“แพท ณปภา” เผยวินาทีอุ้ม “น้องเรซซิ่ง” เจอ “เบนซ์” ในคุกอย่างใกล้ชิด กลัวลูกหวีดร้องไม่ให้อุ้มแล้วจะทำให้พ่อเสียใจ ปลื้มใจสามีอุ้มลูกไม่ยอมปล่อย ก่อนกลับฝ่ายชายบอกรักแต่ไม่ได้บอกว่าต้องรอ สัญญาจะทำหน้าที่ภรรยาและแม่ของลูกให้ดีที่สุดในทุกๆ วัน ลั่นยังแฮปปี้ ไม่หวั่นเก็บเงินค่าเทอมให้ลูกอีกก้อน นอกจากเก็บเงินเพื่อรักษาแม่และพี่สาว
“น้องเรซซิ่ง” ยิ่งโตยิ่งน่าฟัด ซึ่ง “แพท ณปภา ตันตระกูล” ก็เผยว่าเพิ่งจะมีโอกาสพาลูกไปเจอ “เบนซ์ อัครกิตติ์ วรโรจน์เจริญเดช” ในคุกอย่างใกล้ชิดเป็นครั้งแรก แอบปลื้มใจที่สามีอุ้มลูกไม่ยอมปล่อย ในขณะที่ลูกชายก็ไม่งอแง เตรียมทัวร์หาโรงเรียนให้ลูก
“กำลังซนเลยค่ะ ซนแบบน่าจะซนได้อีกค่ะ ตอนนี้พอเดินได้ก็ไม่อยากนั่ง ไม่อยากให้อุ้ม อยากเดิน ตอนนี้ก็เป็นหน้าที่ของเราที่ต้องวิ่งตามอย่างเดียว ฟิตจนแขนข้างหนึ่งกล้ามขึ้น เพราะตอนนี้น้อง 11 กิโลแล้ว แล้วยังเดินอีกก็วิ่งกันให้เหนื่อยไปเลยข้างหนึ่ง ก็คิดอยู่ว่าอีกสักพักจะพาไปเล่นไปเข้ายิม ที่มีพื้นที่เยอะๆ”
เตรียมอุ้มลูกทัวร์โรงเรียน อยากให้ได้เรื่องของภาษา
“เรียบร้อยค่ะ ก็คิดไว้ว่าอยากให้ลูกเรียนแบบไหน แต่ว่าหลังจากนี้ก็คือเป็นการทัวร์โรงเรียนแล้วค่ะ ก็คงจะพาน้องไปดูโรงเรียน ดูสถานที่ว่าเราชอบมั้ย เดินทางเป็นยังไง คือเราปรึกษาหลายๆ คน ทุกคนก็บอกว่าเรื่องเรียนก็สำคัญ แต่อีกอย่างคือเรื่องของการเดินทาง ถ้าเราอยากให้ลูกไปเรียนไกลมาก แล้วบ้านเราต้องไปไกลแล้วการเดินทาง น้องก็จะรู้สึกแบบไม่สนุก เพราะต้องอยู่ในรถนาน ที่มองๆ ไว้ตอนนี้อยากให้ลูกได้ภาษาจริงๆ ซึ่งเราก็อาจจะไม่ได้พูดกับลูกได้แบบสำเนียงถูกต้อง เราอยากให้เขาได้เรียนรู้แบบถูกๆ ไปเลย พอหลังจากนั้นก็ค่อยเข้าส่งเข้าโรงเรียนไทยปกติ ก็อีกประมาณเกือบๆ 2 ปีค่ะ”
เก็บเงินทุกบาทเพื่อค่าเทอมลูก ยันไม่หนักเกิน เพิ่มค่าเทอมลูกอีกก้อน นอกจากเก็บเงินเพื่อรักษาแม่และพี่
