“เอ้ก - กัปตัน” ภูมิใจเลี้ยงลูกเอง ฝ่ายหญิงเอ่ยปากชมโชคดีที่ได้อีกฝ่ายเป็นสามีและพ่อ “น้องดิน” เป็นพาร์ตเนอร์ที่ดีที่สุด ส่วนกัปตันก็ชมเมียเป็นแม่ผู้เสียสละเลิกเล่นละคร เทเวลาเลี้ยงลูก ฝ่ายหญิงบอกการได้เป็นแม่เป็นที่สุดในชีวิต อ้อนผัวขอมีคนที่ 2 ต่อเลย
อุ้มลูกชาย “น้องดิน” มาเปิดตัวในฐานะพรีเซ็นเตอร์ D-nee งานนี้ “กัปตัน ภูธเนศ - เอ้ก บุษกร หงษ์มานพ” ก็เผยว่าเรื่องเงินไม่สำคัญ อยากเก็บโมเมนต์มีค่าของครอบครัวมากกว่า
กัปตัน : “ครั้งแรกเลยครับ ที่ได้เป็นพรีเซ็นเตอร์สำหรับน้องดิน และครอบครัวของเรา คือ ผลิตภัณฑ์นี้ผมใช้มาตั้งแต่หลานแล้ว หลานใช้แล้วเอ้กเขาก็ศึกษา แล้วเราก็เห็นว่าถ้ามันเป็นสิ่งที่ดีจริงเราก็อยากบอกต่อ และคิดว่าถ้ามันเป็นโอกาสของเขาที่เขาจะได้ทำงาน แต่อย่าเรียกว่าทำงานเลยดีกว่า เราอยากเก็บวิดีโอโฆษณานี้ไว้ เวลาเขาโตมันจะมีค่าสำหรับเขามาก เราก็เลยตัดสินใจที่จะรับครับ”
เอ้ก : “เรามีลูก เราก็อยากจะคัดกรองแต่สิ่งที่ดีจริงๆ สมมติว่า เราไปโปรโมตกับสินค้าที่ไม่ดี แล้วคนอื่นใช้แล้วไม่ดี ส่วนตัวเราก็ไม่ได้ใช้ เอ้กก็รู้สึกว่ามันไม่แฟร์ แต่อันนี้คือเราใช้อยู่แล้ว และมันดีเรามาบอกต่อก็ถือเป็นเรื่องที่ดีค่ะ”
งานชิ้นต่อไปขอดูความเหมาะสม ไม่หวังให้ลูกทำงานเร็ว
เอ้ก : “ไม่อยากเลยค่ะ ถ้าเลือกได้ก็อยากให้เขาได้เลือกเอง เมื่อวันที่เขาเลือกได้ ตอนเป็นวัยรุ่นถ้าเขาชอบก็ให้เขาเลือกเองดีกว่า”
กัปตัน : “ดูตามความเหมาะสม เป็นจังหวะของเขาครับ ใช้เวลาถ่ายโฆษณา 2 วันครับ ภาพนิ่งหนึ่งวัน วิดีโอหนึ่งวันครับ เขาค่อนข้างจะเป็นเด็กที่นิ่ง เขาไม่งอแงเลยครับ ขอแค่ให้เขากินอิ่ม แล้วก็ได้นอนครับ”
เอ้ก : “ในการถ่ายทำคือกองเขารอน้องอยู่แล้วค่ะ ต้องรอจังหวะน้องว่าน้องกินอิ่มมั้ย นอนหลับมั้ย แต่อย่างช็อตที่เขาต้องร้องไห้ เอ้กก็ปล่อยให้เขาหิว แล้วเขาก็จะร้องเอง แต่ดินเขาจิตแข็งมาก เขาไม่ร้องเลย”
กัปตัน : “ผมก็เลยไปบอกเขาว่าดินใส่ชุดนี้ดินอ้วนนะ กินไม่หล่อเลย เท่านั้นแหละร้องไห้เลย (หัวเราะ) แต่พอร้องแล้วคัตปุ๊บเขาก็หยุดร้องเลย (เป็นงานไหม?) ก็ไม่ทราบเหมือนกันครับ คงเป็นจังหวะเขา โฆษณาตัวอื่นหลังจากนี้ผมว่าดูเป็นจังหวะดีกว่าครับ ดูว่าอะไรที่เหมาะสมแล้วเขาสามารถทำได้ แล้วไม่ดูฝืนเขาจนเกินไป”
เก็บค่าตัวเป็นทุนการศึกษา เผยสิ่งมีค่ามากกว่าเงินคือเก็บโมเมนต์ประทับใจในตอนอายุ 3 เดือน 19 วัน
