แค่หัวโขน “เจ๊ฉอด” ปัดถูกแกรมมี่สั่งปลด เพราะกลุ่มสิริวัฒนภักดี ชี้แค่ถอยออกมา-ขยับบทบาท รับ “อากู๋” บอกอย่ายึดติด ถึงวันหนึ่งไม่อยู่คนก็รู้ว่าใครสร้าง บอกขำๆ อย่ามาดรามา ฉันไม่ได้เล่นคลับฟรายเดย์ โวหลังมีข่าวถูกปลดถูกทาบร่วมงานอื้อ เข้าใจ “ต๊ะ นารากร” แพร่กระจายข่าวตามสัญชาตญาณนักข่าว
จากกรณีข่าวชวนช็อก “ฉอด สายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา” ถูกปลดสายฟ้าฟาด จากการกุมบังเหียน GMM25 และ เอ-ไทม์ จนสร้างความตกอกตกใจแก่แฟนคลับ มีการวิพากษ์วิจารณ์เป็นจำนวนมากในโลกโซเชียล ล่าสุดฉอด ควง “เอส วรฤทธิ์ ไวยเจียรนัย” เปิดใจถึงกระแสร้อนดังกล่าว ในงานบวงสรวงละคร 2 เรื่อง “เงา” และ “ทีมล่าทรชน” บริเวณลานหน้าตึก GMM Grammy Place อโศก โดยเผยว่าแค่ขยับบทบาทหน้าที่ ไม่ได้ออก เผย “อากู๋ ไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม” บอกอย่ายึดติด
“ยังอยู่ค่ะ โชคดีจริงๆ หลังจากเป็นข่าวมีกำลังใจมาให้มากมาย และอีกอย่างมีคนอยากได้ตัวไปทำงานเยอะมาก พอมีข่าวว่าเราจะไปจากตึกแกรมมี่ก็มีคนมาเสนองานให้เยอะมาก ขอบคุณนะคะวันหลังจะไปรับใช้ทุกคนเลย”
“จริงๆ เราจะมีการปรับเรื่องโครงสร้าง เนื่องจากจะมีกลุ่มผู้เข้ามาถือหุ้นได้เข้ามาคุยกันเรื่องการปรับโครงสร้างต่างๆ ส่วนตัวเราในช่วงหลังใช้เวลากับงานโอเปอเรชั่นเยอะมาก คือต้องทำงานบริหารช่อง ขณะเดียวกันเราตระหนักว่าความสำคัญที่สุดของธุรกิจบันเทิงในวันนี้คือเรื่องของคอนเทนต์ ในขณะที่ช่องและแพลตฟอร์มต่างๆ มีมากมาย ความสำคัญที่สุดอยู่ที่การทำคอนเทนต์ แล้วค่อยไปสู่แพลตฟอร์มต่างๆ ไม่ได้เป็นเพียงแค่ไปอยู่ช่องใดช่องหนึ่งเท่านั้น วันนี้บทบาทหน้าที่ที่สำคัญที่สุดของเราที่ได้รับมอบหมาย อย่างไปคิดเรื่องตำแหน่ง มันเป็นเรื่องหัวโขน แต่ภาระหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบจริงๆ คือเรื่องบริหารจัดการคอนเทนต์ดีๆ ในทุกๆ รูปแบบ มันเป็นเรื่องบริษัทระหว่างที่กำลังทำงานอยู่ ยังไม่ได้บอกใครๆ แต่ก็มีข่าวออกมาก่อน จึงต้องออกมาตอบ”