“ก็ตอนนี้เราทำงานเก็บตังค์ ตอนแรกในชีวิตก่อนมีลูกก็ทำงานเก็บตังค์ให้กับแม่ ให้กับพี่ เพราะว่าในอนาคตเราก็รู้ว่าเราคงต้องใช้เงินก้อนหนึ่งในการรักษาเขาทั้งสองคน ก็เก็บตังค์ให้กับชีวิตเรา แต่ตอนนี้เราก็ต้องเพิ่มไปอีกก้อนหนึ่ง เพื่อเป็นค่าเล่าเรียนของลูกค่ะ”
“ถามว่าหนักมั้ย คือถ้าถามแพท ด้วยตอนนี้ความที่เราก็มีงาน เราก็พอจะแพลนอนาคตเราได้ ถ้ามันยังมีงานแบบนี้ไปเรื่อยๆ เราก็ยังไหวอยู่แล้ว แต่ถ้าในระยะยาวงานน้อยกว่านี้ เราก็ต้องมาแพลนอีกรอบหนึ่ง แต่ถ้างานมันดีแบบนี้ไปเรื่อยๆ ชีวิตเราก็ยังโอเคอยู่ ตอนนี้ทุกบาทก็เก็บเพื่ออนาคตของลูกค่ะ ตอนนี้เรามองเรื่องของตัวเองน้อยลง อย่างที่บอกว่าเมื่อก่อนเราก็มองเรื่อยตัวเองน้อยลงอยู่แล้ว เพราะเราต้องดูแม่ดูพี่ที่บ้าน แล้วเราก็มองไปไกลถึงอนาคตว่าต้องมีค่าใช้จ่ายที่มันต้องเพิ่มเติมขึ้นมาอีก เพราะฉะนั้นตอนนี้ความสุขของเรามันก็เลยกลายเป็นถูกแบ่ง หมายถึงว่าให้แม่ด้วย ให้ลูกด้วย แต่ถ้าถามใจแพทคือมันมีความสุขค่ะ เรามองว่าครอบครัวคือความสุขของเรา แล้วการที่ทำแบบนี้มันทำให้เรามีความสุข”
หนึ่งปีมีสักครั้ง อุ้ม “เรซซิ่ง” เยี่ยม “เบนซ์” ถึงในคุกอย่างใกล้ชิด ซึ่งเป็นสิทธิ์ที่นักโทษทุกคนจะได้รับเหมือนกัน
“ล่าสุดได้มีโอกาสเข้าไปเยี่ยมใกล้ชิด ได้มีโอกาสพาลูกเข้าไป ก็ตื่นเต้นนะคะไม่เคยให้เข้าไป แล้ว 1 ปีมีครั้งหนึ่ง ถามว่าทำไมถึงได้เข้าไปอันนี้แพทไม่ทราบค่ะ แต่ทางคุณแม่ของพี่เบนซ์บอกมาว่าจะได้มีโอกาสไปเยี่ยมใกล้ชิด ได้พาลูกเข้าไป เป็นโอกาสที่ 1 ปีจะมีครั้งหนึ่งของนักโทษทุกคนค่ะ ทุกคนมีโอกาสได้เข้าไปเยี่ยมใกล้ชิด ได้รับสิทธิ์เหมือนกัน เราก็เลยได้พาลูกเข้าไป แต่ไม่แน่ใจว่าปีนี้มี 2 ครั้งหรือเปล่า ในวันจันทร์-ศุกร์ ก็จะดูว่าเป็นของแดนไหนวันไหนของคนไหน รอบๆ หนึ่งแพทก็จำไม่ได้ว่ารอบละกี่คน ซึ่งพอเราเข้าไปก็ตื่นเต้นนะ เขาก็ตรวจเช็กทุกอย่าง เราก็ไปมาวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาค่ะ ก็โชคดีคือน้องเขาก็รู้เรื่องนะ ไม่งอแง แล้วก็อยู่กับคุณพ่อเขาได้”
เผย “เบนซ์” อุ้มลูกไม่ปล่อย บอกกลัวลูกหวีดร้องไม่ให้อุ้มแล้วจะทำให้พ่อเสียใจ
