คิวยาวข้ามปี “ไมค์” แรงดีไม่มีตกที่จีน เผยเหนื่อยท้องานฮอลลีวูด

นานๆ จะได้กลับมารับงานที่ไทยสักที สำหรับพระเอกหนุ่มโกอินเตอร์อย่าง “ไมค์ พิรัชต์ นิธิไพศาลกุล” ที่ล่าสุดกลับมาร่วมพิธีเปิดงาน "คิง เพาเวอร์ แอนด์ ดิสนีย์ โฟรเซ่น 2 แมจิคัล เจอร์นีย์" ที่คิง เพาเวอร์ รางน้ำ โดยเจ้าตัวเผยว่างานที่จีนยังแน่นอย่างต่อเนื่อง และคิวงานก็ยาวไปถึงปีหน้าแล้ว

“วันนี้เพิ่งเสร็จจากกองละครประมาณตี 3 ที่นั่น 0 องศา ก็ขึ้นเครื่องมาเลย อากาศเปลี่ยนไปเลย ก็รับได้เป็นปกติครับ ปรับตัวได้เร็ว การทำงานที่นั่นก็ดีครับ มีงานเรื่อยๆ ช่วงนี้จะมีงานเยอะหน่อย อยู่ๆ ก็อัดแน่นเข้ามา นี่ก็เพิ่งถ่ายรายการเรียลลิตี้โชว์จบไป เป็นรายการผู้ชายแต่งหน้าดาราผู้หญิง ส่วนการแสดงตอนนี้กำลังรอทางบริษัทสรุปอยู่ครับ ก่อนหน้านี้ที่ถ่ายเป็นส่วนหนึ่งของรายการ เป็นช่วงละครสั้นครับ”

“ช่วงนี้งานแน่นนิดหนึ่งครับ ค่อนข้างไม่ค่อยได้นอน คิวยาวไปถึงปีหน้าแล้วครับ ถามว่าดูแลตัวเองยังไงบ้าง ส่วนใหญ่ก็ดูเรื่องอาหารการกิน ออกกำลังกายไม่ได้ออกมาเกือบปีหนึ่งแล้ว เพราะไม่ค่อยมีเวลาเท่าไหร่ ช่วงนี้ก็พยายามหาอะไรหลายอย่างทำด้วยที่จะเพิ่มความสามารถพิเศษเข้าไปหน่อย ช่วงนี้จะทำเกี่ยวกับสร้างหุ่นยนต์ ล่าสุดไปสร้างนิ้วหุ่นยนต์ เหมือนคล้ายๆ เอ็นจิเนียร์โปรแกรมมิ่งเข้าไป แล้วก็พวกต่อสายไฟต่างๆ นานา แล้วไปออกรายการมา”

ภูมิใจรับรางวัลศิลปินต่างประเทศยอดเยี่ยม เป็นปีที่ 2
“ล่าสุดไปรับรางวัลมา เป็นรางวัลศิลปินต่างประเทศยอดเยี่ยมครับ เป็นปีที่ 2 ตลกตรงที่ว่ารูปของปีนี้และรูปของปีที่แล้วท่าเดียวกันเลย โพสต์ท่าเดียวกันเลย ก็ตื่นเต้นดีครับ เวลาขึ้นเวทีผมต้องพูดภาษาจีนก็ตื่นเต้น ตื่นตระหนกประมาณนั้น คือมันเป็นรางวัลของประเทศจีนที่มอบให้กับศิลปินต่างชาติที่ยอดเยี่ยมอะไรประมาณนั้น ถามว่ารู้สึกยังไงที่ถึงตอนนี้กระแสก็ยังดีอยู่ อันนี้ผมคงตอบเองไม่ได้ ให้แฟนๆ ตอบดีกว่า แต่ก็จริงๆ ไม่ได้โฟกัสกับอะไรมากตรงนั้น คือเราแค่ตั้งใจทำงานไปเรื่อยๆ มากกว่า ถามว่ายังฮอตต่อเนื่องไหม น่าจะนะครับ (หัวเราะ)”

บอกงานที่ไทยยังมีติดต่อเรื่อยๆ แต่คิวไม่ค่อยได้
“แพลนที่จีนยังยาวอยู่ครับ ส่วนใหญ่ก็อยู่ที่นั่นครับ แต่ว่าครั้งนี้กลับมาทำงานกับคิง เพาเวอร์ เพราะครั้งที่แล้วคือได้มีโอกาสร่วมงานกับทางคิงเพาเวอร์แล้วที่มาเดินพาเหรด แล้วรู้สึกประทับใจมาก และรอบนี้เขาติดต่อมาเลยเคลียร์คิวเลย โยกคิวนี้ไปคิวโน้น ย้ายให้เร็วขึ้น เพื่อที่วันนี้จะได้ว่าง ถามว่าซื้อบ้านที่เมืองจีนไหม ไม่ได้ซื้อบ้านครับ ยังไม่ได้คิดถึงตรงที่วางรากฐานครับ ตอนนี้แค่ทำงานไปก่อน ส่วนจะอยู่ยาวเลยไหม เอาเป็นว่าให้พรหมลิขิตนำพาดีกว่า”