“ส่วนที่ว่าโดนปลดต่างๆ นานา ตอนนี้โดยตำแหน่งที่ได้รับมาสำหรับ จีเอ็มเอ็ม แชนแนล เทรดดิ้ง ซึ่งเป็น Holding company มีแกรมมี่ถือหุ้น 50 เปอร์เซ็นต์ และทางกลุ่มสิริวัฒนภักดีอีก 50 เปอร์เซ็นต์ จะมีคุณไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม เป็นประธานกรรรมการ และมีคุณฐาปน สิริวัฒนภักดี เป็นประธานกรรมการบริหาร ตอนนี้ตำแหน่งเราเป็นรองประธานกรรมการ นั่นก็คือเป็นรองจากคุณไพบูลย์ จะคอยดูแลในเรื่องของส่วนดูแลต่างๆ มากขึ้น นี่แหละค่ะคือสิ่งที่พยายามปรับปรุงกันไป ด้านภาระเรื่องคอนเทนต์ในแง่ของละครและรายการ เป็นสิ่งที่ต้องหาวิธีพัฒนาและสร้างคอนเทนต์ให้ได้มากที่สุด”
สมควรแก่เวลาต้องถอย อยากให้น้องๆ ได้เติบโต
“ตอนนี้จีเอ็มเอ็มมีเดียและเอไทม์มีน้องๆ ที่เป็นคนเก่าคนแก่ทำงานกันมาเยอะและแข็งแรงกันหมดแล้ว เราก็รู้สึกว่ามันสมควรแก่เวลาที่ตัวเองต้องถอยออกมา น้องๆ จะได้เติบโต ถ้าเรายังอยู่น้องเขาก็ยังจะไม่โตกันสักที จริงๆ คนทำงานยังเหมือนเดิมทุกประการ ไม่ได้มีการขยับปรับเปลี่ยนกันไปไหน มีเราคนเดียวที่ถอยออกมา”
“เรื่องข่าวถูกปลดฟ้าผ่าอันนี้เราไม่ทราบจริงๆ อาจจะเริ่มมีคนโพสต์ไปต่างๆ เราก็ไม่ทราบ ถ้าถามว่าตกใจมั้ย ก็ไม่ได้ตกใจอะไร เพราะอยู่ตรงนี้มานาน มีข่าวสารอะไรแบบนี้อยู่ตลอด พอเป็นข่าวมันเลยกลายเป็นข่าวใหญ่”
แพลนละครทั้งหมดจะทำถึงสิ้นปี ปีหน้าจะมีผลงานใหม่ๆ เปิดใจ “เอส วรฤทธิ์” ไม่ได้ถูกปลด
“เราว่าจะแขวนหรือไม่แขวนต้องรอดูที่ผลงานนะ เรื่องแบบนี้พูดไปก็ไม่รู้จริงเท็จเป็นยังไง ถ้าเราโดนแขวนจริงๆ ก็คงนั่งอยู่เฉยๆ ไม่มีงานออกมา เดี๋ยวคอยดูว่าจะมีงานออกมาเยอะ รวมถึงงานละครตอนสองทุ่มยี่สิบก็ยังทำปกติ งานเดิมๆ ที่ทำอยู่ก็ยังทำต่อไป ส่วนข่าวที่ว่าคุณเอสก็โดนปลดไปเหมือนกัน เขาโดนข่าวโดนปลดไปก่อนเราอีก แต่เขาก็ยังทำละครต่อไป (มีข่าวว่าจะทำละครแค่ถึงสิ้นปี?) คำว่าทำแค่สิ้นปีนี้หมายถึงว่าละครเดิมที่แพลนไว้ทั้งหมดก็ยังทำไปถึงสิ้นปี ขณะเดียวกันหน้าที่ของเราคือการสร้างงานใหม่ๆ ออกมาสำหรับงานปีหน้า ส่วนพี่เล็ก บุษบารักษาการแทนนั้น พี่เล็กเป็นซีอีโอกลางอยู่แล้ว พอเราถอยออกมาตรงนี้ปุ๊บ พี่เล็กก็ต้องรักษาการโดยอัตโนมัติตามตำแหน่งอยู่แล้ว”
ไม่กดดัน ย้ำการทำงานไม่ได้ขึ้นกับคนใดคนหนึ่ง
“ในแง่การทำงานจีเอ็มเอ็มยี่สิบห้าไม่ได้เกิดจากใครคนใดคนหนึ่ง แต่ต้องมาจากบอร์ดที่ประชุม ซึ่งพี่ก็ยังนั่งอยู่ในบอร์ดอยู่ รวมทั้งกลุ่มสิริวัฒนภักดีที่มานั่งอยู่ในบอร์ดด้วย เราบริหารงานแบบมืออาชีพ เพราะเรามีเป้าหมายที่จะไปต่อเยอะ”
