เชื่อกันว่าหาก Disney เข้าซื้อกิจการของ Fox ได้สำเร็จ Disney จะครองส่วนแบ่งรายได้หนังทั้งหมดถึง 40% เลยทีเดียว และนักวิจารณ์ยังเชื่อว่านี่จะเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ Disney ได้รับส่วนแบ่งมากขึ้นเรื่อยๆ ส่วนคนอื่นก็จะน้อยลงไปด้วย
Disney ใกล้ประสบความสำเร็จในการซื้อกิจการของ 21st Century Fox หลังเพิ่มราคาซื้อไปเป็น 71,300 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ 2,375,003 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้ Disney ได้สิทธิในการสร้าง และจัดจำหน่ายหนังภาคต่อสุดฮิตอย่าง Avatar, Deadpool และ X-Men ซึ่ง CNN เชื่อว่า หากดีลดังกล่าวสำเร็จจริง Disney จะครองรายได้มากถึง 40% ของหนังฮอลลีวูดทั้งหมดเลยทีเดียว
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ก็ยังไม่มั่นใจว่าสุดท้ายแล้ว สิ่งที่เกิดขึ้นจะดีต่อวงการหรือไม่ แต่ที่แน่ๆ จะทำให้ Disney ครอบงำ และได้เปรียบคู่แข่งอย่างชัดเจนขึ้นมาทันที “พวกเขาจะครองส่วนแบ่งรายได้ทั้งหมดมากระดับนั้นเลย ซึ่งก็จะทำให้ได้เปรียบมากในการจัดจำหน่ายหนัง ส่วนคนอื่นก็จะทำหนังได้ลำบากขึ้นเรื่อยๆ” บาร์ตัน คร็อกเก็ตต์ แห่ง FBR Capital Markets บอกกับ CNN
ก่อนหน้านี้ Disney เคยซื้อทั้ง Lucasfilm มาด้วยเงิน 2,200 ล้านเหรียญสหรัฐฯ, ซื้อ Marvel มา 4,240 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และใช้เงิน 7,400 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในการซื้อหุ้นทั้งหมดของ Pixar จบครอบครองกิจการของสตูดิโอผลิตอนิเมชันอย่างเบ็ดเสร็จมาแล้ว และประสบความสำเร็จในการสานต่อแฟรนไชน์จากผู้สร้างเหล่านี้จนทำเงินได้อย่างต่อเนื่อง
“Disney จะมีส่วนแบ่งของบ็อกซ์ออฟฟิศในประเทศมากขึ้นไปเรื่อยๆ ซึ่งก็ยากที่จะสรุปไปเป็นอย่างอื่น นอกจากว่าพวกเขาจะได้เปรียบมากขึ้นไปอีก และจะมีสภาพเป็นเหมือนกับ Walmart แห่งฮอลลีวูด” คร็อกเก็ตต์ แสดงความเห็น
ส่วน เจฟฟ์ บ็อก นักวิเคราะห์ของ Exhibitor Relations ก็มองว่า การเข้าซื้อกิจการของ Fox จะทำให้ Disney มีอำนาจต่อโรงเหนือเจ้าของโรงภาพยนตร์อย่างมหาศาล “และถ้ายิ่งมีสตูดิโอผลิตภาพยนตร์สักแห่งที่เลิกกิจการไป ก็จะยิ่งน่าเป็นห่วงมากขึ้นไปอีก”
ผู้ถือหุ้นของ Fox จะลงมติเรื่องการขายกิจการในวันที่ 27 ก.ค. ที่จะถึงนี้