xs
xsm
sm
md
lg

“แพท” ยืดเวลาอยู่กับแม่ให้นาน หลังอาการทรุด ชักถี่ขึ้น ไม่ตอบสนอง รัก “เบนซ์” สั่นคลอน ไม่ผูกพัน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“แพท ณปภา” เครียด เจอมรสุมชีวิตอีกลูก แม่ทรุดหนัก ชักไม่ตอบสนอง ทำใจกับทุกสิ่งที่จะเกิด แค่ขอยืดเวลาให้นาน เผยรัก “เบนซ์” สั่นคลอน ห่วงใยแต่ไม่มีความผูกพัน ลุ้นอนาคตไปทิศทางไหน ขาดการติดต่อครอบครัวฝ่ายชาย ไม่มีเหตุจำเป็นแทบไม่ได้สื่อสารกัน



หลังจากที่เคยออกมาประกาศถึงความรักกับสามี “เบนซ์ เรซซิ่ง” อัครกิตติ์ วรโรจน์เจริญเดช และครอบครัวฝ่ายชายที่เริ่มไม่เหมือนเดิม จนทำให้ถูกจับตามองว่ารัก “แพท ณปภา ตันตระกูล” จะออกมาในรูปแบบไหน ล่าสุด เมื่อวันที่ 4 มิ.ย. ที่ผ่านมา ราชทัณฑ์ได้เบิกตัวเบนซ์และพวกรวม 3 คน จากเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครและทัณฑสถานหญิงกลาง มายังศาลอาญา รัชดา ตามกำหนดนัดตรวจพยานหลักฐานคดีสนับสนุนค้ายาเสพติดและร่วมกันฟอกเงิน ซึ่งถูกจับตาว่าแพทไม่ได้มาให้กำลังใจสามีด้วย โดยแพทเผยว่าตนส่งลูกไปแทนเพราะติดงาน และไปรับกลับ แต่คนอาจไม่เห็น ส่วนสัมพันธ์นั้น ยังรักและห่วงแต่ไร้ซึ่งความผูกพัน

ส่งลูกไปค่ะ แล้วแพทก็ตามไปทีหลัง เพราะแพททำพิธีกร แล้วเราไม่ได้ลาเขา เพราะว่ามันกระชั้นชิด คือคุณแม่สามีบอกกระชั้นชิด ก็เลยไม่ได้ลาเพราะหาคนแทนไม่ได้ เราก็เลยไม่ได้ไป แต่เราให้ลูกไปก่อน คือให้พี่เลี้ยงพาลูกไปให้พี่เบนซ์ได้อุ้ม พอเราไปถึงก็ได้เจอพี่เบนซ์แป๊บนึง แล้วก็เอาน้องกลับ”

“ได้คุยกันปกติค่ะ เขาก็บอกว่าถ้าสมมติเราไปไม่ได้ไม่เป็นไร แต่ให้เอาลูกไป (หัวเราะ) ส่วนเรื่องที่คนคิดว่าเราไม่ไป ข่าวคงจะไม่ได้เห็นตอนที่พี่เบนซ์อยู่ในศาล คือเราไม่ได้ไปตั้งแต่เช้า พอพี่เบนซ์ลงจากบัลลังก์เราตามไปตอนนั้น ไม่ไปไม่ได้ เราต้องไปรับลูก ส่วนโพสต์ดักเรื่องทำงาน เราก็ทำงานค่ะ ไม่ต้องห่วงเลย จนทุกวันนี้ก็ไม่ได้ไปเยี่ยมที่เรือนจำก็เพราะว่าทำงาน จะ 2 เดือนแล้ว”

เข้าใจดรามา บอกถ้าอีกฝ่ายมาอยู่ในจุดที่ตนอยู่ ก็อาจจะพูดไม่ออก
“ไม่กลัว เราเข้าใจได้ คือ ณ จุดนี้เวลาที่คนดรามาบางทีเขาอาจจะไม่ได้รู้รายละเอียดลึกซึ้ง คนแต่ละคนมองไม่เหมือนกัน แล้วถ้าเขาไม่ได้อยู่ในจุดของเราเขาจะพูดได้ไม่ครบอยู่แล้วค่ะ วันนี้ถ้าเรากลับจุดยืนกัน ถ้าเขามายืนอยู่จุดแพทเขาอาจจะพูดอะไรไม่ออกเลยก็ได้”

