ศาลให้ “แพท ณปภา” ประกันตัวไร้เงื่อนไข เจ้าตัวเปิดใจยื่นหลักทรัพย์ 5 แสน - ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา เชื่อถ้าอดทนจะได้ยินข่าวดี ทนายชี้เตรียมขึ้นศาลอีกครั้งในวันที่ 3 ก.ค. เผยเป็นคดีอุทาหรณ์ทำธุรกรรมโดยไม่รู้ นางเอกสาวเตรียมตัวกลับบ้านไปกอดลูก ยันไม่ได้ตั้งใจจะหนีหมายเรียก แค่เตรียมตัวไม่ทันจริงๆ อยู่วงการมานาน ขอให้ทุกคนเชื่อมั่น
จากกรณีที่ “แพท ณปภา ตันตระกูล” ภรรยา “เบนซ์ เรซซิ่ง” อัครกิตติ์ วรโรจน์เจริญเดช เข้ารับทราบข้อกล่าวหาสมคบคิดกันฟอกเงินและสมคบเพื่อการฟอกเงินที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ในช่วงเช้าวันที่ 15 พ.ค. ที่ผ่านมา ล่าสุด เมื่อเวลา 11.40 น. เจ้าตัวก็ถูกตำรวจคุมตัวไปฝากขังต่อที่ศาลอาญา ทนายความได้ใช้หลักทรัพย์เป็นเงินสด 5 แสนบาท ยื่นต่อศาลเพื่อขอปล่อยตัวชั่วคราวในชั้นฝากขัง
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะรอการพิจารณายื่นคำร้องฝากขัง ผู้สื่อข่าวได้ถามไถ่สาวแพทแค่เพียงสั้นๆ ว่า ไม่กังวลกับเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ใช่หรือไม่ ซึ่งนางเอกสาวก็ยังลั้ลลายิ้มแย้มแจ่มใสก่อนจะพยักหน้าและเดินไปพร้อมเจ้าหน้าที่ขึ้นไปชั้น 8 ของศาล
ต่อมาในเวลา 14.30 น. แพทและทนายได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับกองทัพสื่อมวลชน โดยเผยว่า ศาลนัดอีกครั้งในวันที่ 3 ก.ค. โดยแพทยืนยันว่าได้รับหมายเรียกวันที่ 8 พ.ค. ไม่ได้หนีแต่เตรียมเอกสารไม่ทันจริงๆ และโล่งใจที่จะได้กลับบ้านไปกอดลูกชาย “น้องเรซซิ่ง”
ทนาย : “นัดมาศาลครั้งหน้า 3 ก.ค. ครับ แล้วเดี๋ยวให้คุณแพทอธิบายในเรื่องที่ขัดข้องใจเรื่องหมายเรียกนะครับ”
แพท : “ที่ทุกคนถามเรื่องหมายวันที่ 11 พ.ค. ที่หลายคนมีความไม่เข้าใจนะคะ เนื่องจากว่ามันค่อนข้างเร่งรัดและเร็วมากจริงๆ เรารับหมายวันที่ 8 พ.ค. ตอนกลางคืน กว่าเราจะคุยกับทนายและเตรียมเอกสาร แล้วแพทเป็นนายประกันตัวเองด้วยก็วันที่ 9 พ.ค. วันที่ 10 พ.ค. ก็ติดเป็นวันหยุดราชการอีก ก็ไปธนาคารไม่ได้ พอวันที่ 11 พ.ค. แพทไปตามหมายจริงๆ มันก็จะเกิดปัญหาอย่างแน่นอน คือ ประกันตัวไม่ได้ เอกสารไม่พร้อม เตรียมตัวไม่ทัน ฉะนั้น เมื่อวันที่ 11 พ.ค. แพทเลยให้ทนายเข้าไปเพื่อที่จะขอเลื่อนนัดก่อน”
