MGR Online - อัยการขอศาลเลื่อนนัดตรวจหลักฐาน “เบนซ์ เรซซิ่ง” ในคดีฟอกเงินและสนับสนุนค้ายาเสพติดออก โดยในวันนี้ “แพท” พร้อมมารดา และ “น้องเรซซิ่ง” ลูกชายวัย 5 เดือน เดินทางมาให้กำลังใจด้วย ด้าน “แพท-เบนซ์” น้ำตาคลอเบ้า
วันนี้ (7 ส.ค.) ที่ห้องพิจารณา 805 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดตรวจหลักฐานคดีอาญาหมายเลขดำ ที่ อย.2201/2560 ที่พนักงานอัยการคดียาเสพติด 10 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายอัครกิตติ์ วรโรจน์เจริญเดชหรือเบนซ์ เรซซิ่ง อายุ 30 ปี นักแข่งรถชื่อดัง, นายสรรเสริญ หรือเน็ต รสานนท์ อายุ 25 ปี ภูมิลำเนา จ.นนทบุรี, น.ส.อังสุพร หรืออุ้ม อินา อายุ 29 ปี ภูมิลำเนา จ.น่าน เป็นจำเลยที่ 1-3 ในความผิดฐานฟอกเงินและสมคบกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินฯ ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 มาตรา 3, 5, 9, 60 และสนับสนุนหรือช่วยเหลือหรือสมคบค้ายาเสพติด ตาม พ.ร.บ.มาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ. 2534 มาตรา 3, 4, 6, 10, 14 และ พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 ซึ่งอัยการได้ยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 26 พ.ค.ที่ผ่านมา กรณีกล่าวหาว่าเมื่อต้นเดือน พ.ย. 2559 - 2 ก.พ. 2560 จำเลยทั้งสาม กับนายณัฐพล หรือบอย นาคคำ จำเลยในคดีอาญาหมายเลขดำที่ อย.2187/2560, อย.1883/2560, อย.1257/2560 ของศาลอาญา, นายชัยวัฒน์ หรือแป๊ะ ชูสาย จำเลยคดีอาญายาเสพติดซึ่งศาลมีคำพิพากษาไปแล้ว กับพวกที่หลบหนีและยังไม่ได้ตัวมาฟ้องได้ร่วมกันสมคบสนับสนุนช่วยเหลือเพื่อกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติดชนิดยาไอซ์และยาบ้าที่เป็นยาเสพติดประเภท 1 และร่วมกันวางแผนแบ่งหน้าที่กันทำในการเป็นผู้จัดหา ครอบครอง เก็บรักษา ลำเลียงยา หาลูกค้าและเป็นเครือข่ายการรับยาเสพติด รวมทั้งดำเนินการจัดการด้านการเงินที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายยาเสพติดที่นายณัฐพล หรือบอย กับพวกเป็นผู้จัดหายาเสพติดและเป็นผู้ประสานงานในการขนถ่ายลำเลียง โดยนายอัครกิตติ์, นายสรรเสริญ และน.ส.อังสุพร จำเลยที่ 1-3 เปิดบัญชีธนาคารเพื่อทำธุรกรรมทางการเงินเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ซึ่งได้มีการจัดการรับฝากเงินและโอนเงินค่ายาเสพติดไปยังบัญชีธนาคารบุคคลตามคำสั่งของนายณัฐพล รวม 53 ครั้ง เป็นเงิน 11,072,547 บาท โดยนายอัครกิตติ์ จำเลยที่ 1 ยังนำเงินที่ได้รับจากนายณัฐพลไปซื้อรถยนต์หรูลัมบอร์กินี และจักรยานยนต์ราคาแพง