สายสัมพันธ์พ่อลูกแน่น “เบนซ์” แฮปปี้ได้อุ้ม “น้องเรซซิ่ง” บอกต่อไปขอให้พี่เลี้ยงอุ้มลูกมาหา ส่วนตนไม่ว่างก็ไม่ต้องมา
“ที่คุณย่าเล่าคือพี่เบนซ์เขาก็ยังแฮปปี้ที่ลูกยังให้อุ้ม เพราะเห็นคุณย่าบอกว่ามีน้องอีกคนนึงที่ไปเยี่ยมคุณพ่ออันนั้นคือไม่ให้แตะเลย แต่นี่น้องยังให้เล่น ก็ถือว่าสบายใจได้ ถามว่าน้องจำได้มั้ย แพทว่าสายสัมพันธ์ แต่มันก็ยากเหมือนกัน ต้องเข้าใจเรซด้วยว่าเรซไม่ได้เจอพ่อเขาตั้งแต่เขา 3 เดือน ตอนนี้เขา 1 ขวบ 4 เดือนแล้ว 1 ปีกับ 1 เดือนเต็มๆ แล้วช่วงจังหวะที่เขาจำ พ่อเขาก็ไม่ได้อยู่ใกล้ๆ เขา แพทก็บอกเสมอว่าการที่แค่พาไปเยี่ยม แค่เราเป็นผู้ใหญ่ตาดีๆ มองผ่านยังมองลำบากเลย แล้วเด็กยิ่งการมองยิ่งยากเข้าไปใหญ่เลย แต่เราก็ใช้วิธีการบอกว่านี่ป๊ะป๋านะ”

“แพทแทบจะไม่ได้ให้ดูรูปอยู่แล้วค่ะ คือเด็กน่ะ ให้ดูรูปเขาก็ไม่เข้าใจ เขายังต้องการการสัมผัส การเล่นด้วยอยู่ดีค่ะ พี่เบนซ์เขาคิดถึงลูก พอแพทไปรับลูกก็มีโอกาสได้คุยกับเขา พี่เบนซ์ก็บอกว่าคุณน่ะไม่มาไม่เป็นไร ก็ทำงานไป ว่างเมื่อไหร่ก็มา แต่ยังไงแล้วเป็นไปได้มั้ยที่เราจะให้พี่เลี้ยงหรือให้ใครพาลูกไปหาเขาหน่อย อาจจะไม่ต้องบ่อยก็ได้ แต่ช่วยพามาหน่อย เขาก็มีรูปลูกค่ะ เราส่งเป็นจดหมายเข้าไป”

ลุ้นเรื่องคดี หลังแยกบ้านพูดคุยกับแม่สามีและครอบครัวน้อยมาก ถ้าไม่มีเหตุจำเป็นแทบไม่ได้สื่อสาร
เรื่องคดีแพทว่าเร็วๆ นี้แล้วล่ะ ตัวแพทเองก็รอลุ้นอยู่เหมือนกัน คือแพทต้องพูดตามตรงเลยว่าพอแพทแยกกับทางบ้านของพี่เบนซ์กลับมาอยู่บ้านตัวเอง การพูดคุยหรืออะไรกับแม่สามี รวมถึงกับครอบครัวฝั่งเขามันน้อยมากจริงๆ ถ้าไม่มีเหตุจำเป็นอะไรเราแทบจะไม่ได้สื่อสารกันเลย ทีนี้ในส่วนตรงนี้แพทเลยไม่ได้ถามอะไร เรารู้แค่ว่าหน้าที่เราเดี๋ยวเราต้องมีไปขึ้นศาลนะ เพื่อที่จะไปเป็นพยานฝั่งโจทก์ อันนี้เรารู้ว่าเราต้องไป แต่เรื่องเนื้อหาคดีแพทยังไม่ทราบ จนกว่าทางฝั่งคุณย่าจะนัดให้ไปคุยกับทนายของพี่เบนซ์ เนื่องจากว่าเราแยกทนาย”

