“เคนพอร์ช” เคลียร์ดรามาครั้งแรก ข้อหามือที่สาม “ณเดชน์-ญาญ่า” ยันไม่รู้จักนางเอกดัง ไม่เคยย่องเฝ้ากลางกองโฆษณา แจ็กพอตเพราะโพสต์คะนองปาก ไม่อธิบายสัมพันธ์เพราะตกใจ เสียใจถูกด่ายันพ่อแม่ เผยบุกขอโทษนางเอกดังที่รายการโหนกระแสช่อง 3 เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ และเหมาะสมที่สุดแล้ว จะเก็บไว้เป็นบทเรียน เคลียร์ทุกอย่างล่าช้าเอง
จากกรณีกระแสดรามา “พอร์ช สรรเสริญ เงินรุ่งเรืองโรจน์” หรือ “เคนพอร์ช” นักกีฬาฟันดาบสากลทีมชาติไทย มีข่าวลือหึ่งว่าเป็นมือที่ 3 ทำให้คู่จิ้นอย่าง “ณเดชน์ คูกิมิยะ” เลิกรากับนางเอกสาว “ญาญ่า อุรัสยา เสปอร์บันด์” จนทำให้ฝ่ายหญิงออกมาตอกกลับว่าน่ารำคาญ ที่ไม่เคลียร์ไม่ตอบ ขณะที่หนุ่มเคนพอร์ชถูกแฟนคลับรุมถล่มในไอจียับ ล่าสุดรายการโหนกระแสวันที่ 3 เม.ย. ดำเนินรายการโดย “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 17.20 น. ทางช่อง 28 ได้เชิญเจ้าตัวมาสัมภาษณ์ เป็นใครมาจากไหน และมาตกเป็นข่าวอื้อฉาวได้อย่างไร ก่อนหน้านี้ทำไมไม่ออกมาเคลียร์
เคนพอร์ชคืออะไร?
“ความจริงผมชื่อเคนเฉยๆ ครับ ชื่อพอร์ชมาจากวันแรกที่ผมไปเดินแบบ มีคนชื่อเคนซ้ำกัน 5 คน ช่วงนั้นผมตัวใหญ่กว่านี้เยอะมาก คนเลยทักว่าเหมือนคุณพอร์ช ศรัณย์หรือเปล่าก็ไม่รู้ เขาเลยบอกว่าชื่อพอร์ชละกัน เรียกง่ายดี วันหลังมาเดินแบบก็ให้ใช้ชื่อนี้นะ เขาเรียกพอร์ชเฉยๆ แต่ประเด็นคือพอมีงาน เรียกพอร์ชมา แต่เพื่อนก็รู้จักในนามเคนพอร์ช ก็เลยไม่รู้จะทำยังไง ก็เลยต้องมาเป็นแบบนี้”
คุณเป็นไฮโซหรือเปล่า?
“ไม่ใช่ครับ ผมเป็นคนธรรมดานี่แหละครับ”
คำว่าไฮโซมาจากไหน?
“ไม่รู้เหมือนกัน”
สื่อเขียนเอง?
“ใช่ครับ ผมเป็นคนธรรมดา”
แต่คุณเป็นนักกีฬาฟันดาบทีมชาติไทย?
“ใช่ครับ ที่ใส่หน้ากากสีขาวๆ”
เข้าสู่วงการฟันดาบ ได้ยังไง?
“จริงๆ ผมเล่นกีฬามาตั้งแต่เด็กๆ เริ่มจากว่ายน้ำก่อน ตอนอนุบาล 2 แล้วพอเริ่มว่ายน้ำก็เริ่มไต่เต้าไปเรื่อยๆ เป็นระดับเยาวชน ตัวเล็กก็เลยเปลี่ยนไปเล่นตั้งแต่เทนนิส กอล์ฟ โปโลน้ำ แต่ท้ายที่สุดมาจบที่กีฬาฟันดาบพ่อแม่ผมไปรีเสิร์จมาว่ากีฬาชนิดนี้อาจจะมาในอนาคต และคนที่เล่นในประเทศไทยไม่ได้เยอะมาก เป็นตลาดที่กำลังจะเกิดใหม่ในช่วงนั้น”
ยากมั้ย?
“ยากมากครับ มันใช้สมาธิเยอะมาก เราพลาดไม่ได้ เราพลาดคือเสียแต้ม มันเร็ว เหมือนดาบเท่ากับปากกา เราต้องมองให้ทัน”
เป็นนักกีฬาฟันดาบทีมชาติไทย เข้ามาได้ยังไง?