“จริงๆ งานที่ไทยก็มีติดต่อมาเรื่อยๆ นะครับ ก็ดูคิว เวลาถ้ามันตรงกัน ที่ยังไม่ตัดสินใจรับไม่ใช่เพราะงานที่จีนดีกว่าครับ ผมดูเรื่องของโอกาสมากกว่า ถ้าเป็นละครผมก็จะดูในเรื่องของบท บริษัทจะดูว่าบทเป็นยังไง ความน่าสนใจของตัวโปรเจกต์กับชิ้นงานมากกว่า ถามว่าปฏิเสธงานที่ไทยไปเยอะไหม จริงๆ ผมไม่ได้เป็นคนคุยหรือปฏิเสธเอง ผมก็จะไม่ค่อยรู้รายละเอียดตรงนี้เท่าไหร่ ทางค่ายเป็นคนดูทุกอย่างครับ การรับงานทั้งหมดเป็นค่ายตัดสินใจ ต้องผ่านทางผู้ใหญ่ ค่าย ทีม มันจะผ่านหลายระดับหน่อย กว่าจะมาถึงผมข้อมูลคือ อ๋อ..รับแล้ว”

บอกอยากขยายงานที่จีนให้มากขึ้น ตอนนี้กำลังฝึกทำหุ่นยนต์อยู่
“งานที่จีนตอนนี้ถามว่ามันตรงตามที่เราตั้งใจอยากจะไปตั้งแต่แรกไหม มันก็ประมาณหนึ่งครับ มันก็ไม่ได้แย่ครับ เอาจริงๆ ผมตั้งเป้าหมายใหม่เรื่อยๆ ก็จะมีเป้าหมายใหม่มาเรื่อยๆ ปีหน้าอยากจะไปทางแนวเทคโนโลยีมากขึ้น คือผมเพิ่งมาเริ่มรู้สึกตัวว่าสิ่งที่ผมชอบที่มันนอกเหนือจากวงการมันคืออะไร โต๊ะทำงานของผมตอนนี้ก็จะมีพวกพิมพ์เขียว พวกน็อต ไขควง อะไรพวกนี้เยอะ ก็สร้างมือหุ่นยนต์เสร็จมาแล้ว 1 อัน อีกหน่อยก็จะสร้างทั้งตัวไปเลย ส่วนใหญ่ผมจะศึกษาโดยการถามคนรู้จักหรือดูในยูทิวบ์ อันนี้ในตอนนี้ยังเป็นงานอดิเรกอยู่ แต่ในอนาคตไม่แน่อาจจะสามารถทำให้มันกลายเป็นอะไรที่จริงจังขึ้นมาได้”

“ก็อยากจะสร้างหุ่นยนต์ครับ แต่ไม่ใช่หุ่นที่เป็นหน้าตัวเอง จะเป็นบริษัทเลยไหม ตอนนี้ยังไม่ได้คิดถึงขนาดนั้น แต่ถ้าถึงได้ก็ดีครับ ก็อยากอยู่เหมือนกัน เพราะจริงๆ ก็ตั้งใจค่อนข้างมาก ตอนนี้ไปถึงระดับสร้างมือหุ่นยนต์ เดี๋ยวไปแขนต่อ ก็พวกเซ็นเซอร์อะไร ก็ค่อนข้างสับสบ ซับซ้อนนิดหน่อย ส่วนใหญ่ก็ถามเพื่อน ถามคนรู้จัก หาคอนเนคชั่น ถามเขาว่าอันนี้คืออะไร เซ็นเซอร์นี้คืออะไร อัลตร้าโซนิคเซ็นเซอร์คืออะไร แล้วก็เอามาต่อยังไง เราก็เอามาศึกษาต่อในพวกยูทิวบ์พวกนี้ เพราะมันมีอะไรแบบนี้ให้เราศึกษาได้ค่อนข้างเยอะในอินเตอร์เน็ต อยู่ที่ว่าเราจะใช้มันยังไง”

บอกผลงานหนังเรื่องใหม่กำลังจะเข้า ยอมรับตื่นเต้น เพราะต้องเดินสายโปรโมตต่างประเทศด้วย
“จากตอนแรกที่ผมลองไปถามดูเขาคิดว่าน่าจะประมาณปีหน้า ต้นๆ ปี แต่ยังไม่มีอะไรชัวร์ ตอนนี้ตัดต่อเสร็จแล้ว ผมพอได้เห็นฟุตเทจประมาณหนึ่ง ก็ดูโอเค ดูดีเลย น่าสนุกเลยครับ ก็ตื่นเต้นนะครับ อยากจะเห็นตัวเต็มๆ ว่าเราจะออกมาเป็นยังไง เดินสายโปรโมตอันนี้ยังไม่ทราบครับ แต่ถ้าหนังออกก็อาจจะต้องมีเดินสายต่างประเทศด้วย ส่วนโปรเจกต์กับฮอลลีวูด จริงๆ มีแคสติ้งเข้ามาเรื่อยๆ ก็ค่อนข้างยากมากเลยครับ การแข่งขันมันสูงมาก”

“มีเหนื่อยหรือท้อไหม เป็นเรื่องปกติของทุกอาชีพอยู่แล้วครับ มันมีเรื่องให้เราเข้ามาตลอดเวลา คือตัวงานไม่มีทางทำให้เราท้อได้ แต่มันเป็นปัจจัยอื่นๆ มากกว่า คือเราก็ได้กำลังใจจากแฟนๆ ด้วย จากคนรอบข้างและสิ่งสำคัญที่สุดคือเราก็ต้องให้กำลังใจกับตัวเองเหมือนกัน ถามว่าต้องฝึกอะไรเพิ่มเติมไหม ผมค่อนข้างต้องฝึกเรื่องภาษามากขึ้น ต่อให้พูดได้แล้วก็ใช่ว่ามันจะพอ ต้องพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ ตลอดเวลา ตอนนี้ก็หลายภาษาอยู่ เริ่มสับสนเหมือนกันครับ”