“ใช้เวลาร่วมกัน 2 ชั่วโมงค่ะโดยประมาณ วินาทีที่เจอกัน คือจริงๆ เขาแฮปปี้นะ ไม่ได้ร้องไห้แต่เขามีความสุขเพราะเขาไม่ได้เจอแค่เรา เขาเจอครอบครัวเขาด้วยเจอเราเจอลูกเขาก็แฮปปี้ มีความสุขค่ะ จริงๆ ทุกคนข้างในมีความสุขมากเลยนะคะ ที่ปีหนึ่งจากที่ปกติคุยกันผ่านมาโทรศัพท์ผ่านกรงกระจกแต่ตอนนี้ได้อยู่ใกล้ๆ กัน ได้กินข้าวพร้อมหน้ากัน เขาก็อุ้มลูกไม่ปล่อยเลยค่ะ เราเห็นเราก็แฮปปี้มีความสุข”
“แล้วอีกอย่างหนึ่งคือเขาไม่ได้เจอลูกมานานแล้ว ตัวลูกเองก็ไม่ได้ใกล้ชิดกับเขา เราก็กลัวว่าลูกจะร้อง เรากลัวเขาเสียใจ เราไม่อยากให้เป็นอย่างนั้น คือเด็กเขาอยู่แต่กับเราแล้วก็ป้าๆ น้าๆ เขาเจอคุณพ่อเขาผ่านกระจกมันไม่ได้ใกล้ชิด เราก็กลัวว่าถ้าเกิดไปแล้วพ่อเขาอยากอุ้ม แล้วเขาเกิดหวีดร้องขึ้นมา เราก็กลัวพ่อเขาจะเสียใจ แต่ภาพที่เราเห็นคือไม่มี ให้พ่อเขาอุ้มปกติ พาไปเดินเล่นได้ อุ้มได้ ก็แฮปปี้ คุณพ่อเขาก็มีความสุข”
พูดกับลูก อย่าดื้อกับแม่
“เขาก็บอกว่าอย่าดื้อกับแม่มากนะ แม่เหนื่อย ส่วนตัวเราเองก็เป็นโอกาสที่ได้ใกล้ชิดเขาครั้งแรกในรอบ 8 เดือนค่ะ แพทก็บอกเขาว่าให้เข้มแข็ง ให้เขามีกำลังใจเยอะๆ ข้างนอกแพทก็ดูแลลูกแบบเต็มที่ เขาก็คงรู้อยู่แล้วค่ะ ว่าแพทดูแลลูกอย่างเต็มที่อยู่แล้ว แต่แพทอยากให้เขาเข้มแข็งค่ะ อย่างน้อยเขาได้เห็นหน้าลูกเขาก็จะได้มีกำลังใจ เขาอยากทำโน่นทำนี่กับลูกเยอะแยะไปหมด เราก็บอกเขาว่าเดี๋ยวเขาก็ได้ออกมา”
เผยอีก 3 เดือนเบนซ์จะได้ขึ้นศาลซะที จะได้รู้อนาคต จะไปทิศทางไหน
“ณ ตอนนี้รอขึ้นศาลค่ะ แต่ยังไม่ได้ตัดสิน ยังไม่ได้มีความคืบหน้าอะไร คือรอคิวนัดของศาลค่ะ แพทจำเดือนไม่ได้ค่ะ น่าจะอีก 2-3 เดือน ประมาณนี้ค่ะที่พี่เบนซ์จะต้องขึ้นศาล ซึ่งตอนนี้อยู่ระหว่างรอค่ะยังไม่ได้มีการตัดสินหรืออะไรทั้งนั้นค่ะ แนวโน้มจะไปทางไหน คือแพทก็ไม่รู้เกี่ยวกับรูปคดีเลย ตั้งแต่เรามีลูกเราก็แยกออกมาอยู่กับลูกที่บ้านเรา คือไม่ได้อยู่กับทางบ้านพี่เบนซ์แล้ว พอแยกออกมาการรับรู้ในเรื่องของส่วนต่างๆ ก็เลยน้อยลง ทางบ้านก็ไม่ได้บอกรายละเอียดอะไรแพทเลย”