กัปตัน : “ก็เก็บไว้ให้เขาเป็นทุนการศึกษาครับ ถามว่าหายเหนื่อยมั้ย แค่เห็นตัวงานมันสำคัญกว่าทุกสิ่ง”
เอ้ก : “เราดีใจแต่ไม่ใช่ตอนที่เราเห็นเงิน เราดีใจตอนที่เราได้เห็นคลิปวิดีโอที่ออกมา เรารู้สึกดีที่ได้มีภาพเก็บไว้ตอนที่เขาอายุ 3 เดือน 19 วัน เราได้เก็บภาพนั้น โมเมนต์นั้นไว้ตลอดไป ตรงนี้ต่างหากที่มันมีค่าสำหรับครอบครัวเรา”
พัฒนาการเป็นไปตามวัย เอ้กเปิดใจไม่อยากให้ลูกโตแบบก้าวกระโดดเกินไป
เอ้ก : “น้องก็มีพัฒนาการตามวัยนะคะ เราไม่อยากเลี้ยงลูกให้เร็ว เราอยากเลี้ยงให้เขาไปตามสเต็ป ตอนนี้เขาก็ค่อยๆ ไป เด็กเดี๋ยวนี้เขาจะไม่คลาน เขาจะอยากลุกเลย เดินเลย แต่เราก็จะพยายามให้เขาคลาน อยากให้เขาคลานให้ได้ ค่อยๆ ไป”
กัปตัน : “เหมือนเอ้กเขาจะกลัวมากว่าลูกจะโตเร็ว เขาก็จะแบบอย่ารีบโตนะลูกๆ เขาชอบการได้เลี้ยงลูก ส่วนผมก็โตเร็วๆ นะลูก (หัวเราะ)”
เอ้ก : “น้องไม่ตื่นคนอาจจะเป็นเพราะวัยเขาด้วย เขายังเล็กอาจจะยังไม่รู้เรื่องด้วย”
กัปตัน : “ค่อนข้างจะเป็นเด็กจิตแข็ง แต่ถ้าบอกว่าไม่หล่อจะร้องไห้ทันที (หัวเราะ)”
ลั่นมันมากช่วยกันเลี้ยงลูกเอง เอ้กเผยโชคดีที่มีกัปตันเป็นสามีและพ่อ ส่วนกัปตันก็บอกเอ้กเสียสละ ร้องเพลงค่าน้ำนมให้ลูกฟัง
เอ้ก : “เราไม่มีพี่เลี้ยงค่ะ เราลุยเอง ก็มันมาก”
กัปตัน : “ก็สนุกดีครับ เป็นอะไรที่มันสุดๆ จะบอกทุกคนว่าเหนื่อยมาก แต่มีความสุขมาก ทุกคนที่เป็นพ่อแม่จะเข้าใจ เวลาเราเหนื่อยๆ แต่เราเห็นลูกทุกอย่างมันหายหมด”
เอ้ก : “มันต้องมีคนหนึ่งที่เสียสละ เหมือนอย่างเอ้กเรื่องงานคือสละไปเลย กับอีกคนหนึ่งที่ต้องเหนื่อยมากๆ เพราะเขาต้องทำงานสองเท่า ต้องเลี้ยงน้องอีก คงไม่มีพาร์ตเนอร์ที่จะดีไปกว่าพี่กัปตันแล้ว รู้สึกว่าตัวเองโชคดี ลูกโชคดี ที่พี่กัปตันเขาเต็มที่ เขาทำงานกลับมาก็ยังสามารถเลี้ยงลูก อาบน้ำให้ลูก เปลี่ยนผ้าอ้อม ทำทุกอย่างเป็นหมด รู้สึกว่าเรากับลูกโชคดีค่ะที่มีพี่กัปตันเป็นพ่อ”
กัปตัน : “ผมว่ามันเป็นความสุขมากๆ นะครับ รู้งี้เรามีตั้งนานแล้ว แล้วก็โชคดีที่จังหวะที่เอ้กเขาได้ออกมา เอ้กก็เสียสละมากตั้งแต่วินาทีแรกที่เขารู้ว่าเขาท้อง ก็ดูแลตั้งแต่อยู่ในท้อง จนคลอด จนทุกวันนี้ ผมว่ามันเป็นการเสียสละของเขาอย่างมากมหาศาล ก็จะบอกอยู่ตลอดว่าดิน แม่เขารักดินมากนะ เขาเสียสละ เขาทุ่มเทให้ดินมากๆ ดินโตขึ้นต้องรักหม่าม้ามากๆ นะ แล้วก็จะร้องเพลงค่าน้ำนมให้เขาฟัง เพลงนี้มันลอยอยู่ในหัวตลอดเวลา ผมเข้าใจแล้วว่ามันใช่จริงๆ คุณพ่อคุณแม่ต้องเสียสละทุกอย่างกว่าจะเลี้ยงเด็กคนหนึ่งให้เติบโต”
