“แอฟ ทักษอร” ถูกรับน้องให้เรียก “ผัว” ออกทีวี แต่ยังดูเป็นผู้ดี โอดไม่คุ้นปาก ไม่ได้คิดว่าหยาบ ต่อไปจะปรับตัว ยันไม่ตี “สงกรานต์” เพราะไม่ได้คุยกัน ยังรอหย่า เร่งได้ผลก็จะเร่ง
ทำโซเชียลฮากระจายหลังจากที่ได้ยินกุลสตรีอย่าง “แอฟ ทักษอร เตชะณรงค์” ถูกบังคับให้พูดคำว่า “ผัว” ออกทีวี ในรายการแชร์ข่าวสาวสตรอง งานนี้เจ้าตัวเผยว่าถูกรับน้อง ไม่ได้คิดว่าเป็นคำหยาบแค่ไม่คุ้น ต่อไปจะปรับตัว
“ปกติก็โดนแหย่ โดนแกล้งประจำอยู่แล้วค่ะ เป็นน้องใหม่ ประสบการณ์น้อยสุด จริงๆ แพท (ณปภา ตันตระกูล) ก็ถือเป็นรุ่นพี่นะ ก็มีการรับน้องบ้าง ก็น่ารักๆ ค่ะ ตลกดี จริงๆ ไม่ได้คิดอะไรขนาดนั้น ว่ากล้าหรือไม่กล้าค่ะ แต่ว่าก็เป็นธรรมดา ถ้าเห็นเราก็จะเปลี่ยนคำไปโดยอัตโนมัติ ไม่ได้มานั่งคิดว่าไม่กล้าพูดหรืออะไรค่ะ ก็คิดว่าแต่เปลี่ยนคำแล้วก็อ่านไปเลย ไม่คิดว่าเพื่อนๆ จะเห็น(หัวเราะ) ถามว่ารู้สึกยังไงที่โดนแกล้ง ก็…(หัวเราะ) (คนแซวเยอะเลยว่าพูดออกมาแล้วก็ยังดูผู้ดีไม่แรงเลย?) ก็อ่านตามข่าวนะ ไม่ได้พูดเอง ไม่ได้เลี่ยงค่ะ ก็ไม่เคยมีโอกาสพูดมากกว่าค่ะ”
ไม่ได้คิดว่าเป็นคำหยาบแค่ไม่คุ้น ต่อไปจะปรับตัว
“เปล่าค่ะ แต่แค่ไม่คุ้นเฉยๆ ก็เดี๋ยวลองดู อะไรที่ได้ก็เต็มที่ค่ะ ก็ปรับตัวค่ะ ก็ต้องปรับตัวหลายอย่างนะ ภาษาก็เพิ่งรู้ว่าต้องมาเจออะไรแบบนี้ ซึ่งปกติจะไม่ได้เจอ จริงๆ ก็ไม่มีอะไรค่ะ ขำๆ ก็สนุกดี แต่จริงๆ ถามว่าเริ่มชินมั้ย มันก็เครียดน้อยลงค่ะ แต่ว่าแต่ละวันก็ดี บางวันก็ไม่ดี ก็แล้วแต่เป็นวันๆ ไปเพราะบางเราก็คาดการณ์อะไรมากไม่ได้ เพราะบางวันเราก็เจอเรื่องที่เราสามารถแชร์ได้มากหน่อย บางเรื่องก็เป็นเรื่องที่เราแชร์ได้น้อยค่ะ แล้วแต่วัน”
“ถามว่าจะพูดทันเขามั้ย ง่ายมากค่ะ คือยังไงก็ไม่ทันค่ะ(หัวเราะ) ในความรู้สึกเราไม่ได้คิดว่าสุดท้ายแล้วจะต้องพูดเร็ว คือจะให้พูดเร็วเท่าน้องแพท หรือว่าเร็วแบบอาตุ่ย คือเบสิกของแต่ละคนก็ไม่เท่ากันอยู่แล้ว อยู่ๆ เราจะมามุกเยอะ ความสามารถล้ำเหมือนอาตุ่ยก็คงไม่ใช่ ก็คงเป็นแนวเรา แต่แค่อยากรู้สึกว่าเมื่อไหร่อยากแชร์เรื่องอะไรก็อยากทำให้เต็มที่ คือไม่คิดว่าต้องพูดให้ทัน แต่เพียงว่าในส่วนของเราเราอยากจะทำให้ดีที่สุด อยากแชร์อะไรก็อยากจะได้แชร์นะ อยากพูดบ้าง อยากแชร์สิ่งดีๆ เผื่อเป็นประโยชน์ให้กับสังคมบ้าง”
โบ้ยถามคนดูสนุกมั้ย ได้รับกำลังใจ ได้มุมมองที่เปลี่ยนไปจากการเล่นละคร
“โอเคมั้ย ก็ต้องถามคนดูค่ะ ว่าคนดูโอเคมั้ย แต่ฟีดแบ็กก็ดีนะคะ มีคนให้กำลังใจเยอะค่ะ มันก็ยังคงความเป็นเราในมุมมองที่เปลี่ยนไปบ้างจากการเล่นละคร แต่ช่วงแรกๆ มันก็เครียดค่ะ ด้วยความใหม่ด้วยความตื่นเต้น แต่ช่วงหลังก็ไม่เครียดแล้วค่ะ เราก็รู้ว่าบางวันมันก็ธรรมดา ซึ่งบางวันเราทำได้ดีหน่อย บางวันก็เฉยๆ ค่ะ”
