“แจ๊คจิลล์” โพสต์สงสาร “น้องอิน” วิญญาณยังอยู่ที่เดิม เผยทำพิธีเชิญวิญญาณผิดหลัก ตอนนี้วิญญาณยังอยู่จุดเกิดเหตุ สงสารไม่อยากให้เป็นอานัสผีใหญ่ แนะต้องเชิญใหม่หลังตาย 3 วัน ใส่หุ่นและเผาไปพร้อมร่าง
หลังจากที่เมือวานนี้ครอบครัวของ “น้องอิน ณัฐนิชา เชิดชูบุพการี” ดารานักแสดงที่ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต ได้นำศพออกจากโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ไปทำพิธีเชิญวิญญาณบริเวณจุดเกิดเหตุ ก่อนจะเคลื่อนย้ายไปตั้งศพบำเพ็ญกุศลนั้น ด้าน “แจ๊คจิลล์” จักรพันธ์-จักรพงษ์ การสมพรต อดีตนักร้องฝาแฝด กูรูกุมารทองชื่อดัง นักสะสมของขลังที่มีความเชี่ยวชาญด้านจิตวิญญาณ ก็ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว Jack Jill Kumanthong ถึงการเชิญวิญญาณดังกล่าวว่า เป็นการเชิญที่ไม่ถูกหลัก เพราะผู้ตายยังไม่รู้ตัวว่าตาย เหมือนคนนอนหลับอยู่ จะต้องมาทำพิธีเชิญในวันที่เสียชีวิตไปแล้ว 3 วัน ซึ่งจะเป็นวันที่ผู้ตายตื่นขึ้นมาและเริ่มทราบว่าตนเองได้เสียชีวิตแล้ว โดยได้ระบุในการทำพิธีว่าจะต้องเชิญวิญญาณเข้าสิงในหุ่นและทำการเผาไปพร้อมกับร่าง ถึงจะเป็นการปลดปล่อยวิญญาณ ไม่เช่นนั้นดวงวิญญาณจะไปอยู่ที่จุดเกิดเหตุ ซึ่งเป็นสถานที่อาถรรพ์มีผีใหญ่ผีเจ้าถิ่นควบคุมอยู่
“2 วันมานี่ผมได้ติดตามข่าว ผมรู้สึกไม่สบายใจ หดหู่ ข่าวน้องอิน ดาราสาวที่เสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุ เพราะทางที่น้องเกิดเหตุ ผมผ่านเป็นประจำ ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวด้วยครับ ในฐานะผมเป็นพ่อมีลูกสาวเช่นกัน เข้าใจหัวอกคนเป็นแม่ คนที่เลี้ยงดูน้องอินมาแต่เล็ก”
“ผมจึงอยากช่วยในด้านใดด้านหนึ่งที่ผมมีความรู้ ศึกษาเรื่องจิตวิญญาณ เรื่องชุมชนผี ชุมชนหลังความตาย เป็นสิ่งที่ผมพอจะช่วยแนะนำข้อเสนอแนะให้ได้ไม่มากก็น้อย ถือว่าเป็นความรู้ในอีกด้านหนึ่ง วันนี้ได้ดูข่าว ที่ไปทำพิธีเชิญวิญญาณในวันนี้ที่เกิดเหตุ ตามที่ผมได้ศึกษามานั้น การทำพิธีต้องครบเข้าวันที่ 3 ก่อน ถึงจะทำพิธีถึงจะเชิญวิญญาณได้ วันนี้น้องยังหลับอยู่ยังไม่รับรู้อะไรเลยครับ ยังไม่ตื่น ยังไม่รู้ตัว เหมือนจิตยังดับ หรือหลับ(สลบ)อยู่ที่จุดเดิม เพราะเป็นการตายแบบกะทันหัน”
“ความจริงแล้วในด้านจิตวิญญาณนั้น ดวงวิญญาณน้องถ้าเข้าวันที่ 3 ตามหลักแล้ว จิตน้องจะตื่น และน้องก็จะไปจิตแรกที่ตั้งใจไว้ตอนมีชีวิต บ้านแฟน บ้านแม่ รถ เป็นต้น เพียงแค่นึกเพียงอึดใจว่าจะไปที่ใดก็จะไปที่นั้นได้เลย น้องจะมารู้ว่าตัวเองตายก็ต่อเมื่อไปเจอสิ่งต่างๆ บ่งบอกว่าตนเองเสียชีวิตแล้ว ฉะนั้นที่ไปทำพิธีกันวันนี้ยังไม่ถูกหลักครับ สิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้คือ เข้าวันที่ 3 เค้ารู้ตัวแล้ว น้องเค้าก็จะกลับไปอยู่ที่จุดเกิดเหตุเดิม มาเป็นบริวารเป็นตัวตายตัวแทนบริวารต่อไป เพราะมีผู้คุม ที่เรียกว่า ผีใหญ่(ผีเจ้าที่ มีฤทธิ์)นั้นๆ ไป ที่นำเสนอนี้ ผมก็มีลูก ถ้าเป็นลูกผม ผมก็คงไม่ยอมให้ไปเป็นบริวารที่แบบนั้น เป็นตัวตายตัวแทนไม่รู้จบ”
“ยกตัวอย่าง เช่น ชุมชนหลังความตายโค้ง 100 ศพ, แยก 100 ศพ ฯลฯ ให้ทำพิธีแค่ไหนก็ไม่ไปไหน เพราะเจ้าที่ไม่ให้ไป การทำที่ถูกต้องคือ ต้องไปเชิญในวันที่ 3 หรือต้องเชิญก่อนเผา ต้องทำพิธีปั้นหุ่น ทำด้วยขี้ผึ้ง สิ่งของใช้ส่วนตัว ไปเอาดวงวิญญาณกลับมาที่ร่างน้องเค้า และฌาปนกิจไปพร้อมกับหุ่นที่ปั้น ถึงจะเป็นการปลดปล่อยน้องได้ไปอยู่ภพภูมิที่ดีครับ”
“เหตุผลการเสนอแนะครั้งนี้ ผมไม่ต้องการให้ใครไม่สบายใจ เป็นการนำเสนอด้วยความรู้ และความเห็นส่วนตัว ถ้าเป็นเรื่องนี้ทำให้ใครไม่สบายใจ หรือว่ามาเกาะกระแส เพราะน่าจะมีคนปรึกษาเยอะ ผม 2 คนต้องขออภัยด้วยครับ โปรดใช้วิจารณญาณ เสียใจอย่างสุดซึ้ง”