาใจช่วยด้วย
หนังเรื่องนี้เป็นรูปเปนร่างไวมาก ซึ่่งเป็นเรื่องแปลกเพราะเป็นคนที่เขียนขึ้นมาใหม่ไม่ใช่บทดัดแปลง ไม่ใช่หนังสยองขวัญ แถมมีงบจำกัดอีก
พูดตรงๆ มันลงล็อคไวมาก แต่ก็เพราะหลายปัจจัย เราเพิ่งจบกับStar Wars อีกอย่างคือแดเนียลตกลงเล่น ผมวางแผนทำหนังเรื่องนี้มาสิบปีแล้ว แต่ได้เริ่มเขียนจริงๆ เดือนมกราคม 2018 เราถ่ายทำเสร็จช่วยคริสมาสต์ ผมยังงงๆ อยู่เลยว่าเราทำสำเร็จได้ยังไง มันเร็วมาก
คุณมีวิธีคิดคาแรคเตอร์แต่ละตัวอย่างไร?
แม้ว่าเรื่องราวของอกาธ่า คริสตี้ จะไม่ได้มีนัยยะอะไรมากมาย แต่ถ้าคุณสังเกตตัวละครของเธอดีๆ คุณจะเห็นว่าพวกเขาคือตัวแทนสังคมอังกฤษในยุคนั้นๆ ดังนั้นนี่จึงเป็นโอกาสให้ผมได้ใช้หนังแนวนี้วิพากย์สังคมอเมริกันยุคปัจจุบัน ตัวละครแต่ละตัวเป็นตัวแทนของคนประเภทที่พวกเราเคยพบเจอ มันเป็นอะไรที่ทำให้ผมตื่นเต้นมาก
ผมหยิบยืมบส่วนมาจากชีวิตจริงของตัวเอง มาใส่ความพิลึกลงไปเพิ่ม ผมใกล้ชิดกับครอบครัวมาก พวกเขาเป็นคนดีไม่เหมือนครอบครัวในเรื่อง แต่การโตมาในครอบครัวใหญ่ทำให้ผมคุ้นเคยกับความซับซ้อนในครอบครัว บางครั้งมันไม่ได้สวยงามอย่างที่เห็น มันเหมาะกับใช้เป็นฉากหลังทั้งการเล่าเรื่องดราม่าและตลกเลยทีเดียว
ร่วมลุ้น สืบ และค้นหาว่าใครกันที่เป็นคนร้ายที่อยู่เบื้องหลังคดีฆาตกรรมปริศนานี้ หาคำตอบได้ใน “KNIVES OUT ฆาตกรรมหรรษา ใครฆ่าคุณปู่” เปิดรอบพิเศษ เริ่ม 5 ธันวาคม สองทุ่มเป็นต้นไป ฉายจริง 10 ธันวาคมนี้ ในโรงภาพยนตร์