“เรื่องแนวโน้มคดี ตอนนี้แพทไม่เห็นอะไรเลย แพทรออย่างเดียวคือรอให้ทางคุณย่าเขานัดให้เราไปคุยกับทนายของพี่เบนซ์ และแพทกับพี่เบนซ์ใช้ทนายกันคนละส่วนเลย ของเขาก็ไปทำการบ้านของเขา ถ้าเขาต้องการข้อมูลจากเรา เขาถึงจะเรียกเราไปคุย แพทก็ไม่ได้ถาม แล้วแพทก็ไม่ได้ไปเยี่ยมเขามาจะ 2 เดือนแล้วค่ะ”

เชื่อยังมีหวัง เรื่องกลับมาเป็นครอบครัวยังต้องลุ้นว่าจะไปในทิศทางไหน ถ้ามีโอกาสอยู่ด้วยกันต้องจูนกันใหม่
“เรื่องพี่เบนซ์เปลี่ยนทนายใหม่ทั้งหมด แพทไม่รู้จริงๆ แม่เขาไม่ได้บอก เราก็ไม่ได้ถาม คือเขาคงตัดสินใจกันข้างในอยู่แล้ว แพทต้องบอกตรงนี้เลยค่ะว่าในส่วนของพี่เบนซ์ คุณแม่เขาแทบจะไม่ได้ปรึกษาเรา เขาก็ตัดสินใจกันในครอบครัวเขา แต่ถามว่ามีความหวังมั้ย ทุกคนต้องมีความหวังค่ะ แพทก็หวังว่าอย่างน้อย ตอนนี้แพทก็ต้องยอมรับตรงๆ ว่าแพทกับพี่เบนซ์ห่างกันมาเป็นปีแล้ว ตอนที่อยู่ด้วยกันก็อยู่แค่ท้อง 9 เดือน ลูก 3 เดือน เป็นแฟนกันอีกนิดหน่อย ก็เกือบๆ 2 ปีแต่ไม่ถึง มันสั้นมาก แล้วก็หายกันไปเป็นปี ทีนี้ตอนกลับมาตอนนี้แหละ แล้วมีน้องด้วย”

“คราวนี้ก็จะเป็นการพิสูจน์อะไรหลายอย่าง อันนี้แพทพูดในมุมบวกเลยนะว่าได้กลับมาอยู่ด้วยกันนะ มันก็ต้องจูนกันอีก อันนี้แพทบอกตรงๆ เลยคือใครจะถามแพทก็พูดกับเขาตรงๆ ว่าอย่าถามเลย เพราะว่าระยะเวลาของแพทกับพี่เบนซ์มันเร็วมากเลย คบกัน ถูกใจกัน ท้อง แต่ง อยู่ด้วยกัน ลูก 3 เดือนพ่อไม่อยู่ แล้วอยู่ดีๆ ก็หายกันไปเป็นปีเราเลี้ยงลูกคนเดียว กลับมาสิ่งหนึ่งที่เขาต้องรับภาระหลายๆ อย่างคือความเข้าใจระหว่างเราสองคน ภาระที่เขาจะต้องช่วยเราแบกไว้ คือตอนนี้สิ่งที่เราแบกไว้อยู่เขาจะต้องมาหาร ก็ต้องมานั่งลุ้นกันว่าพอกลับมาอยู่กันจริงๆ แล้วเราจะไปกันในทางไหน”

ยังรักและห่วงใย แต่ไม่มีความผูกพัน
“ถ้าถามใจแพท แพทบอกเลยว่ายังรักและเป็นห่วง แต่มันไม่มีความผูกพัน คือสายสัมพันธ์มันหายไปเป็นปี แล้วหลายๆ คนก็จะถาม คือถ้าสมมติวันนี้เราฟันฝ่าอุปสรรคกันมา 3 ปี 5 ปีอะไรต่างๆ การห่างกันอย่างนี้แพทก็มองว่ามันอาจจะง่าย จูนกันแป๊บเดียว แต่เผอิญของเรามันมีปัญหาตั้งแต่ท้อง ทุกอย่างมันเร็ว แล้วมามีปัญหากันอีก มันก็กลายเป็นว่าตอนนี้แพทบอกกับเขาตรงๆ ว่ากลับมาถ้าได้อยู่ด้วยกันเราคงต้องคุยกันอีกยาวเลยนะ

