หวั่นต้องย้ายอีกรอบ! "แอนนี่ บรู๊ค" ออกจากรายการขายบิงซู ได้เงินหลักร้อย ท้อแต่ต้องอดทน

"แอนนี่ บรู๊ค" ออกจากรายการโกดังมหาสนุกขายบิงซู ได้วันละหลักร้อย ท้อแต่อดทน ต้องอยู่ให้ได้ แต่ไม่รู้จะอยู่ห้องเช่าได้อีกนานแค่ไหน เปิดใจเหนื่อยมาก หารายได้อยู่คนเดียว แต่ก็เหนื่อยมาทั้งชีวิต ประหยัดสุดๆ ตัดค่าใช้จ่ายในส่วนของตัวเองทั้งหมด ภูมิใจ "น้องฑี" สอบภาษาอังกฤษติดอันดับ 1 ของประเทศ ลั่นลูกคือที่สุด

มรสุมชีวิตมีเข้ามาไม่ขาดสายเลยทีเดียว สำหรับ "แอนนี่ บรู๊ค" หลังจากที่ต้องหอบแม่และลูกย้ายบ้านเพื่อลดภาระค่าใช้จ่าย ล่าสุดสาวแอนนี่ ยังเผยว่าต้องออกจากรายการโกดังมหาสนุก ซึ่งเป็นรายการที่สร้างรายได้หลักหลังแม่ล้มป่วย เพราะระยะทางที่ไกลเกินไป ทำให้ต้องหันมาขายบิงซู ชานมไข่มุก เป็นแม่ค้า ซึ่งเงินที่ได้ในแต่ละวันก็แค่หลักร้อยเท่านั้น โดยเจ้าตัวเผยกลางงาน Fiora คลินิก สมุทรสาคร by ดร.เพชร ยันท้อแต่ก็อดทนเอา

"เมื่อก่อนจะมีรายการโกดังมหาสนุกนะคะ แต่ว่าพอคุณแม่ล้ม และด้วยระยะทางที่ไกลด้วย คือถ่ายที่หนองแขมค่ะ ก็เลยบอกพี่เขาว่าไม่สามารถไปได้ เนื่องจากใช้เวลายาวนาน ก็เสียดายค่ะ ในส่วนของละครก็เลยไม่มีค่ะตอนนี้ ก็มาทำบิงซูอยู่หน้าบ้าน ก็จะเป็นขายขนมหวาน มีขนมปังปิ้ง มีชานมไข่มุก ตอนนี้ก็เป็นแม่ค้าทั่วไป แล้วก็จะมีงานรีวิวสินค้าบ้างเล็กๆ น้อยๆ ก็มีเข้ามาบ้างค่ะ"

"รายได้หลักตอนนี้ก็น่าจะมาจากการที่เรารีวิวสินค้าค่ะ แต่ถามว่าได้เยอะไหม มันก็ได้ไม่เยอะหรอกค่ะ แล้วก็จากการที่เราไม่ได้อยู่นิ่งเฉย อย่างทุกวันนี้ขายบิงซู มันก็ไม่ได้วันนึงหลักเป็นหมื่นหรือหลายพัน บางวันก็ได้แค่หลักร้อยด้วยซ้ำไป แต่ถ้าเราประหยัดและเราสู้ยังไงมันก็อยู่ได้ ด้วยยุคเศรษฐกิจแบบนี้ทุกคนไม่อยากใช้จ่ายเงินทั้งนั้นแหละค่ะ"

ตัดค่าใช้จ่ายส่วนตัวออกหมด เอาไว้ให้ลูกกับแม่
"ก็แทบจะเสมอตัวนะคะ บางทีก็ขาดแหละ แต่ด้วยความที่เราเป็นคนประหยัด อะไรที่มันเป็นแค่ใช้จ่ายของตัวแอนนี่เอง แอนนี่ตัดออกหมดเลย เสื้อผ้าหน้าผมทุกอย่างเอาออกหมดเลย ก็เอาให้ลูกกับแม่ไปหมดแล้ว มันก็ยังพออยู่ได้ แต่ถ้ายังซื้อของอะไรให้ตัวเองอยู่ก็คงไม่แน่"

เปิดใจเรื่องย้ายบ้าน ไม่รู้จะอยู่อพาร์ตเม้นท์ได้อีกนานแค่ไหน
"ใช่ค่ะ จริงๆ เราเป็นคนต่างจังหวัดค่ะ พอเราเข้ามาอยู่กรุงเทพฯ ยังไงก็ต้องเช่าบ้านอยู่แล้ว เรื่องค่าเช่าบ้านก็มีแต่ขึ้นกับขึ้น มันไม่มีลดลง และค่าเช่าบ้านในกรุงเทพฯ ก็ค่อนข้างแพง เอาง่ายๆ แค่อพาร์ตเม้นท์เล็กๆ ห้องเดียว 3,000 นี่หาแทบไม่ได้แล้วนะ อย่างน้อยมันต้อง 6-8 พันขึ้นไปแล้ว อย่างเมื่อก่อนเรามีรายรับเราก็ยังพอสามารถจ่ายได้อยู่ เราก็จ่ายได้ก่อนและอยู่ไปได้หลายปี แต่พอช่วงหลังมานี้เราต้องลดทุกอย่างลง ก็เพิ่งจะย้ายค่ะ ก็ไม่รู้ว่าอยู่ตรงนี้ได้นานแค่ไหน ไม่ได้หมายความว่าพอมีงานเยอะๆ แล้วจะย้ายไปอยู่ไฮโซนะคะ แต่เพราะที่อยู่นี่มันต้องเข้าไปในซอย แล้วถ้าเราจะขายของ ลูกค้าอาจจะเข้าถึงลำบาก แอนมองแค่ส่วนนี้มากกว่า"