“เรื่องปรับก็คงเป็นลักษณะของการแชร์ข่าวค่ะ เพราะว่าปกติจะชินกับการที่พี่ๆ น้องๆ นักข่าวถาม แล้วเราก็ตอบ แต่อันนั้นมันเป็นจังหวะที่ไม่มีใครถามคุณนะ คุณต้องหาจังหวะแล้วก็อยากจะพูดอะไรก็พูดออกมาเอง มันไม่ได้เกิดจากคำถาม ก็ต้องกล้าที่จะแสดงความเห็นนิดหนึ่ง”
เชื่อ “สงกรานต์ เตชะณรงค์” พูดเล่นผ่านรายการชีวิตดี๊ดี Life's so good เรื่องพยายามคุยไม่ให้ตีกัน ยันนอกเหนือจากเรื่องลูกก็แทบไม่ได้คุย
“ตีกับลูกหรือตีกับคุณสงกรานต์ ถ้าตีกับลูกตีตลอดเวลาอยู่แล้วค่ะ (หัวเราะ) คือถ้าให้แอฟเดานะคะ เขาน่าจะพูดเล่นให้บรรยากาศมันสนุกมากกว่า เพราะปกติเราแทบไม่ได้คุยกันอยู่แล้ว ดังนั้นไม่มีโอกาสได้ตีกันหรอกค่ะ เพราะเราไม่ได้คุยกัน”
“เราเลี้ยงลูกต่างอยู่แล้วค่ะ แต่อันนี้แอฟต้องยืนยันก่อนว่าเราไม่ได้ตีกัน เพราะเราไม่ได้คุยกันอย่างที่บอก บวกกับพื้นฐานของคุณสงกรานต์ เขาก็ไม่ได้จะต้องมานั่งตกลงกันอยู่แล้วว่าจะเลี้ยงลูกแนวไหน ถ้าหากจะทำก็ทำเลย”
ขอให้ส่งลูกกลับบ้านเร็วๆ ในวันธรรมดา แต่ถ้าเป็นศุกร์-เสาร์ก็ตามสบาย
“หลักๆ จะขอแค่ ถ้าหากเป็นวันธรรมดาอยากให้ส่งน้องกลับบ้านเร็วๆ เพราะน้องต้องไปโรงเรียน ดังนั้นถ้าหากน้องเขานอนไม่พอ เช้าวันรุ่งขึ้นจะเป็นปัญหากับแอฟมาก ซึ่งแอฟไม่อยากจะบังคับลูกไปโรงเรียน ทั้งๆ ที่เขายังง่วงนอนอยู่ อยากให้ลูกไปโรงเรียนอย่างมีความสุข แอฟก็เลยต้องขอให้คุณสงกรานต์เขาช่วยส่งลูกกลับบ้านเร็วๆ แต่ถ้าหากเป็นช่วงวันศุกร์หรือวันเสาร์ ก็ตามสบายเลย”
“เขาก็ไม่ได้คุยอะไรกับเราค่ะ อย่างที่บอกเราไม่ได้คุยกัน ซึ่งการไม่ได้คุยกันในที่นี้ไม่ได้หมายถึงเราไม่ติดต่อกันนะคะ เรายังติดต่อกันอยู่ในเรื่องของการรับส่งลูก แต่เรื่องอื่นๆ นอกเหนือจากนั้นไม่ได้คุยกันค่ะ ส่วนเรื่องกิจกรรมก็แล้วแต่กิจกรรมค่ะ ถ้าหากอายุเขาถึงตามสถานที่นั้นๆ แอฟก็โอเค แต่ที่ผ่านมาก็ไม่เคยมีกิจกรรมที่แอฟไม่โอเคนะ”
“ถามว่าเขาต้องรายงานแอฟมั้ย รายงานเลยเหรอ (หัวเราะ) ไม่มีค่ะ มีแต่แอฟถามมากกว่า ซึ่งแอฟก็จะถามเขาเป็นบางครั้งว่าทำอะไรบ้าง เพื่อที่เราจะได้แพลนตารางตัวเองถูก หรือถ้าหากน้องไม่สบายอยู่เราก็จะต้องถามให้รู้ไว้ เพราะไม่อยากให้เขาไปแพร่เชื้อหรือติดเชื้อเพิ่ม ก็ตามมุมมองแม่เนอะ”
รอหย่าเหมือนเดิม เร่งได้ผลก็จะเร่ง แต่อีกฝ่ายไม่มีอะไรเข้ามา
“คืออย่างที่บอกคุยกันทุกอาทิตย์ เพราะเขาต้องมารับลูกทุกอาทิตย์ คือวันไหน กี่โมง แต่ก็แค่นั้นค่ะ ก็มันนานแล้วนะคะ ปีกว่า ปีครึ่ง ทุกอย่างตอนนี้ยังเหมือนเดิมค่ะ แอฟยังรอเหมือนเดิม เขาก็ยังไม่ได้เข้ามาอะไร คือถ้าเร่งแล้วได้ผล ก็อยากจะเร่ง (ยิ้ม)”
(ติดตามทุกข่าวสารในแวดวงบันเทิงทั้งหมดได้ที่https://mgronline.com/entertainment)