“เราก็ทำใจไว้หลายๆ ด้านค่ะ คือพอเรามีลูกแล้วมันจะคิดด้านเดียวไม่ได้แล้ว ก่อนหน้านี้แพทคิดเพื่อลูกมาตลอดตั้งแต่ท้องยันลูกออกมา เราคิดให้ลูกตลอด พอเราได้เลี้ยงเขาแบบเต็มตัวจริงๆ 1 ปีเต็มๆ กับการที่เราอยู่กับลูกสองคน มันทำให้เราคิดอะไรได้เยอะขึ้นหลายอย่างขึ้น อีกอย่างคือแพทไม่ได้มีแค่ลูก ตอนนี้มันมีอะไรหลายอย่างในชีวิตที่มันเกิดขึ้นกับเรา ไหนจะครอบครัวเรา อาการของคุณแม่ที่ก็ไม่ค่อยจะโอเคเท่าไหร่ ภาระหลายๆ อย่าง จากก่อนหน้านี้เรามองว่าเราอยู่แบบนั้นได้ แต่วันนี้เราก็บอกเขาตรงๆ ว่าเราอยู่แบบเดิมไม่ได้ และเราต้องมานั่งคุยกันว่าถ้าอยู่แบบเดิมไม่ได้เราจะอยู่แบบไหน”

“เรื่องเราป่วยคือเราทำงานค่อนข้างหนัก พอเราเปิดโอกาสให้กับตัวเองในเรื่องของการรับงานมากขึ้น คนเขาก็อยากลองให้งานเรามากขึ้น เราก็อยากรับ เราก็อยากทำงาน เวลาพักผ่อนก็เลยน้อยไปด้วย เราก็ไม่ได้บอกใคร ด้วยความที่เราเป็นเสาหลักของที่บ้าน เราไม่อยากป่วย ไม่อยากให้ใครมากังวลเรื่องของเรา เราอยากให้ทุกคนเข้าใจว่าเรายังไหวอยู่”

ปัดตอบรักสั่นคลอน บอกไม่รู้จะใช้คำว่าอะไร เพราะที่ผ่านมาไม่ได้คุยกับเบนซ์
แพทไม่รู้จะใช้คำพูดว่าอะไร เพราะแพทแทบจะไม่ได้คุยเรื่องนี้กับพี่เบนซ์เลย แต่เราบอกเขาตั้งแต่แรกแล้วว่าเราสะดวกที่จะอยู่แบบนี้มากกว่า แล้วเผอิญเขาก็มีคำถามว่าถ้าเราไม่สะดวกจะไปเยี่ยมเขาก็ไม่เป็นไร แต่ยังไงก็ต้องเอาลูกไปเยี่ยม มันเลยกลายเป็นคำถามของเราในใจถามกลับเขาไปว่าถ้าสุดท้ายแล้วเราอยากอยู่อย่างนี้ อยู่บ้านเราแบบนี้ เขาจะโอเคแฮปปี้มั้ย เราก็บอกไม่ได้ แต่เราก็บอกเขาไปแล้ว ที่เหลือก็คือรอวันได้ออกมาอยู่ด้วยกัน แล้วมาจูนกันอีกทีนึง”

“คือตอนนี้แพทไม่สามารถทำตามความต้องการของคุณได้แล้วนะ ตอนนี้เรามีลูก และเราต้องเลี้ยงลูก พอเราอยู่มาแบบนี้ 1 ปีเรารู้ว่านี่คือสิ่งที่เราต้องการ ก่อนหน้านี้มันเป็นสิ่งที่เราต้องทำ เพราะมันเป็นสิ่งที่เราอยากทำให้เราอยู่ด้วยกันให้ได้ แต่พอวันนี้เรามีภาระอะไรหลายๆ อย่างมากขึ้นเลยรู้สึกว่าเราอยากได้ในสิ่งที่เราอยากได้แล้ว”

“เขาก็ไม่ได้ตอบอะไรค่ะ คนนี้ต้องรอก่อน ต้องให้เวลาเขาไปคิดก่อน คนนี้เขาจะเป็นคนไม่ค่อยตอบอะไร ที่แพทไม่ค่อยพูดกับเขา ณ ตอนนี้เพราะแพทรู้สึกว่าแค่เขาอยู่ข้างในก็เครียดแล้ว แพทถึงนับวันรอทุกวันที่จะให้เรากลับมาได้คุยกันจริงๆ สักทีนึง เพราะก่อนหน้านี้เราทำทุกอย่างเพื่อเขา เพื่อหวังว่าต้องอยู่กันให้ได้ แต่พอวันนี้พอมีลูกแล้วแพทเห็นอะไรหลายๆ อย่างมากขึ้นมันก็มีคำถามให้ตัวเองมากขึ้น และคำถามพวกนี้ทุกวันนี้แพทยังไม่พูด มันจะรอวันที่แพทพูดกับเขา”

