“เคนพอร์ช” สาบานพูดความจริง โต้สั่งสื่อลบคลิป ยันแค่ขอความกรุณาอย่าเผยแพร่ เพราะไม่ได้ดีลกันมาให้สัมภาษณ์ ขอโทษไม่ให้สื่อมวลชนถ่ายภาพ อ้างยังใหม่ คิดว่าต้องมีป้ายผู้สื่อข่าวติดไว้ทุกคน วอน “ญาญ่า” อย่ารำคาญ ไม่มีเจตนาร้าย ไม่ได้อยากดัง แต่ลั่นคงไม่ต้องปรับตัว เพราะเป็นบุคคลสาธารณะ
แม้จะออกมาเคลียร์ประเด็นมือที่สามคู่จิ้น “ญาญ่า อุรัสยา เสปอร์บันด์” และ “ณเดชน์ คูกิมิยะ” จนโดนด่าถล่มทลาย แต่ก็ยังมีอีกหลายประเด็นตามมา ทั้งกรณีที่ “เคนพอร์ช สรรเสริญ เงินรุ่งเรืองโรจน์” นักกีฬาฟันดาบสากลทีมชาติไทย เดินสายโปรโมตงานอีเวนต์แต่ไม่ยอมให้สื่อสัมภาษณ์ อีกทั้งยังเดินเข้าไปสั่งให้ลบคลิปทิ้ง แม้แต่อีเวนต์ในวันนี้ (4 เม.ย.) เจ้าตัวก็ยังทำเอาสื่อมวลชนงงเต๊ก เพราะอยู่ดีๆ ก็เล่นตัวทำไม้ทำมือห้ามสื่อมวลชนถ่ายภาพ ก่อนจะออกมายกมือขอโทษ พร้อมบอกว่าขอให้อภัยตน เพราะตนยังใหม่กับการเป็นคนสาธารณะ
“จริงๆ เรื่องที่เกิดมาจากการโพสต์ทวิตเตอร์ขำๆ ไม่ได้ตั้งใจให้มันเกิดประเด็นโยงให้มันเป็นเรื่องเป็นราวใหญ่โตได้ ส่วนที่พี่ญาญ่าตอบว่ารำคาญ ผมเข้าใจเขานะเพราะเขาเป็นผู้หญิง แล้วเรื่องราวทุกอย่างมันก็เกิดขึ้นมาจากตัวผมที่ผมโพสต์ทวิตเตอร์แบบไม่คิด ก็โทษอะไรเขาไม่ได้ถ้าเขาจะรำคาญผม ก็สมควรครับ”
ยันไม่เกาะกระแส ถ้าอยากดังไปเต้นแรงเต้นกาดีกว่า
“ถ้าผมอยากดังผมไปเต้นแร้งเต้นกาแป๊บเดียวผมก็ดังแล้ว ผมไม่รู้ว่าผมจะมาเกาะกระแสเพื่ออะไร ผมเป็นนักกีฬาทีมชาติ นักกีฬาใช้ความสามารถครับ แต่ถ้าผมเป็นดาราผมอาจจะต้องใช้กระแสและความสามารถด้วย ผมว่าผมไม่จำเป็นต้องเกาะกระแส ผมรู้สึกว่าผมไม่รู้ว่าผมจะได้อะไรจากการเกาะกระแสในครั้งนี้ ผมได้ประโยชน์หรอ สุดท้ายแล้วผมได้กระแสในทางที่ดีหรือในทางลบ สุดท้ายทุกคนมาด่ามาว่าผมแล้วผมจะเกาะกระแสไปเพื่ออะไรครับ”
ขอโทษสื่อที่ไม่ตอบคำถาม
“ผมต้องขอโทษพี่ๆ สื่อด้วยที่ผมออกมาพูดช้า ผมบอกตรงนี้ว่าอย่าไปโทษนักข่าว ถ้าผมออกมาก็ได้ข่าว อย่าไปโทษสื่อมวลชนมาโทษที่ตัวผมได้เลยที่ผมช้าเอง เอาตรงๆ ตอนแรกเรื่องเกิดจากที่ผมเป็นใครก็ไม่รู้ โนเนม ผมเชื่อว่าทุกคนก็เคยโพสต์อะไรเล่นๆ กัน ผมก็เป็นหนึ่งในนั้นครับ ผมโพสต์ออกมาเล่นๆ ขำๆ แต่แจ็กพอตแตก ผมกลายมาเป็นข่าวได้”
“อย่างแรกเลยคือผมตกใจ ผมคิดว่าการที่ผมไม่ได้ออกไปทุกอย่างมันคงเงียบเพราะผมเป็นใครก็ไม่รู้ ผมเลยเลือกที่จะเงียบก่อน แต่พอสักพักหนึ่ง ผมว่ามันเริ่มมีอะไรมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นคนเข้ามาด่าว่าผมในอินสตาแกรม ด่าไปถึงบุพการี เพื่อนผมเริ่มส่งข้อความมาถามว่ามันเกิดเรื่องราวอย่างนี้ขึ้นได้ยังไง ในตอนนั้นผมซ้อมหนักมาก เราก็มันเกิดอะไรขึ้นวะ”