“แต่ปรากฏว่าพี่ทนายไปถึงแล้ว และหมายก็ออกมาแปะเลย ทั้งๆ ที่จริงๆ แพทก็ไม่ได้จะหนีหมายหรือไม่เห็นความสำคัญ แต่ก็ต้องให้เราเตรียมตัวด้วย ซึ่งระยะเวลาของหมายเร็วมาก ถ้านับตามวันจริงๆ ก็ 3 วัน ซึ่งมันก็เร็วสำหรับเราในการเตรียมตัวทุกอย่าง และหลายๆ คนก็วิพากษ์วิจารณ์กันว่าทำไมไม่มาตามหมาย คือถ้าแพทไปตามหมายจริงวันนี้คงไม่ได้มายืนตรงนี้ ไม่ได้มาสัมภาษณ์ตรงนี้แน่นอน คงจะไปอยู่อีกที่หนึ่ง เพราะว่าเตรียมเงินประกันก็ไม่ทัน แล้วหมายเขาเตรียมไว้ตอนไหนเราก็ไม่รู้ คือ ทนายไปถึงตอนช่วงประมาณเที่ยงๆ หมายก็ออกไปแปะที่แอร์เรียบร้อยแล้วค่ะ ซึ่งจริงๆ เราตั้งใจจะให้ทนายเข้าไปชี้แจง แล้วก็ขอเลื่อนด้วยเหตุผลที่ว่าเราเตรียมตัวไม่ทันก็แค่นั้นเองค่ะ ไม่ได้จะหนีหมายหรืออะไรอย่างที่เป็นข่าวค่ะ อย่างที่บอกถ้าแพทไปตามวันที่ 11 พ.ค. จริงๆ ด้วยระยะเวลา 3 วันติดวันที่ 10 ซึ่งเป็นวันหยุดราชการอีก แพทบอกเลยว่าอาจจะไม่ได้มาสัมภาษณ์แพทตรงนี้นะคะ อาจจะต้องไปสัมภาษณ์ที่อื่น เพราะแพทเตรียมเอกสารไม่ทัน”
ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา พร้อมยื่นหลักทรัพย์ 5 แสนประกันตัว เชื่อถ้าอดทนจะได้ยินข่าวดี
ทนาย : “เตรียมหลักประกันครับ เราก็ใช้สมุดบัญชีเงินฝากจำนวนเงิน 500,000 บาท เท่ากับคดีของสามีครับ ท่านก็อนุญาตให้ประกันโดยไม่มีเงื่อนไข ไม่ได้ถูกจำกัดสิทธิออกนอกประเทศครับ ในเนื้อคดีเราปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ส่วนข้อสงสัยของเจ้าพนักงานเหลือประเด็นนิดเดียวครับ ถ้าอดทนอีกนิดน่าจะได้ยินข่าวดี”
“ส่วนนัดครั้งหน้าต้องเรียนว่าน้องจะทำรายการดนตรี 1 ปีนะครับ 622 รายการ แล้วก็ติดปัญหาอยู่ 18 รายการ ประมาณ 3% ของทั้งปี แล้วบางทีถามว่าวันนี้ทำอะไร วันนี้ไปซื้ออะไร บางทีมันจำไม่ได้ แต่เราก็พยายามจะรวบรวมพยานหลักฐาน และนำเสนอพนักงานสอบสวนอีกครั้งหนึ่งใน 1 - 2 วันนี้ครับน่าจะเรียบร้อย”
แพทบอกขำๆ เตรียมกลับไปเลี้ยงลูกต่อ ทนายเผยร้องขอความเป็นธรรม หลังจากได้รับหมายเรียกผู้ต้องหา
แพท : “ความรู้สึกตอนนี้ก็ดีค่ะ แต่ในเรื่องของรูปคดีทั้งหมดแพทขออนุญาตให้ทนายของแพทเป็นคนตอบนะคะ แต่ถ้าถามวันนี้เราก็ดำเนินตามที่เจ้าหน้าที่ หรือให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่เท่าที่เราจะทำได้เต็มที่แล้วค่ะ นอกเหนือจากนี้ หรือว่าถ้าจะถามในเชิงกฎหมายแพทรบกวนถามทนายแพทดีกว่า เพราะแพทไม่ค่อยรู้เรื่องและไม่ได้เก่งด้านนี้ค่ะ สภาพจิตใจก็ถ้าเสร็จตรงนี้แพทก็จะกลับไปเลี้ยงลูกแล้วค่ะ (หัวเราะ)”