โดยระหว่างการพิจารณาคดี นายอัครกิตติ์ และนายสรรเสริญ หรือเน็ต จำเลยที่ 1-2 ถูกคุมขังอยู่ที่ทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง ส่วน น.ส.อังสุพร หรืออุ้ม จำเลยที่ 3 ถูกคุมขังไว้ที่ทัณฑสถานหญิงกลาง เนื่องจากไม่ได้รับการประกันตัว โดยวันนี้ศาลได้เบิกตัวจำเลยทั้งสามมาเพื่อร่วมกระบวนพิจารณา ซึ่งระหว่างเดินทางมาขึ้นศาล จำเลยไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนได้ถ่ายภาพในชุดนักโทษแต่อย่างใด
โดยเมื่อถึงเวลา ศาลได้สรุปคำฟ้องและอธิบายข้อกล่าวหาของอัยการโจทก์ให้จำเลยทั้งสามฟังจนเป็นที่เข้าใจแล้วสอบถามว่าจะรับสารภาพหรือให้การปฏิเสธ จำเลยทั้งสามยืนยันให้การปฏิเสธ
ขณะที่วันนี้ อัยการโจทก์ได้นำพยานเอกสาร 121 ฉบับ รวม 6 แฟ้ม เป็นรายละเอียดเกี่ยวกับเครือข่ายขบวนการยาเสพติดพื้นที่ภาคเหนือ และบัญชีพยานบุคคลรวม 20 ปากเสนอศาล พร้อมแถลงศาลขอเลื่อนนัดตรวจหลักฐานวันนี้ออกไปก่อน เนื่องจากคดีนี้เป็นเหตุที่สืบเนื่องมาจากคดียาเสพติดที่อัยการได้ยื่นฟ้องนายณัฐพล หรือบอย นาคคำ กับพวกไว้หลายสำนวน และวันนี้ศาลก็นัดตรวจหลักฐานคดีของนายณัฐพล หรือบอย สำนวนหนึ่ง แต่คณะทำงานอัยการก็ได้เตรียมรวมสำนวนคดีของนายณัฐพลกับพวกเพื่อตรวจหลักฐานพร้อมกันในวันที่ 2 ต.ค.นี้ ดังนั้น โจทก์จะขอเลื่อนการตรวจพยานหลักฐานของนายอัครกิตติ์กับพวกไปหลังวันที่ 2 ต.ค.นี้ เพื่อรอฟังผลคดีของนายณัฐพลก่อน
แต่เมื่อศาลสอบถามนายศิวาวิทย์ สำเร็จผล ทนายความคนใหม่ ที่นายอัครกิตติ์ จำเลยที่ 1 แต่งตั้งมาใหม่ และนายสมศักดิ์ พงษ์สุพรรณ กับนายสิทธิโชค ตรีเนตร ทนายความจำเลยที่ 2-3 แล้ว ปรากฏว่านายศิวาวิทย์ ทนายความจำเลยที่ 1 ได้คัดค้านเนื่องจากเห็นว่าระยะเวลานานเกินไปและคดีที่ถูกฟ้องนี้ก็เป็นเรื่องของการฟอกเงินซึ่งจำเลยก็ให้การปฏิเสธ ขณะที่ตนต้องการจะรักษาสิทธิของคู่ความที่ต้องถูกคุมขังยาวนานออกไปอีกหากเลื่อนนาน ตนมีแนวทางว่าจะยื่นประกันขอปล่อยชั่วคราวอีกครั้ง ศาลพิเคราะห์แล้ว เห็นตรงตามที่ทนายความจำเลยที่ 1 ค้านว่าหากเลื่อนระยะเวลาถึง ต.ค.จะส่งผลให้คดีใช้ระยะเวลาพิจารณายาวนานเกินไป ดังนั้นจึงไม่อนุญาตให้เลื่อนการตรวจหลักฐานในวันนี้
จากนั้นอัยการจึงได้นำพยานเอกสาร 6 แฟ้ม 121 ฉบับ และบัญชีพยาน 20 ปาก ยื่นต่อศาลเพื่อให้ทนายจำเลยทั้งสามได้ตรวจดูรายละเอียด โดยโจทก์ขอเวลาสืบพยานรวม 10 นัด ส่วนจำเลยที่ 1-3 ทนายความ อ้างพยานร่วมกันรวม 17 ปากซึ่งมีจำเลยทั้งสามเป็นพยานด้วย โดยขอใช้เวลาสืบพยาน 4 นัด และได้ยื่นพยานเอกสารเสนอศาลอีก 1 รายการ