“สุดท้ายผมก็เลือกที่จะเข้าไปตอบ เข้าไปขอโทษคุณญาญ่าที่ช่อง 3 ก็ไม่ได้ตั้งใจจะดึงเชิงอะไรทั้งนั้น ไม่จำเป็นต้องดึงเชิงเพื่องานอีเวนต์ ผมไม่รู้ว่าผมจะทำไปเพื่ออะไร ผมไม่ได้ดึงเชิง ผมโฟกัสอย่างอื่นมากกว่า ผมซ้อมด้วย แต่เข้าใจว่าเดี๋ยวเรื่องมันก็คงจะเงียบแต่สุดท้ายมันก็ไม่เงียบ”
ฝากบอกญาญ่าอย่ารำคาญผมเลย แค่แฟนคลับคนหนึ่งไม่มีเจตนาไม่ดี
“ยังไม่มีโอกาสได้ขอโทษต่อหน้าเลยครับแต่ว่าได้มีโอกาสเดินไปที่ช่อง 3 ขอโทษเรียบร้อยแล้วด้วยการไปออกรายการโหนกระแส ถ้าเกิดเขาดูอยู่ พี่ญาญ่าครับ อย่ารำคาญผมเลยนะครับ ผมเองเป็นแค่คนๆ หนึ่ง เราไม่ได้คิดไม่ได้มีเจตนาอะไรร้ายแรงเลยที่จะโพสต์อะไรออกไปแบบนั้น อยากให้ดูที่เจตนาของผมนิดหนึ่ง ผมเป็นแค่คนๆ หนึ่งที่มีคนฟอลโลวทวิตเตอร์หลักพัน วันหนึ่งใครจะไปรู้ว่ามันจะเกิดเรื่องราวแบบนี้ได้”
“เจตนาผมไม่มีเจตนาอะไรจะทำให้เขาเสื่อมเสียเลยแม้แต่นิดเดียว ผมเองก็เป็นแฟนคลับพี่ญาญ่า แล้วก็อยากจะบอกถึงแฟนคลับของณเดชน์-ญาญ่าทุกคนด้วย ผมเองก็เป็นแบบคุณ ผมเป็นเหมือนคุณที่อยู่หนึ่งในนั้น...เนอะ พูดลำบากครับ”
ปัดสั่งสื่อลบคลิป แค่บอกว่าไม่โอเค ถูกแอบถ่ายไม่รู้ตัว อีกทั้งตนยังไม่ได้อนุญาตให้ถ่าย สาบานได้พูดแค่นี้ อ้างถูกละเมิดสิทธิ์
“ผมไม่ได้พูดให้ลบคลิปนะครับ วันนั้นมีพี่คนหนึ่งที่ดีลงานกับผมวันที่ 1 เม.ย. เป็นคนที่ส่งงานเดินแบบมาให้ บอกว่าถ้าจะไปหาสื่อเคนพอร์ช พี่ขอเลย ช่วยไปสื่อกับพี่หน่อย ตอนแรกผมจะไม่ไปด้วยซ้ำเพราะมีประเด็นเยอะแยะมากมาย แล้วผมตอบรับกับผู้ใหญ่ไปแล้วว่าผมจะไปตอบในวันที่ 4 เม.ย. เท่านั้น แต่โอเค ผมบอกว่าผมจะไปนะ แต่ผมขอพูดในเรื่องของเดินแบบเท่านั้น แต่ในวันที่ผมไปถึงผมพูดเรื่องการเดินแบบจบแล้ว แต่ก็มีเรียกให้ไปสัมภาษณ์ต่อ ผมก็ขอพี่นักข่าวเขาแล้วว่าผมไม่ขอสัมภาษณ์เรื่องประเด็นนะ เราไม่ได้ดีลกันแบบนี้นิ ยังไงผมก็ขอลากลับแล้วกันแต่มันไม่ใช่อย่างนั้นสิ”
“กลายเป็นว่าระหว่างที่ผมพูดอยู่นั้น ผมเห็นว่าที่กล้องมีไฟติดอยู่ ผมรู้แล้วว่ามันมีการบันทึกไว้แล้ว ผมเลยเดินไปหาช่างภาพว่าผมไม่โอเคนะครับถ้าจะให้ผมไปออกในขณะที่ไม่ได้ขออนุญาตผมเลยว่าพี่จะถ่าย ผมสาบานได้ว่าผมพูดแค่นี้จริงๆ ผมก็ไม่รู้ว่าข่าวออกมาได้ไงที่บอกว่าผมสั่งให้ลบคลิป”
“เรื่องเดินเข้าไปห้องทีมงาน แล้วบอกให้ลบคลิป ผมยืนยันเลยว่าผมไม่ได้พูดว่าลบคลิปด้วยนะครับ แต่พูดว่าถ้ายังไงกรุณาด้วยนะครับ อย่าออกอากาศนะครับ เพราะอันนั้นคือไม่ได้ถ่ายแต่เป็นแอบถ่าย ถูกมั้ย ผมแค่เซฟตัวเองไว้ก่อน แต่ผมไม่ชัวร์ว่าแอบหรือไม่แอบ แต่โอเคคืออย่าออก ณ ตรงนั้นดีกว่า มันละเมิดสิทธิส่วนบุคคลของผม เคลียร์นะครับเรื่องที่ผมปฏิเสธสื่อจริงๆ แล้วผมไม่ได้ปฏิเสธ”
