แววตาไม่มีความสุขเลย! ลูกชาย “ฉลอง” เผยดรามาชีวิต พ่อถูกพี่เมียไล่ออกจากบ้าน ระเห็จตั้งบริษัทใหม่

“กุ๊ด เฉิดบุญ” ป้องข่าวลือ “โอม อัชชา” ไม่ยอมเล่นสแตนอิน ต้นเหตุ “อังกอร์” ถ่ายล่าช้า ยันติดปัญหาเรื่องกราฟฟิก ไม่เกี่ยวกับนักแสดง คาดหวังเรื่องเรตติ้ง แจงกรณี “ฉลอง” มีปัญหากับพี่สาวภรรยาใหม่ จนถูกไล่ออกจากบ้าน บอกรู้แค่พ่อย้ายออกมาอยู่กับเมียใหม่ แต่ไม่รู้เรื่องดังกล่าว ไม่กล้าล้วงมากเพราะเกรงใจ ยันสายตาสื่อถึงความเหงา เป็นทุกข์

เป็นละครอีกหนึ่งเรื่องที่แฟนๆ เฝ้ารอ สำหรับ “อังกอร์” ผลงาน “กู๊ด เฉิดบุญ ภักดีวิจิตร” ลูกชาย “ฉลอง ภักดีวิจิตร” ซึ่งเจ้าตจัวก็เผยว่าเดือนสิงหาคมนี้ได้ฤกษ์ออนแอร์แล้ว พร้อมแจงล่าช้าเพราะการตัดต่อ ติดปัญหาเรื่องกราฟฟิก ยันไม่เกี่ยวกับข่าวลือ “โอม อัชชา” ที่ไม่ยอมเล่นฉากบู๊เอง

“สิงหาคมนี้ได้คิวออกอากาศแล้วนะ ถามว่าเกิดอะไรขึ้นถึงล่าช้า คือเรื่องการตัดต่อเราตัดต่อเสร็จตั้งแต่ปีที่แล้วนะ ตั้งแต่สิงหาคมปีที่แล้ว มันเสียเวลาช่วงที่ทำกราฟฟิกละเอียดมาก แล้วเสือที่เราเพิ่มมาค่อนข้างเยอะ ไม่ใช่แค่เสือโคร่งแต่ว่าสัตว์เยอะ”

ป้อง “โอม อัชชา” ไม่ยอมเล่นบู๊ อยู่ด้วยกันตลอด อีกฝ่ายทุ่มเต็มที่ที่สุด
“เขาเล่นนะ นอกจากที่ว่าจะผาดโผนมันอันตรายต่อนักแสดงจริงๆ เรามีสแตนอินให้ อย่างเช่นฉากกระโดดน้ำตกสูงๆ เรามีสแตนอินให้ (ลือถึงขั้นขนาดว่าฉากแตะขาสูงโอมไม่ยอมเล่น?) โอ้ย เขาเล่นนะ ใครพูดกันไป ผมอยู่กับเขาตลอด เขาเต็มที่มาก คือเห็นเลยว่าเขาได้โชว์ความสามารถได้ออกมาอย่างเต็มที่จริงๆ ในเรื่องของดรามา ส่วนเรื่องแอ็กชั่น เขาอาจจะเหนื่อยหน่อย แต่เขาเต็มที่ตลอด”

“ไม่ได้ช้าในเรื่องของนักแสดงนะ แต่ว่าช้าในการตัดต่อ แล้วจริงเรื่องนี้มันยากตั้งแต่เป็นอังกอร์แล้ว อย่างของเก่า อย่างที่ทราบว่าคุณพ่อทำไว้ดีมาก เพราะฉะนั้นเราต้องเพิ่มเติมจากของเก่าที่ไม่มี เราเพิ่มแม้แต่โลเกชั่นนะ แต่ละที่ๆ ไป มันโหลดของยากนะ ใช้เวลาเราโหลดของกันตั้งแต่เช้าตี 5 หน้าอุทยาน เส้นที่เราจะเดินเข้าไป คนเขาไม่ได้เดินเข้าไป เราต้องแบกของไป เข้าไปเสร็จเรารีบเดิน ร่วม 2 ช.ม. เดินลัดเลาะ แต่เราจะแกร่งที่ธรรมชาติและสวยมากๆ บางทีกว่าจะได้ถ่ายก็สายไปแล้ว”

“บางครั้งเจอคิวแอ็กชั่น ติดเอฟเฟ็กต์เพราะว่าเราใช้เอฟเฟ็กต์จริงหมดเลยนะ เราไม่ได้ใช้ซีจีในเรื่องของเอฟเฟ็กต์เลย เราต้องยึดคาแร็กเตอร์อันนี้ไว้ เพราะว่าเป็นของคุณพ่อ ของจริง เล่นจริง เอฟเฟ็กต์จริง เผาไฟก็ไฟจริง ในการกำกับละครเรื่องอังกอร์เวลากลับมาถึงบ้าน เหมือนเราหมดพลังไปเลย คือขอนั่งนิ่งๆ นั่งเงียบๆ มันต้องลุยทุกวัน”

“และอย่างที่บอกนายจะให้ลงตั้งแต่ปลายปีที่แล้วล่ะ แต่ติดเรื่องกราฟฟิกจริงๆ ต้องอธิบายว่าสัตว์เราเยอะ เราต้องเอาสัตว์ของเราให้นายดู ความยากของมัน เราไม่ได้มีแต่งู ซึ่งงูมูฟง่ายกว่านะ แต่ว่าเสือกล้ามเนื้อเขาเยอะ แล้วก็คนค่อนข้างจับจ้อง เราอยากทำให้ออกมาดีที่สุด”

