รดน้ำศพ “น้องอิน” สุดเศร้า “แม่-แฟน” ร่ำไห้ปริ่มจะขาดใจ ด้าน “แบมบี้ เดอะสตาร” เผย ทราบแล้วน้องอินขับรถไปอยุธยาหาใคร เป็นเพื่อนของเพื่อน สุดอาลัยน้องอินเป็นคนดี ขับรถไม่เร็วแต่ขับไม่แข็ง นำขนมจากสิงคโปร์มาให้ตามคำสัญญาแล้วนะ
หลังจากที่ครอบครัวของ “น้องอิน ณัฐนิชา เชิดชูบุพการี” ได้รับศพน้องอินจากโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ รังสิต และได้ทำพิธีเชิญวิญญาณที่บริเวณจุดเกิดอุบัติเหตุ ล่าสุดเมื่อช่วงเย็นก็ได้จัดพิธีรดน้ำศพที่วัดราชสิงขร ย่านเจริญกรุง ท่ามกลางความเศร้าโศกเสียใจของครอบครัว โดยเฉพาะคุณแม่กับแฟนหนุ่มของน้องอินที่ร้องไห้ตลอดเวลาด้วยและขออนุญาติไม่ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวเพราะยังทำใจไม่ได้
อย่างไรก็ตาม “แบมบี้ เดอะสตาร์” สิรินทร์พร ปัจฉิมสวัสดิ์ หนึ่งในเพื่อนสนิทของอินที่ได้รับรู้ถึงการจากไปของนักแสดงเป็นคนแรกๆ โดยเล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่าในช่วงเช้าของวันเกิดเหตุมูลนิธิปอเต็กตึ๋งได้ติดต่อมาสอบถามตนเองว่าให้ช่วยกระจายข่าวว่าใครรู้จักกับผู้ตาย เลยทำให้เจ้าตัวช็อคทำอะไรไม่ถูก และให้สัมภาษณ์ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเนื่องจากนักแสดงสาวนั้นเดินทางจากพัทยาเพื่อจะไปหาเพื่อนที่จังหวัดอยุธยา แต่กลับมาเกิดอุบัติเหตุเสียก่อน และที่สาเหตุที่ไม่บอกคุณแม่ อาจจะเพราะกลัวคุณแม่เป็นห่วง
“รู้ข่าวตอนเช้าเมื่อวานนี้ (7 เมย.) มีพี่ปอเต็กตึ๋ง ส่งมาทางเฟซบุ๊กส่วนตัว ว่ารู้จักน้องคนนี้ไหม พอดีต้องการจะติดต่อญาติน้อง ปกติเฟซบุ๊กเราจะส่วนตัวมาก ก็เลยถามว่าจากไหน เขาบอกว่าช่วยตามหาญาติให้หน่อยได้ไหม แล้วเขาก็ส่งรูปกระเป๋าตังค์มาให้ มีรูปน้อง รูปรถ รถคันนั้นเรานั่งกับน้องประจำอยู่แล้วก็จำได้ว่าใช่ ก็รู้ว่าเป็นบัตรประจำตัวประชาชนของน้อง และเป็นรูปน้องที่อยู่ที่เกิดเหตุ เป็นชุดที่น้องใส่ไปเที่ยววันนั้นพอดี ก็ช็อคไปเลย ตอนนั้นเพิ่งตื่น ประมาณ 8 โมงเช้า พอทราบข่าวก็รีบขับรถไปที่บ้านของน้อง ไปเจอคุณแม่ของน้อง คุณแม่ก็เพิ่งทราบตอนนั้นพอดี”
“สาเหตุที่ทางมูลนิธิเลือกส่งข้อความมาหาเราก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าทางนั้นเขารู้ได้ยังไง อาจจะเป็นเพราะเราลงรูปด้วยกันบ่อยมาก เพิ่งกลับมาจากหัวหินด้วยกันและนัดกันว่าจะไปดูงานมอเตอร์โชว์ รู้สึกใจหายมาก ซึ่งแบมก็ไม่ได้ถามข้อมูลรายละเอียดอะไรมาก เพราะตอนนั้นกำลังช็อก ทราบแค่ว่าต้องไปเรียนคุณแม่ ซึ่งเราก็ยังไม่เคยเจอคุณแม่มาก็ แต่เห็นน้องคุยกับคุณแม่ตลอดทางโทรศัพท์ เราก็พยายามจะติดต่อคุณแม่ให้ได้”