ทั้งนี้ ศาลพิจารณาแล้วอนุญาตให้คู่ความทั้งสองฝ่ายนำสืบพยานบุคคลตามที่เสนอ โดยกำหนดนัดสืบพยานโจทก์-จำเลย รวม 14 นัด ระหว่างวันที่ 3-25 ก.ค. 61 เวลา 09.00 น. ซึ่งก่อนจะเริ่มสืบพยานศาลให้นัดพร้อมคู่ความเพื่อตรวจดูความพร้อมพยานที่จะเข้าเบิกความอีกครั้งเนื่องจากพยานกลุ่มที่เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจอาจโยกย้ายหรือเกษียณราชการ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันนี้ระหว่างที่ศาลนัดตรวจพยานหลักฐาน น.ส.ณปภา หรือแพท ภรรยาของเบนซ์ ได้เดินทางมาพร้อมมารดาของเบนซ์ และญาติๆ กับคนสนิท พร้อมด้วย “น้องเรซซิ่ง” บุตรชายวัย 5 เดือน มาให้กำลังใจ โดยวันนี้นับเป็นครั้งแรกที่ทั้งครอบครัวได้เจอพร้อมหน้ากันที่ศาลอาญาหลังจากเบนซ์ไม่ได้รับการประกันตัวตั้งแต่วันฟ้อง 26 พ.ค.ที่ผ่านมา ระหว่างที่พบกันทั้งแพทและเบนซ์ก็ถึงกับน้ำตาคลอเบ้า ขณะที่เบนซ์ยังคงยิ้มแย้มทักทายครอบครัวโดยไม่มีสีหน้าท่าทางอิดโรยหลังจากที่ถูกคุมขังในเรือนจำ ขณะที่จำเลยที่ 2-3 ก็มีครอบครัวและญาติๆ มาให้กำลังใจด้วยเช่นกัน ซึ่งปัจจุบัน น.ส.อังสุพร จำเลยที่ 3 ก็กำลังตั้งครรภ์อยู่ด้วย
วันเดียวกัน ที่ห้องพิจารณาคดีที่ 712 ศาลอาญา ได้นัดตรวจหลักฐานคดีนายณัฐพล หรือบอย นาคคำ ค้ายาเสพติด หมายเลขดำที่ อย.2187/2560 ที่พนักงานอัยการคดียาเสพติด 10 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายณัฐพล หรือบอย นาคคำ เครือข่ายค้ายาเสพติดนายไซซะนะ เป็นจำเลยในความผิดฐานสมคบกันกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติดและร่วมกันมียาบ้าซึ่งเป็นยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและพยายามจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยวันนี้ศาลได้เบิกตัวนายณัฐพล หรือบอย จำเลย มาจากทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลางเพื่อร่วมกระบวนพิจารณาคดี ตลอดการพิจารณานายณัฐพลไม่ได้รับการประกันตัวแต่อย่างใด ขณะที่ศาลได้อ่านและอธิบายคำฟ้องให้นายณัฐพล จำเลยฟังแล้วถามว่าจะให้การรับสารภาพหรือปฏิเสธ ซึ่งจำเลยยืนยันให้การปฏิเสธ
อย่างไรก็ดี อัยการโจทก์ได้แถลงต่อศาลขอเลื่อนนัดตรวจหลักฐานออกไปก่อนเนื่องจากคดีนี้พนักงานสอบสวนได้จับกุมดำเนินคดีนายเทพประสิทธิ์ โตแย้ม ผู้ต้องหาอีกรายในคดีที่เกี่ยวข้องกันและกำลังจะยื่นฟ้องในวันที่ 17 ส.ค.นี้ ซึ่งโจทก์จะแถลงขอรวมพิจารณาสำนวนเดียวกันเนื่องจากพยานหลักฐานในคดีเป็นชุดเดียวกัน ศาลพิเคราะห์แล้ว จึงอนุญาตให้นัดพร้อมคู่ความเพื่อตรวจหลักฐานอีกครั้งในวันที่ 2 ต.ค.นี้ เวลา 09.00 น.