น่ารักไปอี๊ก "โอตะรุ่นจิ๋ว" เมื่อแม่ไม่ให้เงิน แต่อยากเปย์ “BNK48” คิดหาหนทางทำรายได้ ขอทุ่มแรงกายแรงใจ ลงมือปลูกผัก อย่างน้อยก็ไม่ได้ทำตัวไร้สาระ นำเงินที่ขายได้มาแบ่งซื้อ “โฟโต้เซ็ต” เพราะนี่คืออิทธิพลจาก “ไอดอล” ที่เขารัก และยังเป็นแรงบันดาลใจชั้นยอด
ปลูกผัก จุดเริ่มต้นแห่งการเปย์ “BNK48”
[เฟริ้ส-พชรพล เจริญเเล้ว หนุ่มน้อยผู้มี BNK48 เป็นแรงบันดาลใจ]
พชรพล เจริญเเล้ว หรือ น้องเฟริ้ส ในวัย 14 ปี ได้ตัดสินใจโพสต์เรื่องราวเมื่อแม่ไม่ให้เงิน ผ่านเฟซบุ๊ก Phacharaphon Charoenlaew ของตน ลงในกลุ่ม BNK48 Thai Fan เกี่ยวกับหารายได้ด้วยน้ำพักน้ำแรงของตนเอง ด้วยการปลูกผักขายผัก เพื่อนำเงินไปเปย์ “BNK48”
“เเม่ไม่ให้เงินก็ต้องหาเองครับ 555 ใครลงรถไฟฟ้าจะเจอผมบ่อย เเม่บอกอยากเปย์ BnK เหรอ ก็หาตังเอง5555 เจอผมได้ที่ BTS บางหว้า เพจของผม V.E.C Vegetable Earthworm Crayfish (ค่อยไปเก็บไปที่ละใบ)”
เมื่อความชอบทำให้เกิดแรงพลักดันที่ดี จะเห็นได้ว่าน้องเฟริ้สใช้การปั่นจักรยานนำผักที่ปลูกใส่ท้ายรถมาตั้งขาย ตามสถานีรถไฟฟ้า น้องเฟริ้สได้บอกเล่าให้ ทีมข่าวผู้จัดการ Live ฟังว่า ทางบ้านได้มีการปรึกษากันว่าจะปลูกอะไรดี ที่มีการใช้พื้นที่ไม่มาก และได้กำไร จึงไปเจอกับต้นอ่อนทานตะวัน ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นของการหารายได้
สำหรับการปลูกครั้งแรกนั้น ได้ลองปลูกใส่กะละมัง ปรากฎว่าปลูกได้ จึงทำให้มีการปลูกมาเรื่อยๆ และยอมลงทุนไปซื้อถาดสำหรับการปลูกผักขาย จนเริ่มมีลูกค้า และทำอย่างจริงจัง ได้มีการศึกษาจากคนที่ทำฟาร์ม มีโอกาสได้ไปช่วยงาน ได้ความรู้เกี่ยวกับพืช วิธีการปลูก การผสมดิน
ส่วนการขายในช่วงแรกๆ จะได้สัปดาห์ละ 10 ถุง โดยเริ่มมีการเดินไปขายที่สถานีรถไฟฟ้า เดือนละ 3 รอบ เพราะต้องรอให้ผักโตก่อน ปัจจุบันได้นำไปขายประมาณ 20-25 ถุง รายได้ต่อเดือนประมาณ 1,500-2,000 บาท บางคนได้มีการทักติดต่อมาจองก่อน และมีการปลูกผสมกับต้นอ่อนผักบุ้ง เห็ดก้อน รวมถึงผักสวนครัวชนิดอื่นๆ ที่อยู่รอบบ้านอีกด้วย
เรียกว่าไม่ได้คิดจะมาปลูกเล่นๆ แต่ทำอย่างจริงจัง เพื่อหารายได้และหักเงินส่วนหนึ่งมาเป็นทุนในการปลูกครั้งต่อไป และเก็บไว้ใช้ในบ้าน หากมีคนให้ทิปก็จะเก็บไว้เป็นรายได้เสริมของตนต่อไป
แน่นอนว่า สิ่งที่น้องเฟริ้สกำลังทำอยู่นั้น สามารถฝึกความอดทน ความรับผิดชอบ เพราะต้องยืนรอลูกค้าหลายชั่วโมงกว่าจะขายหมด ไม่เพียงแค่นั้น แต่ยังต้องจัดการกับเวลา ซึ่งหลังจากกลับโรงเรียน จะต้องมาคอยรดน้ำ และเตรียมตัวตัดผักไปขาย ส่วนตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงการปิดภาคเรียน ทำให้น้องเฟริ้สสามารถดูแลผักได้เต็มทีมากกว่าเดิม
ทางด้าน คุณแม่ ของน้องเฟริ้ส ได้มีการอธิบายเกี่ยวกับความชอบศิลปิน และการซื้อโฟโต้เซ็ตของน้องเฟริ้สว่า น้องเอาไปเปย์ 60 บาท เงินที่เขาไปเปย์รูปนั้น บางทีมาจากทิปเงินที่เขาขายผักและเห็ด ตอนนี้เขาไว้กับคุณแม่ และบางส่วนน้องเอาขยายทำชั้นและโรงเห็ด และยังมีเงินไปแบ่งเป็นทุนให้น้องสาว ซื้อปากกามาขายตอนปิดเทอมบางส่วน