ทนาย : “ต้องเรียนว่าที่ผ่านมาเราไม่เคยยื่นร้องขอความเป็นธรรมเลย จนกระทั่งเราทราบเรื่องหมายเรียกผู้ต้องหา แสดงว่าเราใกล้จะตกเป็นผู้ต้องหาแล้ว เราถึงร้องขอความเป็นธรรมให้เจ้าพนักงานสอบสวนทบทวนว่าข้อวินิจฉัย ข้อกฎหมายของท่านมันถูกต้องหรือไม่ หลังจากนี้ พอวันนี้ตกเป็นผู้ต้องหาเราก็ยังมีวิธีที่จะนำเสนอพยานหลักฐานในชั้นสอบสวนทั้งหมดเท่าที่มี ทั้งก่อนเกิดเหตุ ขณะเกิดเหตุ หลังเกิดเหตุ ให้ดูทั้งหมดว่าธุรกรรมการเงินของน้องไม่ได้มีอะไรผิดปกติ ใช้จ่ายวันหนึ่ง 1,000 - 2,000 เป็นปกติอย่างนี้ครับ หลังจากนั้นเราก็คงต้องทำหนังสือร้องขอความเป็นธรรมไปที่พนักงานสอบสวนอีกฉบับหนึ่งก่อนที่จะสั่งคดีครับ เราต้องคุยกับคุณเบนซ์แน่นอน คงต้องทำงานร่วมกัน หลังจากวันนี้ไปก็คงต้องพูดคุยกันครับ แต่ ณ ปัจจุบันยังไม่ได้คุยกันครับ”
ไม่เสียใจแต่ตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น วอนทุกฝ่ายขอให้เชื่อมั่น
แพท : “เรียกว่าตกใจดีกว่าค่ะ ถ้าทุกคนตามข่าว พี่ๆ ทุกคนก็คงจะเห็นข่าวที่ออกมาเรื่อยๆ จนข่าวก่อนหน้าที่มีก่อนวันที่ 8 ที่แพทโดนหมาย ทุกคนก็คงเข้าใจเหมือนอย่างที่แพทเข้าใจว่าตามที่ท่านได้ให้ข่าวไว้ เราก็คิดว่าคงไม่มีอะไรแล้ว จนมามีหมายเราก็ตกใจ แต่สิ่งที่เราทำได้ดีที่สุดก็คือทำทุกอย่างให้มันเป็นไปตามกฎหมายค่ะ เขานัดมา ถ้าเราสะดวก เราพร้อม เราก็มา เราไม่พร้อม เราก็ยื่นเอกสารหรือชี้แจงไปว่าเพราะอะไร จริงๆ ก็เป็นอะไรที่พูดยากนะคะ ไม่มีใครอยากจะตกอยู่ในสภาพแบบนี้ ถ้าเราเก่งไปซะทุกอย่างหรือรู้ไปซะทุกอย่าง แต่อันนี้เราต้องยอมรับว่าเราเป็นคนธรรมดานี่แหละค่ะ แล้วยิ่งอยู่ในจุดที่ทุกคนให้ความสนใจ สิ่งสำคัญเลยก็คือชื่อเสียง ที่ตอนนี้กลายเป็นข่าวมีปัญหาเรื่องชื่อเสียง คนจับจ้องมากกว่า แต่ในส่วนอื่นๆ แพทก็ยังเชื่อในตัวแพทและคนรอบข้างแพททุกคน คนในครอบครัว เพื่อนๆ ก็ยังเชื่อมั่นในตัวแพท แพทก็อยากให้ทุกคนเชื่อมั่นในตัวแพทนะคะ แพทก็อยู่ตรงนี้มานาน รู้ว่าอะไรดีอะไรไม่ดีอะไรที่ทำและไม่ต้องทำ ในส่วนที่มันนอกเหนือจากนั้นแพทคงกำหนดอะไรไม่ได้จริงๆ ค่ะ”
เป็นกรณีตัวอย่างทำธุรกรรมโดยไม่รู้
ทนาย : “เรื่องนี้เป็นตัวอย่างนะครับ กรณีของคุณแพท ท่านผู้บัญชาการท่านก็ได้ให้สัมภาษณ์ว่ากรณีของน้องก็เป็นตัวอย่างในการรับโอนเงินโดยไม่รู้ บางทีท่านก็ต้องสอบถามกันบ้าง ก็ถือว่าเป็นอุทาหรณ์ให้สังคมได้เป็นข้อสังเกต ได้ข้อคิดในการได้รับเงินจากบุคคลใดๆ ก็อาจจะต้องสอบถามกันนิดหนึ่งครับ”