"ฟิล์ม” เข้าใจสัจจะธรรมชีวิต มีขึ้น ย่อมมีลง เผยชีวิตตนจากเป็นตัวประกอบกลายมาได้เป็นซุปตาร์มีรายได้เป็นร้อยล้าน เป็นพรีเซนเตอร์มาเกือบทุกสินค้าที่มีในประเทศไทย แต่ในวันที่อยู่ในขาลงก็ต้องอยู่ให้ได้ หากคิดว่าตัวเองเป็นซุปตาร์ก็มีแต่รอตาย ทำใจวันนี้ไม่ใช่ยุคทองของตน ฉะนั้นตนจึงไปหาอย่างอื่นทำที่จะทำให้มันเป็นยุคทองของตัวเองให้ได้
เป็นอีกหนึ่งซุปตาร์ดังระดับประเทศที่เคยฮอตที่สุดแต่มาตกม้าตายเพราะเจอข่าวฉาวทำสาวท้อง ทำเอาชื่อเสียงป่นปี้ แม้ภายหลังจะไม่ใช่ความจริง แต่ชีวิตวงการบันเทิงของ “ฟิล์ม รัฐภูมิ โตคงทรัพย์” ก็ถอยหลังกู่ไม่กลับตกอันดับซุปตาร์ จนต้องหันไปทำธุรกิจส่วนตัว ชีวิตกำลังไปได้สวยก็มาเจอปัญหาธุรกิจอีก ทำให้ชีวิตที่กำลังรุ่งต้องสะดุดอีกครั้ง แต่ถึงอย่างนั้นหนุ่มฟิล์มก็ยังอยู่รอดปลอดภัย เป็นแมว 9 ชีวิต จะฉาวอย่างไรก็ไม่มีตกอับ ซึ่งเจ้าตัวบอกว่าที่ตนยังคงรักษาระดับได้อย่างนี้เพราะรู้จักที่จะวางตัว
“มันอยู่ที่การวางตัวครับ ผมคือสินค้าตัวนึง ถ้าเจอข่าวฉาวแล้วปล่อยตัวโทรม หรือทำตัวแย่ๆ ตามความตกต่ำของชีวิต ผมก็คงไม่ได้ยืนอยู่ตรงนี้หรอก มันอาจจะมีเรื่องเข้าใจผิดในตัวผม แต่ผมก็ไม่ได้อะไร ก็ยังดูแลตัวเองต่อไป พาตัวเองไปอยู่ในอีกจุดนึง พอเวลาผ่านไป อะไรปรากฎออกมา ผมก็ถูกดึงตัวกลับมาอีกครั้ง ชีวิตมันก็เป็นอย่างนี้ เรื่องราวแย่ๆ มันก็ไม่ใช่ว่ามันจะแย่ทั้งหมด มองให้มันเป็นประสบการณ์ของเรา”
“ซึ่งประสบการณ์ที่ผ่านมามันสอนผมเยอะมาก ยิ่งแก่ยิ่งรู้โลกมากขึ้น ผมอายุ 33 ปีก็จริง แต่เป็น 33 ที่เจอปัญหามากกว่าคนรุ่นเดียวกันเป็นร้อยเท่า (หัวเราะ) เจอทุกอย่างของชีวิต ผมก็เคยคิดนะว่าทำไมชีวิตเราต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วย เจอปัญหาทุกอย่างที่ทำ เป็นนักแสดงเจอข่าวฉาว เป็นนักธุรกิจเจอเรื่องปัญหา เคยดีใจทำธุรกิจยอดพุ่ง 500 กว่าล้าน แต่ดีใจได้ไม่นานเจอข้อกฎหมายว่ามันไม่ถูกต้อง ผมผ่านมาเยอะ ชีวิตแกร่งมากครับ ทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับชีวิตผมก็เป็นเพราะตัวผมเอง ช่วงวัยรุ่นอาจจะคึกคะนอง ก็เลยมีปัญหาเกิดขึ้นตามมา”
เผยเข้าใจสัจจะธรรมชีวิต มีขึ้นมีลงจากเป็นตัวประกอบจนได้เป็นซุปตาร์มีรายได้เป็นร้อยล้าน แต่ในวันที่อยู่ในขาลงก็ต้องอยู่ให้ได้
“ผมเริ่มเป็นตัวประกอบตั้งแต่อายุ 15 ปี แล้วมาดังมากๆ ตอนอายุ 17 ปี และทำงานมาเรื่อยจนอายุ 33 ปี ผมอยู่มานาน เห็นวงจรชีวิตตัวเอง ตั้งแต่ยุคทองหาเงินได้เป็นร้อยล้าน เป็นพรีเซนเตอร์ทุกตัวที่มีในประเทศไทย ผมเป็นมาเกือบหมด แล้วมันก็ผ่านไปตามยุคตามสมัย โลกเปลี่ยนไวมาก ทำให้ผมได้เห็นสัจจะธรรมว่าโลกนี้ไม่มีอะไรที่แน่นอนและยั่งยืน ถ้าวันนี้ยังลงไม่เป็น คิดว่าตัวเองเป็นซุปตาร์ก็มีแต่รอตาย ต้องลงเป็น ขึ้นเป็น ต้องดูจังหวะชีวิต เราต้องเป็นไอดอลของคนไทยได้ในหลายรูปแบบ วันนี้ไม่ใช่ยุคทองของเรา ก็ไปหาอย่างอื่นทำที่จะทำให้มันเป็นยุคทองของตัวเอง คนเราต้องอยู่ให้เป็น”