“เขาจะจัดหาคน 10 คนที่มีคะแนนดีที่สุด เก่งที่สุดของประเทศ ใช้เวลา 3 เดือนในการคัด 10 คน ให้เข้ามาแข่งกันทุกวัน หาคนที่เก่งที่สุด 4 คนสุดท้ายของประเทศ แล้ว 4 คนนี้จะเป็นทีมชาติชุดใหญ่”
เคยได้รางวัล?
“ผมเคยได้เหรียญทองแดงซีเกมส์ที่อินโดนีเซีย ก็ชิงแชมป์ของประเทศไทยได้เหรียญทอง”
หลังจากนั้นคุณเข้ามาสู่วงการเดินแบบ หรือเดินแบบก่อนแล้วฟันดาบ?
“ผมฟันดาบก่อนครับ มีช่วงหนึ่งผมหยุดพักจากกีฬาฟันดาบ แล้วไม่ว่าจะด้วยเรื่องของกีฬานี้เป็นที่รู้จักน้อย สปอนเซอร์อาจไม่ค่อยมีมาก เรื่องงบในการส่งพวกผมไปแข่งต่างประเทศ ส่วนใหญ่พวกผมเองออกตังค์เพื่อส่งตัวเองไปแข่งเอง ผมมองหลายๆ อย่าง มันเหนื่อย เราก็หยุดสักช่วงหนึ่งล่ะกัน แล้วไปทำงานอย่างอื่นบ้าง”
แต่ไม่ได้ทิ้ง?
“ไม่ได้ทิ้งครับ มีหยุดซ้อมบ้างช่วงหนึ่ง มองว่าถ้ามีโอกาสได้ทำอะไรอย่างอื่นที่เป็นประสบการณ์ชีวิตมันก็โอเค ช่วงนั้นได้รู้จักเพื่อนคนหนึ่งที่เดินแบบอยู่ เขาก็พาผมไปรู้จักผู้ใหญ่ ให้มาลองเดินแบบ ส่วนสูงได้ ก็เลยหลุดเข้าไป”
คุณฟันดาบก็ใส่เสื้อธรรมดา แล้วมาถอดเสื้อทำไม?
“อันนี้ถ่ายแฟชั่นครับ(หัวเราะ)”
โชว์เก้งกวางหรือเปล่า?
“เปล่าครับ งานครับ อันนี้เป็นสินค้าอันหนึ่งที่เขาให้ผมถือ อันนี้เดินไปเดินมาก็ถ่ายสแนปไว้”
เอาแบบเคลียร์คัต รู้จักญาญ่ามั้ย?
“รู้จักครับ รู้จักผ่านสื่อนี่แหละครับ ผมก็เป็นคนหนึ่งที่เป็นแฟนคลับเขา”
รู้จักส่วนตัวมั้ย?
“ไม่รู้จักเป็นการส่วนตัว”
เรื่องเกิดขึ้นได้ยังไง?
“มันก็เกิดขึ้นจากในทวิตผมนี่แหละครับ มีการโพสต์ ผมก็ไม่ใช่คนมีชื่อเสียงขนาดนั้น ก็เป็นคนธรรมดาปุถุชนทั่วไป วันนั้นผมก็โพสต์ว่าณเดชน์ ญาญ่าเลิกกันแล้วหรือยัง ถ้าเลิกผมจะขอดูแลญาญ่าเองนะครับ ผมก็โพสต์แบบนี้ เป็นการโพสต์ล้อเล่น เราไม่ได้คิดอะไรมาก”
มีข่าวออกมาเหรอ?
“ตอนนั้นที่โพสต์ไม่ได้มีข่าวด้วยครับ ไม่รู้เกิดอะไรขึ้น ไม่รู้เพราะอะไรเหมือนกันถึงได้โพสต์ ไม่ได้ตั้งใจ”
คุณรู้มาก่อนว่าเขาระหองระแหงกันหรือเปล่า?
“เหมือนเคยได้ยินแต่นานมากแล้ว แต่ก็ด้วยอะไรสักอย่าง วันนั้นผมพิมพ์ขึ้นมา”
คุณเป็น FC ญาญ่า?
“ปกติก็ติดตามผลงานญาญ่า ชื่นชอบเขาอยู่แล้ว”
หลังจากนั้น เป็นข่าวมาได้ยังไง ไอจีคุณมีคนตามแค่พันคน?