ทุ่มสุดตัวและสุดฝีมือ คาดหวังเรื่องเรตติ้ง
“ในความรู้สึกของผม ผมว่าทำเต็มที่สุดฝีมือแล้ว มันสุดหล้าไปแล้ว แม้กระทั้งเรื่องของบทการนำบทเก่ามาดัดแปลงใหม่ ยากมาก เพราะว่าพี่หนุ่ม นอร์แมน ผู้เขียนบทท่านเดิม แกผูกเรื่องไว้หมดเลย ถ้าแก้ตรงนี้จะกระทบกระเทือนไปอีกฉากหนึ่งเลย มันยากมาก ให้เขียนบทใหม่ง่ายกว่านะ เราต้องการปรับให้เรื่องมันมันส์ขึ้น ฉีกเส้นเรื่องขึ้น มันเป็นปัญหาของผมเองที่ผมต้องทำให้แตกต่าง”

“เรื่องเรตติ้งด้วยความที่เป็นอังกอร์มันก็ต้องคาดหวัง จะแอบเอาใจไว้ตรงกลาง แต่ถ้าวันออกอากาศเราต้องคาดหวังนะ เพราะฉะนั้นอะไรก็ตามที่เราลงไปมากๆ เหนื่อยกับเขามากๆ เราต้องคาดหวัง”

บอกสไตล์พ่อเน้นเรื่องแอ็กชั่น แต่สไตล์ตนนั้นจะเติมเรื่องความรักเข้าไปให้มากขึ้น
“แน่นอนนะ ผมอยากให้แฟนอังกอร์ภาคแรกที่ได้ติดตามกันมาในสิ่งที่เราทำอันใหม่ สำหรับเวอร์ชั่นใหม่เราเพิ่มเส้นรักเข้าไป คือจริงๆ ไม่ต้องถึงช่องดีกว่า แต่เอาเป็นว่าสไตล์คุณพ่อดีกว่านะ เพราะสไตล์คุณพ่อของเดิมจะเป็นแอ็กชั่น แล้วเรื่องรักก็จะมีนะ แต่ไม่ได้เน้น ผมรู้สึกว่าขาดอะไรตรงไหน ผมก็มาเติมนะ”

เผยได้เจอ “ฉลอง” สายตาสื่อความหมายทุกอย่าง
“ได้เจอและได้คุยกับคุณพ่อ ท่านสบายดี การที่ผมอยู่กับคุณพ่อมา ท่านเป็นคนเข้มแข็งนะ มีอะไรเขาจะไม่พูด แต่สายตาของเขา เราจะรู้ว่าเขาทุกข์อยู่ เขาเสียใจ เขาต้องการใคร สายตาของเขาค่อนข้างสื่อ คือเขาเหงา ซึ่งพวกผมก็ไปหากันตลอดนะ ผมไม่รู้รอบข้างเขาเป็นอย่างไร ผมไม่ได้พูดอะไรทั้งสิ้นนะ เพราะว่าผมไม่สามารถเข้าไป ณ จุดนั้น ที่เขาอยู่กับอีกคนได้”

ไม่รู้โดนไล่ รู้แค่ย้ายออกมาอยู่กับเมียใหม่
“ไม่ทราบถึงขนาดที่ว่าโดนไล่ขนาดนั้นนะ รู้แต่ว่าเขาย้ายออกมาอยู่กับภรรยาคนใหม่ กับบ้านอีกหลังที่ต่างจังหวัด ผมไม่เคยไปนะ แต่ว่าผมเคยไปหาพ่อตรงที่ทำงานต่างๆ มากกว่านะ บ้านใหม่ไม่เคยไป คุณพ่อไม่เคยเล่านะ นอกจากว่ารู้อะไรมา ผมก็จะถามนะ ผมเป็นห่วงคุณพ่อมากๆ คุณพ่อไม่เคยบ่นอะไรเลย คุณพ่อเป็นผู้ชายจริงๆ เลยนะ มีอะไรในใจไม่เคยพูดและไม่เคยพูดให้ลูกๆ หนักใจเลยนะ”

รับพ่อเปิดบริษัทใหม่กับภรรยา หลังดรามา “ทิวลิปทอง”
“อันนี้ก็ทราบนะว่าเขามาเปิดบริษัทใหม่ แต่ผมไม่ทราบว่าเขามีปัญหากับทางพี่ของภรรยาใหม่เลย ได้ข่าวมาว่าเหมือนจะมีอะไรกัน แต่ผมไม่เคลียร์เองมากกว่านะ ไม่ใช่ไม่กล้าถาม แต่คุณพ่อไม่พูดเองมากกว่า ผมได้คุยกับคุณพ่อว่ามีเรื่องทุกข์ใจอะไรอยู่หรือเปล่า ถ้าจะไปล้วงอะไรมากๆ ก็เกรงใจ แต่ผมรู้ว่าคุณพ่อทุกข์อยู่ แต่จะบอกแกเสมอว่าลูกๆ อยู่กับพ่อตลอดนะ บ้านหลังนี้ (หมายถึงบ้านย่านกรุงเทพฯ-นนท์) ยังเป็นของคุณพ่อและพร้อมให้คุณพ่อกลับเสมอมา ถามว่ากลับมามั้ย ก็กลับมานะ แต่ไม่ได้กลับมาพักหรือนอน ลูกๆ พร้อมจะดูแลคุณพ่ออยู่ตลอด”

(ติดตามทุกข่าวสารในแวดวงบันเทิงทั้งหมดได้ที่https://mgronline.com/entertainment)