“เราเลี้ยงคือเอ้กเขาก็พอมีเวลา แล้วเราก็รู้สึกว่าเราอยากให้เขาเติบโตจากเราจริงๆ เรายังพอเลี้ยงไหว อุ้มไหว ดูแลเขาไหว เพราะฉะนั้นเลี้ยงดีกว่า”
เอ้ก : จริงๆ การเลี้ยงลูกมันเลี้ยงได้หลายแบบค่ะ ว่าจะเลี้ยงแบบไหน มันมีถูกผิด เลี้ยงแบบไหนดีหมด แล้วแต่ความสะดวกของบ้านแต่ละคน แต่เราแค่รู้สึกว่าเราอยากอยู่กับเขาให้เวลาเขาให้ได้มากที่สุดแค่นั้นเอง”
หาความบาลานซ์ให้ชีวิต ไม่อยากมุงานหนักจนกลับบ้านแล้วมองกันเหมือนคนแปลกหน้า
กัปตัน : “ก็มีทั้งกำกับ ทั้งเบื้องหน้าเบื้องหลังครับ ก็คงต้องทำงานเยอะขึ้น แล้วก็ต้องมีเวลาให้เขาด้วย เคยไปถ่ายละครออกเช้ากลับดึกๆ ไม่เจอหน้าเขาเลยประมาณ 2 วันกลับมาเขามองหน้าแบบคนแปลกนะ เราก็เลยรู้สึกว่าทำงานหนักไปก็ไม่ดี มันต้องหาบาลานซ์ให้ได้ ว่าทำยังไงให้เราดูแลครอบครัวได้”
ไม่พกเงินต้องขอเงินภรรยา เร่งเก็บเงินเพื่ออนาคตของลูก
กัปตัน : ตอนนี้ทุกอย่างคือให้ลูกหมด จะไปไหนต้องขอเงินภรรยาอย่างเดียวเลย ทุกวันนี้ผมไม่พกเงินเลยนะ”
เอ้ก : “เราก็จะถามว่าเอาไปทำอะไร เอาเท่าไหร่ พี่เขาก็จะบอกเอา 2 พัน”
กัปตัน : “2 พันนี่อยู่ทั้งเดือนนะ (หัวเราะ)”
เอ้กบอกจะหยุดเล่นละคร จนกว่าลูกจะเข้าโรงเรียน
เอ้ก : “สำหรับตอนนี้เอ้กว่าเหมือนที่เราหยุดแน่ๆ คือละคร แต่อย่างอื่นก็คงจะได้เห็นกันอยู่ ตามโฆษณา รายการต่างๆ ตามงานอีเวนต์ก็น่าจะมีอยู่ แต่ว่าก็ต้องให้เวลากับลูกก่อนค่ะ จนกว่าจะเข้าโรงเรียนค่ะ”
อ้อนสามีขอมีลูกคนที่ 2 ฝ่ายชายบอกขอตั้งหลักก่อน
เอ้ก : “หนูอยากมี ขออยู่ๆ เอ้กชอบเลี้ยงเด็กค่ะ ตอนที่เขาตัวเล็กๆ ตอนเพิ่งคลอดตัวแดงๆ เอ้กว่ามันคือที่สุดในชีวิตความเป็นแม่แล้วค่ะ เขาช่วยเหลือตัวเองไม่ได้เลย เขามีแต่เราเท่านั้น รู้สึกว่าเราต้องทุ่มเททั้งกายและใจลงไปตรงนั้น มันเป็นอะไรที่ประทับใจมากค่ะ”
กัปตัน : “ให้ผมตั้งหลักอีกนิดหนึ่ง เพราะว่าอยากให้ดินเขาพอจะช่วยเหลือตัวเองได้สักนิดหนึ่งครับ จะได้ไม่เหนื่อยมาก อีกกี่ปีก็ยังไม่ได้กำหนดครับ แต่ว่าเดี๋ยวดูก่อน ทุกวันนี้ยังไม่ได้หลับเต็มตาเลยนะ จะมีคนที่สองแล้วเหรอ (หัวเราะ) แต่ว่ามันก็เป็นความสุขครับ ผมเชื่อว่าทุกครอบครัวถ้ามีแล้วก็คงจะเข้าใจเหมือนกัน (ยิ้ม)”