“ใช่ครับ ข้อความนั้นคนทวิตต่อไม่มี มีคนไลก์ 2 คน ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน อีกวันหนึ่งที่ผมตื่นมาตอนเช้า มันขึ้นมาอยู่บนข่าว ในเพจเฟซบุ๊ก เพื่อนผมส่งมาว่าเกิดอะไรขึ้น ไปทำอะไรมาวะ ข่าวก็อบกว่าเป็นมือที่สามณเดชน์ ญาญ่า มีรูปผมแปะอยู่ตรงกลาง ตอนแรกผมงง ตกใจมาก”
ลำพังแค่นี้ไม่เท่าไหร่ หลังประเด็นคุณโพสต์ทวิตเตอร์ลงไป มีกระแสข่าวตามมา เขาอบกว่าคุณเองไปนั่งเฝ้าคุณญาญ่าที่กองถ่ายโฆษณาแห่งหนึ่ง เรื่องจริงมั้ย?
“ไม่จริงครับ ไม่เคยไปครับ”
งงมั้ยมีข่าวนี้มาได้ยังไง?
“งงครับ ผมไม่รู้ว่าเรื่องมันโยงประเด็นจนกลายเป็นเรื่องราวเรื่องใหญ่โตมาแบบนี้ได้ยังไง ผมงงครับ”
หลังจากนั้นแฟนคลับญาญ่าไปต่อว่าคุณ?
“ใช่ครับ โหย เข้ามาอินบ็อกซ์ในอินสตาแกรมบ้าง เข้ามาเม้นต์ในอินสตาแกรม บางคนก็ลงรูปแล้วแท็กมา ว่าผม ว่าบุพากรีผมบ้าง หลายสิ่งหลายอย่าง”
คุณโพสต์ว่าใจเย็นๆ?
“ใช่ ผมทำอะไรไม่ถูก ไม่รู้ว่าต้องทำยังไงต่อ ก็แค่ใจเย็นๆ กันก่อน อย่าเพิ่งมาด่าว่าผมเลย”
คิดมั้ยว่าเป็นเพราะความคะนองทำให้มีเรื่องเกิดขึ้น ทำให้ไปตอกย้ำความรู้สึกแฟนๆ?
“ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่อยากให้ดูที่เจตนาดีกว่า เจตนาจริงๆ ผมเชื่อว่าในประเทศนี้คนที่รู้จักญาญ่า 10 ล้านคนหรือคนทั่วโลก ก็อาจจะโพสต์คล้ายๆ กับสิ่งที่ผมเขียน แต่แจ็กพอตบังเอิ๊ญที่ขึ้นมาเป็นข่าวได้ ผมเลยอยากให้มองที่เจตนาของผมดีกว่า ผมไม่ได้มีเจตนาคิดร้าย อยากให้เกิดเรื่องแบบนี้”
แฟนคลับญาญ่า 10 ล้านคน คุณก็คือหนึ่งในนั้น?
“ถูกครับ ผมชื่นชอบในการแสดงครับ”
แอบชอบจริงๆ มั้ย?
“(หัวเราะ) เขาเป็นผู้หญิงน่ารัก ไม่ได้คิดอะไรเกินเลยกว่านั้น”
คุณปิดไอจีหนี หนีทำไม?
“ผมไม่ได้ปิดไอจีนะ แต่ผมเปลี่ยนเป็นไพรเวต เหมือนตั้งสติตัวเอง ปิดไพรเวตก่อน เพราะมีคนเข้ามาแสดงความเห็นต่างๆ นานา เยอะแยะมากมาย ให้เวลาตัวเองในการเป็นส่วนตัวนิดนึง เพราะบางคนก็ให้ความคิดเห็นที่ไม่โอเคสักเท่าไหร่ ผมปิดไพรเวตเพื่อตัวผมด้วย ผมไม่รู้ว่าผมจะเจอกับอะไร”
เกาะกระแสหรือเปล่า?
“ไม่เกาะครับ ไม่รู้ว่าจะเกาะกระแสทำไม”
คุณดูอึดอัดกับเรื่องนี้ เป็นเรื่องที่ทำลายชีวิตคุณมั้ย?
“ผมไม่คิดแบบนั้นนะ แต่เป็นเรื่องที่ทำให้ผมปวดหัวนิดหน่อย ผมเป็นห่วงความรู้สึกครอบครัวผมมากกว่า เขาไม่ได้เกี่ยวข้อง คนรอบข้างผมเขาเป็นห่วง หลายๆ อย่าง แต่คงไม่ใช่สิ่งที่ทำลายชีวิตผม ห่วงความรู้สึกคุณพ่อคุณแม่ที่ต้องมานั่งอ่านอะไรแบบนี้”
พ่อแม่ว่ายังไง?