บอกแม่ชักบ่อยขึ้น ตอบสนองน้อย ทำใจรับทุกสิ่งที่จะเกิด
“ก็ตามวัยค่ะ จริงๆ แพทก็ไม่ได้เก่งไปกว่าคุณหมอหรอก แต่ว่าคุณแม่มีอาการชักบ่อยขึ้น แล้วพอคุณแม่ได้ยากันชัก แกตอบสนองน้อย ทางเลือกที่คุณหมอให้คือการใส่สายให้อาหาร เรารู้สึกไม่โอเคเลยเพราะรู้สึกว่าถ้าใส่สายแล้วเราจะดูแลลำบาก ติดเชื้อ สกปรกต่างๆ รวมถึงแกจะยิ่งไม่ต้องใช้ระบบอะไรแล้ว เพราะสายไหลเข้าไปถึงกระเพาะก็อิ่มแล้ว ไม่ต้องเคี้ยว ไม่ต้องกลืนแล้ว เราก็บอกคุณหมอว่ายังไงแพทก็ยังอยากจะป้อนข้าวด้วยมือของเราเอง เรายังอยากจะให้เขากลืน ก็เลยกลายเป็นว่าเราลดยาเอง เพื่ออยากให้แม่เขาฟื้นตัว ให้เขามีสติหน่อย พอเราไปลดยาเขา ก็เลยมีอาการชัก เราก็ส่งโรงพยาบาล คุณหมอก็ถามเรื่องยาเราอีก มันก็เป็นอย่างนี้จนเราก็ไม่รู้ว่าจะต้องยังไง คือพอเราให้ยาตามที่คุณหมอบอกแม่ก็เริ่มไม่กลืน ไม่เคี้ยว ตอบสนองช้าลงมากๆ ก็เลยทำให้เรากังวล”

“ตอนนี้แย่เลยค่ะ แต่ก็อยู่ที่บ้านค่ะ การอยู่โรงพยาบาลแพทไม่ค่อยโอเคอยู่แล้ว ถ้าเป็นไปได้แพทจะกลับมาดูแลที่บ้านเองดีกว่า ตอนนี้เป็นเรื่องที่เราต้องคิดอีกหนึ่งอย่างเลยว่าแพทจะต้องทำยังไงต่อไป พอเราเห็นแม่จากที่ยังพอรู้เรื่องบ้าง แต่วันนี้ไม่เอาอะไรเลย มันก็เครียดเหมือนกันค่ะ เพิ่งเป็นได้หลังจากที่รับยา ประมาณ 3 อาทิตย์เองที่หนักลง จนที่บ้านต้องมานั่งคุยกันแล้วค่ะ”

“ถามว่าเครียดแค่ไหน จริงๆ เราดูแลคนป่วยก็ทำใจไว้อยู่แล้วล่ะว่าอะไรจะเกิดขึ้น แต่ให้มันช้าที่สุดได้มั้ย ก็ยอมรับว่าทำใจค่ะ แต่ให้มันช้าที่สุด คุณหมอแกก็อยากให้เราใส่สายเพื่อที่จะให้สารอาหารครบและไม่ต้องกลัวเรื่องสำลัก ไม่ต้องกลัวเรื่องชัก ยาก็จะได้เต็มที่ แม่ไม่ต้องตื่นรู้มาก แต่เรายังไม่โอเค เราเคยเจอเขาตบมือ ยังเล่น ยังยิ้มได้ แล้ววันนี้แกทำไม่ได้ เราก็แอบเครียดนิดหน่อย ส่วนวิกฤตแค่ไหน คุณหมอเขาก็บอกแล้วว่ามันจะมีแค่การยืดให้มันช้าลงโดยที่เราพยายามดูแลเขาให้ดีที่สุดนี่แหละค่ะ เราไม่ร้องไห้นะ คือเราทำใจเตรียมใจเข้าใจกับมันมาสักพักแล้วค่ะ”

(ติดตามทุกข่าวสารในแวดวงบันเทิงทั้งหมดได้ที่ https://mgronline.com/entertainment)



กำลังโหลดความคิดเห็น