"ตอนนี้ก็อยู่กับแม่และลูก 3 คนค่ะ แต่ว่าตอนนี้คุณแม่ก็ดีขึ้นมากแล้ว และงอแงค่ะ ก็อยากจะกลับไปเที่ยวบ้านที่ต่างจังหวัดบ้าง ก็จะมีญาติๆ คอยช่วยดูแลค่ะ"

ภูมิใจ "น้องฑีฆายุ" สอบภาษาอังกฤษติดอันดับ 1 ของประเทศ
"หนึ่งเลยคือตั้งแต่เล็กจนถึงทุกวันนี้ เรารู้ว่าภาษามันสำคัญเราก็ใส่ให้เขาตั้งแต่พูดกันคุยกันรู้เรื่อง หรือว่าการดูยูทิวบ์ ดูการ์ตูนธรรมดาทั่วไป ก็คือตั้งแต่เด็กเลย หรือเรามีเพื่อนฝรั่งเราก็พาเขาไปเจอ พาเขาไปคุย ให้เขารู้สึกว่ามันเหมือนเป็นภาษาธรรมดาที่เขาสามารถเข้าถึงได้ง่าย หรืออย่างตอนอยู่ที่บ้านพอเขาโตขึ้นมาเราก็ดูแลในเรื่องของหนังสือที่เขาจะอ่าน เกมส์ที่เขาจะเล่นอะไรประมาณนี้ค่ะ เวลาอยู่บ้านเราก็จะพูดกันทั้งสองภาษาเลยค่ะ อย่างบางทีแอนแก่แล้ว บางคำศัพท์แอนก็ลืม แอนก็พูดภาษาไทยไป เขาก็ตอบกลับมาเป็นภาษาอังกฤษก็มี (หัวเราะ)"

"เขาก็ไม่ได้เก่งที่สุดนะคะ แต่เขาก็เก่งที่สุดสำหรับแอนแล้วค่ะ ก็ภูมิใจในสิ่งที่เราคิดไว้ สิ่งที่เราปลูกฝังให้เขาแล้วเขาสามารถทำมันออกมาได้ดี"

ไม่กดดันลูกให้ช่วยขายของมากเกินไป
"คือเขาก็ไม่ได้มาช่วยทุกอย่าง ทำอยู่ตลอดเวลาขนาดนั้นนะคะ เขาก็ยัง 9 ขวบกว่า ก็มีเหนื่อย มีงอแง เราก็เข้าใจ ไม่ได้ไปกดดันเหมือนสมัยเราที่พ่อแม่มักจะบอกว่ากวาดบ้านให้เสร็จนะ ล้างจานให้หมดนะแบบนั้น แต่เราแค่ให้เขาค่อยๆ เริ่มทำ จะสะอาดมากสะอาดน้อย ทำนิดทำหน่อย ถ้าได้เริ่มทำก็พอใจแล้ว"

เหนื่อยมาก หารายได้อยู่คนเดียว แต่ก็เหนื่อยมาทั้งชีวิต ท้อแต่อดทน
"มากค่ะ (ยิ้ม) แต่ก็เหนื่อยมานานแล้วแหละ เหนื่อยมานานทั้งชีวิตแล้ว เพราะตอนนี้น้องฑีก็จะ 10 ขวบแล้ว จะ 10 ปีแล้วแอนก็ยังอยู่คนเดียวแบบนี้อยู่ ยังหาคนเดียวแบบนี้อยู่ ก็ค่อนข้างเหนื่อยค่ะ ก็มีท้อบ้าง มันมีทุกคนแหละ แต่ก็อดทนเอาค่ะ"

"ลูกก็ให้กำลังใจที่สุดค่ะ ด้วยคำพูดของเขา ปฏิกิริยาท่าทางของเขา กอดหน่อย หอมหน่อย แม่เหนื่อยไหมอะไรอย่างนี้ หรือถึงเราไม่พูด แต่เขารู้ว่าเราเหนื่อย เขาก็จะมากอด มาหอมตลอดเวลา เขาเป็นคนที่มอบความรักให้แอนตลอด ก็อยากบอกว่าฑีเป็นที่สุดของแม่แอนแล้วค่ะ"

"ตอนนี้แม่เป็นแค่โรคประจำตัว พวกเบาหวาน ความดันธรรมดาทั่วไปค่ะ แต่ในเรื่องของข้อ และในส่วนของกระดูกก็ไม่น่าจะมีปัญหามาก แต่แกก็ต้องออกกำลังกายด้วยการเดินค่ะ ตอนนี้เริ่มใช้วอล์คเกอร์ก็เริ่มเดินได้บ้างแล้ว เริ่มช่วยเหลือตัวเองได้บ้างแล้วค่ะ"