“ตอนแรกเราตั้งใจจะไปเที่ยวพัทยากับน้อง แล้วเราก็เลื่อนเพราะคิดว่าคนน่าจะเยอะ ก็บอกน้องว่า คราวหน้าแล้วกัน เพราะเราเพิ่งกลับมาจากหัวหินด้วย และมีงานเพิ่มเข้ามา ก็เลยไม่ได้ไป ก็เลยให้น้องไปเที่ยวเต็มที่ คืนนั้นก็ยังไม่ได้คุยกัน แต่น้องก็มามาดูสตอรี่เราในไอจี”
“คือน้องไปพัทยา พองานเลิกแล้ว น้องก็จะไปหาเพื่อนที่อยุธยา เป็นเพื่อนที่ไม่ได้ไปพัทยาด้วยกัน คือน้องก็ขับจากพัทยาไปอยุธยาเลย แต่ยังไปไม่ถึง ยังไม่ได้เจอเพื่อนที่อยุธยา เราก็ไม่ทราบเหตุผล ที่น้องไปหาเพื่อนคนนั้นว่าไปทำไมเหมือนกัน ทราบแค่ว่าน้องจะไปหาเพื่อนคนนี้ ซึ่งตอนนี้เราก็ทราบแล้วว่าเพื่อนคนนั้นเป็นใคร ได้คุยกันแล้ว แต่ไม่ทราบเหตุผลว่าทำไมอินถึงตัดสินใจไปหาเพื่อนในเวลานั้น แต่แค่ทราบว่าอินไปหาเพื่อนคนนั้น ซึ่งเพื่อนคนนั้นพอรู้เขาก็ช็อกมาก เพราะเราเป็นคนบอกเขาเองว่าทราบข่าวหรือยัง แล้วน้องก็ทราบจากเรา เราเป็นคนโทรไปถามน้องเอง เขาเป็นเพื่อนของเพื่อนแล้วมารวมแก๊งกัน”
“แบมบี้กับน้องเราสนิทกันมาก น้องมานอนที่คอนโดด้วยบ่อยๆ ล่าสุดเพิ่งพาน้องไปสวดมนต์ด้วยกัน แล้วก็แพลนว่าจะไปบวชที่อุดรด้วยกัน น้องอยากทำอะไรอีกเยอะมาก แล้วก็นัดกันไว้ แต่ก็ยังไม่ได้ทำ น้องไม่ใช่คนขับรถเร็ว แต่ยังขับรถไม่แข็งมาก แต่น้องไม่ใช่คนใจร้อนนะคะ พอเกิดเหตุการณ์เราก็ช็อคร้องไห้ ไม่ได้มีลางบอกเหตุอะไรก่อนหน้านี้เลย ทางคุณแม่เองก็ยังช็อค เราก็พยายามให้กำลังใจ และรีบมาช่วยงานเท่าที่จะช่วยได้ บอกคุณแม่ว่าสู้ๆ เพราะเราเข้าใจความรู้สึก เรามีกันแค่นี้ ก็พยายามให้กำลังใจกันให้มากที่สุด ส่วนเบลก็อยู่ในช่วงทำใจ ตอนนี้ยังไม่มีใครทำใจได้"
"พอดีแบมบี้มีขนมที่ซื้อมาจากสิงคโปร์แล้วน้องถามว่าเมื่อไหร่จะเอามาให้ วันนี้เราก็บอกเขาว่า วันนี้พี่เอามาให้แล้วนะตามสัญญา น้องเป็นคนที่น่ารักที่สุดเท่าที่เคยเจอมาในชีวิต เขาไม่มีข้อเสียเลย อยู่ด้วยแล้วมีแต่พลังงานบวก และเป็นเด็กดีมาก”
“แบมเองเมื่อคืนก็ยังไม่ได้นอนเลย มือสั่นตลอดเวลา ยังไม่อยากเชื่อว่าเป็นเรื่องจริง สิ่งที่น้องน่าจะห่วงที่สุดตอนนี้คือคุณแม่ เพราะน้องผูกพันธ์และสนิทกับคุณแม่มาก แต่ที่น้องไม่ได้บอกคุณแม่ว่าคืนนั้นจะไปอยุธยาอาจเพราะน้องเป็นห่วงกลัวว่าคุณแม่จะห่วง”