น้องเอามาให้คุณแม่จ่ายค่าเทอม เพราะน้องเรียน EP ค่าเทอมหนักเอาเรื่องอยู่ น้องจึงคิดมาปลูกต้นทานตะวันช่วยหารายได้ ความสุขเล็กๆ น้อยๆ แค่นี้ คุณแม่มองว่าให้เขาทำเถอะ น้องอายุเท่านี้เอง ทั้งยังมองว่าเฟริ้สทำให้ครอบครัวได้ดีแล้ว
เปย์ตามกำลัง “เงินไม่พอ” ก็รอไปก่อน
[เปี่ยม-รินรดา อินทร์ไธสง หนึ่งในสมาชิกวง “BNK48”]
หลังจากมีรายได้เป็นของตนเองแล้ว ด้วยความชื่นชอบเกิร์ลกรุ๊ปไทย ที่กำลังได้รับความนิยมอย่าง "BNK48" ซึ่งเป็นไอดอลของน้องเฟริ้ส เขาได้นำเงินจากทิปที่เก็บสะสมจากการขายต้นอ่อนทานตะวันมาซื้อโฟโต้เซ็ตในชุดคุกกี้เสี่ยงทาย คนนั้นก็คือ “เปี่ยม-รินรดา อินทร์ไธสง” หนึ่งในสมาชิกของวง
ส่วนสมาชิกอีกคนที่น้องเฟริ้สชื่นชอบ ก็คือ “ซัทจัง” น้องเล็กสุดของวงแต่โฟโต้เซ็ตของซัทจัง มีราคาที่ค่อนข้างสูงกว่าของ “เปี่ยม” จึงทำให้น้องเฟริ้สเงินไม่พอ ต้องรอไปก่อน
ทว่า เงินที่ได้มานั้นจะมีการเปย์ให้กับวง “BNK48” ที่ตนชื่นชอบ น้องเฟริ้สก็จะแบ่งเป็นทุนสำหรับการเรียนด้วย หากของสิ่งไหนที่ราคาแพงเกินไป ก็ยังไม่ซื้อ เพราะต้องใช้จ่ายอย่างอื่นเช่นกัน น้องเฟริ้สมีความชอบขนาดนี้แสดงว่าคงได้เจอ “BNK48” ตัวจริงแล้ว
“ยังเลยครับ ยังไม่ได้ไปตามดูครับ เพราะเดือนก่อนผมต้องไปติวเรื่องจะไปสอบเข้า ม.4 ครับ ก็เลยไม่ได้ทำไรเลยครับ ตอนนี้ปิดเทอมแล้วก็อาจจะได้ไปตามพวกงานต่างๆ ครับ เพราะยังไงผมก็ต้องโฟกัสเรื่องการเรียนไว้ก่อนครับ”
กัปตันเฌอปราง อารีย์กุล แห่งวง “BNK48” คือหนึ่งในไอดอลของน้องเฟริ้ส ซึ่งมีความสามารถทั้งด้านการร้อง การเต้น โดยเฉพาะความสามารถด้านการเรียน “พี่เขามีการศึกษาสูงมาก เขาเป็นทั้งไอดอล เป็นทั้ง BNK ได้ เขาต้องเรียนหนักด้วย ถือว่าเขาสุดยอดมาก”
เรียกได้ว่าวงที่ตนชื่นชอบเป็นกำลังใจที่ดีมากๆ ด้านการเรียนของน้องเฟริ้ส ก็มีความสามารถทางด้านภาษาอังกฤษ คุณครูประจำชั้นเล็งเห็นถึงความสามารถ จึงได้พูดคุยสอบถามให้น้องเฟริ้สไปสอบแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมไปประเทศอังกฤษ
“ผมก็ลองสมัครดู แล้วก็ไปสอบ หลังจากนั้นก็มีจดหมายมาถึงบ้านว่าผ่าน ได้รับการคัดเลือกไป และต้องทำทุกอย่างด้วยตัวเอง เพราะว่าพ่อแม่ไม่ได้ตามไปด้วย จะต้องอยู่ด้วยตัวเองให้ได้ เรื่องเงินก็ต้องประหยัดครับ เพราะว่าต้องใช้จ่ายสูงมาก ก็ต้องแบ่งเงินให้พอครับ”
แน่นอนว่าการไปแลกเปลี่ยนครั้งนี้ ทำให้มีค่าใช้จ่ายค่อนข้างมาก น้องเฟริ้สจึงต้องการที่จะช่วยแบ่งเบาภาระของพ่อแม่ที่ส่งเงินให้ใช้จ่าย สิ่งนี้จึงกลายเป็นจุดเริ่มต้นการปลูกผักขายหลังจากกลับมาจากต่างประเทศ ทำให้มีรายได้ แต่ไม่ใช่ว่าจะเอาเงินไปเปย์อย่างเดียว น้องยังแบ่งให้ครอบครัวจ่ายค่าน้ำค่าไฟอีกด้วย
คำพูด ของน้องเฟริ้สแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจที่จะช่วยแบ่งเบาภาระของครอบครัว ไม่แปลกใจเลยที่เด็กอายุเท่านี้จะสามารถสร้างรายได้ตั้งแต่อายุยังน้อย
“ความสำเร็จของผม คือการที่ผมได้ประสบการณ์ต่างๆ ประสบการณ์จะสอนเราทุกอย่าง ประสบการณ์เป็นทั้งสิ่งที่ทำให้เกิดความสำเร็จ เเละความสำเร็จก็คือประสบการณ์ครับ”
ข่าวโดย ผู้จัดการ Live