“ในส่วนหนึ่งแพทคิดว่าเขาน่าจะมองว่าเราเลี้ยงลูกก็เหนื่อยแล้ว ไหนจะทำงานอีก ก็เลยไม่ได้คุยกัน จะเจอกันก็แค่อาทิตย์ละวันที่ไปเยี่ยมพี่เบนซ์ ส่วนใหญ่ไปก็เข้าไปเยี่ยมเลย เยี่ยมเสร็จก็กลับมาทำงาน ก็เลยไม่มีโอกาสที่จะคุยกัน ด้วยความที่เราทำงานทุกวันก็ไม่ค่อยมีโอกาสได้พาน้องไปเจอคุณย่าเท่าไหร่ ก็เลยไม่ค่อยได้ถามไถ่กัน”
“ถามว่าพี่เบนซ์กังวลอะไรมั้ย เนื่องจากว่าพี่เบนซ์เขาก็อยากจะให้ขึ้นศาลเร็วๆ มันจะได้รู้กันสักทีว่ามันจะไปทางไหน ตอนนี้เราไม่รู้อะไร เพราะเรายังไม่ได้ขึ้นศาล ยังไม่มีการตัดสิน เวลามันผ่านไปโดยที่ไม่ทำอะไรไม่รู้อะไรเลย เขาก็เลยอยากขึ้นศาลมากกว่า”
บอกรักก่อนกลับแต่ไม่ได้บอกให้รอ ยังเป็นภรรยาอีกฝ่าย จะทำหน้าที่เมียและแม่ที่ดีให้เต็มที่ในทุกๆ วัน
“(เขาบอกให้เราเขามั้ย?) เขาก็ไม่ได้เชิงพูดแบบนั้นแหละ เขาก็จะพูดแบบสู้ๆ นะ รู้ว่าเลี้ยงลูกเหนื่อย แต่ก็รู้ว่าทำได้ แล้วเวลาที่เยี่ยมเสร็จแพทจะกลับเขาก็จะบอกว่ารักเหมือนเดิมๆ เขาบอกรักเหมือนเดิม แต่เขาอาจจะไม่ได้บอกว่ารอเรานะ ไม่มีค่ะ เขาไม่ใช่คนแบบนั้น เขาก็จะพูดง่ายๆ ว่ารักเหมือนเดิม เขาพูดทุกครั้งค่ะว่ารักเหมือนเดิม เรื่องว่ารอไม่รอคือแค่เขาบอกว่ารักก็โอเค ก็คือจบ เขาเป็นคนไม่ค่อยพูดเยอะ คือแพทตอนนี้ยังไม่มีอะไรเข้ามากระทบจิตใจเรา วันนี้เราก็ยังทำหน้าที่ของแม่ของลูกเขา และยังเป็นภรรยาเขาอย่างเต็มที่ เท่าที่ผู้หญิงคนนี้จะทำได้ ก็รักเขาเหมือนเดิมค่ะ”
“เรื่องคนชื่นชมที่เราอยู่เคียงข้าง ก็อย่างที่บอกอนาคตแพทไม่รู้จริงๆ ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น ไม่ได้หมายถึงว่าแค่รักกันหรือเป็นความรักอย่างเดียว แพทมองว่าการใช้ชีวิตคู่ของเราสองคนรวมถึงตอนนี้มันเป็นของครอบครัวแล้ว มันมีเรื่องอื่นมากกว่านั้น แต่มันยังไม่ถึงยังไม่ได้แตะตรงนั้น มันยังไม่ถึงจุดนั้นเรายังบอกไม่ได้ วันนี้เขาบอกว่ารักเรา เราก็รักเขา แล้วอย่างที่แพทบอกคือแพทก็ยังทำหน้าที่ของแม่ที่ดีแล้วก็ของภรรยาที่ดีให้เต็มที่ในทุกๆ วันค่ะ(ยิ้ม)”
(ติดตามทุกข่าวสารในแวดวงบันเทิงทั้งหมดได้ที่ https://mgronline.com/entertainment)