โอดห้ามช่างภาพถ่ายรูปเพราะยังใหม่ ขอโทษหากมีอะไรไม่ถูกใจ
“ผมมือใหม่มากครับ ผมเป็นนักกีฬา ไม่เคยเลยที่จะต้องมาให้สัมภาษณ์เยอะขนาดนี้ ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเป็นช่างภาพสื่อมวลชน ผมเข้าใจว่าจะต้องมีป้ายผู้สื่อข่าวติดไว้ทุกคน ผมไม่เห็นจริงๆ ยังไงก็ต้องขอโทษทางสื่อมวลชนด้วยที่ผมอาจจะมีกิริยา ท่าทางอะไรที่มันไม่ถูกใจ ก็ต้องขอโทษแล้วกันนะครับ(ยกมือไหว้)”
วอนคิดให้ดี ใครกันแน่เป็นคนจุดชนวนให้เรื่องบานปลาย
“ได้รับบทเรียนเยอะ ต่อไปพูดอะไรก็ต้องคิด ผมคิดว่าผมไม่ได้เป็นใครเลย เป็นคนธรรมดาคนหนึ่งด้วยซ้ำ การโพสต์ขำๆ ของผมจะกลายเป็นเรื่องราวที่ไปผูกโยงหลายๆ อย่างกลายเป็นเรื่องราวใหญ่โต ทำให้คนๆ หนึ่งเสียหายได้ ผมอยากให้ทุกคนได้ลองเสพข่าวกันอย่างมีสติก่อน ให้ลองคิดดีๆ ว่าใครเป็นคนจุดชนวนเรื่องนี้ มันใช่ผม 100 เปอร์เซ็นต์จริงรึเปล่าที่ทำให้เรื่องนี้บานปลายจนมาถึงขนาดนี้ ลองสืบหาต้นสายปลายเหตุกันดีๆ ว่าทำไมมันถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ผมอยากให้ผมเป็นกรณีศึกษานะครับว่าเพราะการแค่ที่คนๆ หนึ่งโพสต์ทวิตเตอร์ ผมว่าไม่ใช่แค่ผมหรอกครับที่โพสต์แบบนี้”
ขอโฟกัสกีฬาฟันดาบ แต่ถ้ามีโอกาสในวงการก็พร้อมทำ
“ตอนนี้ผมโฟกัสเรื่องกีฬาฟันดาบมากเพราะในปีนี้จะมีการคัดเอเชียนเกมส์ ผมตั้งใจไว้ว่าผมอยากจะเป็นคนหนึ่งที่ติดไปแข่งในครั้งนี้ ผมติดทีมชาติอยู่แล้วแต่มันจะมีการเก็บคะแนนกันใหม่ ส่วนเรื่องงานในวงการผมมองว่ามันเป็นโอกาสที่เข้ามาในชีวิต ถ้ามันมีโอกาสที่ดี ใหญ่ และคุ้มค่าที่จะทำ ผมยินดีอยู่แล้ว โอกาสเข้ามาในชีวิตเราใครๆ ก็อยากจะได้รับโอกาสกันทั้งนั้น”
ย้ำอีกครั้งไม่ได้เกาะกระแสญาญ่า
“ผมตอบไปแล้วว่าผมไม่ได้เกาะกระแสนะครับ ก็รับได้ครับ เราไม่สามารถทำให้ใครถูกใจเราได้ 100 เปอร์เซ็นต์ มันเป็นไปไม่ได้ คนเรามันต้องมีทั้งคนชอบและคนไม่ชอบเป็นเรื่องธรรมดา ผมเข้าใจในชีวิตมากกว่า มันเป็นสัจธรรม ใครจะคิดอะไรยังไงมันเป็นเรื่องของเขา เราทำอะไรไม่ได้ เรามีหน้าที่ทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด”
ไม่ต้องปรับตัว เป็นคนสาธารณะไปแล้ว
“ต้องปรับมากครับ ผมว่าผมปรับในระดับที่พอสมควรนะ มีคนเข้ามาคอมเมนต์ในอินสตาแกรมผมเยอะมาก ล้วนแล้วแต่เป็นคำพูดที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่ผมไม่ได้ตอก หรือปฏิเสธอะไรเขาเลย ผมยินดีที่จะรับฟัง ผมเข้าใจว่าตอนนี้ผมอาจจะเป็นคนหนึ่งที่กลายเป็นคนสาธารณะไปแล้วมั้ง เพราะงั้นผมว่าผมเข้าใจ ผมไม่จำเป็นต้องปรับตัวอะไรมาก”
(ติดตามทุกข่าวสารในแวดวงบันเทิงทั้งหมดได้ที่ https://mgronline.com/entertainment)