“แม่ผมก็บอกว่าทำไมผมทำอย่างนั้น เขาก็เชื่อว่าผมเป็นมือที่สามเขาจริงๆ แม่บอกทำไมทำตัวแบบนั้นทำตัวไม่ดีเลย ผมก็บอกว่าโห แม่ครับ พ่อไม่ได้พูดอะไรมาก บอกให้ตั้งสติดีๆ”
ส่วนแรก เป็นเรื่องคึกคะนองของเขาเอง อีกเรื่องคือข่าวที่บอกว่าคุณมานั่งเฝ้าที่กองโฆษณา?
“ผมก็ตามไม่ทันครับ ไม่รู้ว่ามาจากไหนบ้าง มันเยอะ”
ญาญ่าบอกว่าแอบเบื่อกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะคุณไม่มีการออกมาพูดตั้งแต่แรก ทำไมต้องทิ้งช่วงเวลา ออกอีเวนต์ครั้งแรกไม่ให้สัมภาษณ์สื่อ แต่อ้างว่าไปสัมอีเวนต์หน้าแล้วกัน คนเลยมองว่าต้องการเงินจากอีเวนต์หรือเปล่า ยิ่งทำให้ญาญ่าเสื่อมเสียหรือเปล่า ทำไมไม่ออกมาพูดให้ชัดเจน?
“คือในตอนที่เขาติดต่อมา งานวันที่ 1 เม.ย. เขาไม่ได้บอกผมว่าจะให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับเรื่องคุณญาญ่า ผมตกลงจะให้สัมภาษณ์เรื่องนี้เฉพาะวันที่ 4 เม.ย. เท่านั้น ผมไม่ได้มีเจตนาแบบนั้นอยู่แล้ว”
คือคุณไปรับปากงานวันที่ 4 เมษา?
“ครับ ผมก็กลัวเสียผู้ใหญ่ กลัวเสียงาน ผมรับปากไปแล้วด้วย ผมก็ต้องทำให้ได้”
ทำไมนักข่าวมาขอสัมภาษณ์คุณ มีใครให้คุณสัมภาษณ์หรือเปล่า?
“อันนี้ผมไม่มั่นใจเหมือนกันว่าใครไปพูด ที่บอกว่าผู้จัดการส่วนตัว จริงๆ ผมไม่มี ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน ว่าใครพูด”
คุณรับปากจะพูดวันที่ 4 ไม่ช้าไปเหรอ คุณญาญ่าออกมาพูดแล้ว?
“ผมก็คิดเหมือนกันว่ามันจะช้าไปหรือเปล่า ก็ต้องขอโทษด้วย ที่ผมทำให้ทุกอย่างมันล่าช้า ต้องโทษที่ตัวผม ที่ทำให้ทุกอย่างมันช้าเอง”
วันนี้วันที่ 3 ยังไม่ถึงวันที่ 4 ทำไมออกมาพูดก่อน?
“ผมรู้สึกว่าที่นี่ ที่ช่อง 3 เป็นบ้านคุณญาญ่า ผมแสดงความบริสุทธิ์ใจ เจตนาของผมเพื่อมาขอโทษจริงๆ มาขอโทษถึงบ้าน มาที่นี่เหมาะสมที่สุดแล้ว”
คุณอยากบอกอะไรญาญ่า?
“ก็ต้องขอโทษด้วยนะครับ ผมไม่คิดว่าการมโนของผม หรือการโพสต์เล่นๆ ขำๆ ของผมจะไปทำให้ทางคุณญาญ่ามีปัญหา หรือเสียหายอะไร ผมไม่มีเจตนาอย่างนั้นจริงๆ ก็ฝากเตือนคนอื่นด้วย ให้ผมเป็นอุทาหรณ์ล่ะกัน เพราะไม่รู้ว่าอะไรจะตามมา ตัวผมเองก็เก็บไว้เป็นบทเรียนแล้วกันครับ”
ในมุมสื่อที่มองมุมลบคุณจะบอกเขายังไง รวมถึงแฟนคลับคุณญาญ่า?
“อย่างแรก ขอบคุณสื่อแล้วกันครับ ที่อุตส่าห์ให้ความใส่ใจในตัวผม ไม่ว่าประเด็นไหนก็ตาม เรื่องที่ผมออกมาให้สัมภาษณ์ช้า อาจมีเหตุผลบางประการที่ทำให้ไม่ถูกใจ ก็ต้องขอโทษพี่ๆ ทุกคนด้วย รวมถึงแฟนคลับ ก็ไม่ได้มีเจตนาอะไรร้ายแรง ที่จะให้เกิดเป็นเรื่องแบบนี้ ก็ต้องขอโทษทุกคนด้วยครับ”
ถือว่าเป็นบทเรียน?
“ครับผม เข็ดครับ”