“ส่วนเรื่องความกดดันในการทำงานมันเกิดขึ้นมานานแล้ว เพราะเราต้องทำงานกันแบบแข็งแรงมากๆ เพราะธุรกิจตรงนี้จะเห็นว่ามีการแข่งขันต่อสู้กันสูง เพราะฉะนั้นไม่ได้กดดันแค่การขยับตำแหน่ง จะเห็นว่าในแกรมมี่มีการขยับเคลื่อนย้ายเป็นข่าวบ้าง ไม่เป็นข่าวบ้าง แต่พอดีกรณีเราดันเป็นข่าวขึ้นมา”
“อากู๋” เตือนอย่ายึดติด ยอมรับนั่งตำแหน่งผู้บริหารเอไทม์มา 20 ปี ถึงไม่อยู่ ทุกคนก็รู้ว่าใครสร้าง
“ที่คุยกับคุณไพบูลย์ จริงๆ แล้วมันไม่มีอะไรที่เป็นของเราด้วยการผูกติดไปตลอดชีวิต พี่ฉอดเป็นคนสร้างเอไทม์ ทำกรีนเวฟ และทำคลับฟรายเดย์มา ทุกคนก็รู้ว่าเราเป็นคนเริ่มต้น แต่ส่วนการทำงานต่อไปมันอยู่กับเราไม่ได้ ถ้าเราตายไปแล้วกรีนเวฟ เอไทม์ต้องตายตามเหรอ มันไม่ได้ค่ะ มันต้องมีคนรับช่วงต่ออยู่แล้ว แต่ทุกคนก็จำได้ว่าพี่สร้างขึ้นมา การทำงานจึงต้องเดินหน้าต่อไป เราก็ยังอยู่ในตึก น้องๆ ปรึกษาได้ตลอดไม่ได้ไปไหน ยังคอยช่วยเหลือกัน”
บอกขำๆ อย่าดรามาใส่ ฉันไม่ได้เล่นคลับฟรายเดย์ ย้ำถูกปรับตำแหน่งไม่ได้เกี่ยวกับกลุ่มสิริวัฒนภักดีแน่นอน
“ถามว่าผูกพัน อาลัยอาวรณ์มั้ย หนูอย่ามาดรามาใส่สิ อย่างที่บอกเราไม่ได้ไปไหน ถ้าสมมุติวันนี้เราเดินออกไป เราคงเสียดาย เสียใจ แต่เราไม่ได้ไปไหน อย่ามาดรามาใส่ฉัน (หัวเราะ) ฉันไม่ได้เล่นคลับฟรายเดย์”
“ที่บอกว่าเปลี่ยนเพราะปัญหาเรื่องเรตติ้ง จริงๆ มันมีมาตลอดอยู่แล้ว เราเป็นช่องเล็กเรตติ้งเลยอาจจะไม่ได้สูง แต่เราสร้างกระแสมาตลอด มีคนรู้จัก GMM25 รู้จักงานของเราแล้ว มันเป็นคนละเรื่องกับเรตติ้ง เราเชื่อว่าไม่มีใครหรอกที่สร้างเรตติ้งได้ภายในเวลาอันรวดเร็ว มันเป็นธุรกิจที่ต้องใช้เวลา ซึ่งตรงนี้ต้องขอยืนยันว่าทางกลุ่มของสิริวัฒนภักดีที่เข้ามาน่ารักมากๆ เพราะมันก็มีข่าวออกไปว่าเข้ามาทำให้เราต้องมีข่าวแบบนี้ ต้องเรียนว่าไม่มีอะไรเลย ทางคุณหนุ่ม ฐาปน ไม่ได้เข้ามาสร้างแรงกดดันใดๆ ทั้งสิ้น เราต้องทำงานด้วยกัน พี่ก็ต้องรับนโยบายจากคุณหนุ่มและคุณไพบูลย์คนละครึ่งอยู่แล้ว”
เข้าใจ “ต๊ะ นารากร” แพร่กระจายข่าวตามสัญชาตญาณนักข่าว
“เราไม่รู้จริงๆ ไม่มีอะไรจะฝากบอกเขาหรอกค่ะ พี่ต๊ะเขาเป็นนักข่าว แน่นอนว่าพอเขารู้ข่าวอะไรด้วยสัญชาตญาณของความเป็นนักข่าวก็คงต้องแพร่กระจายอะไรไปเป็นเรื่องปกติ แต่เราไม่ได้รู้สึกอะไร ขอบคุณจริงๆ ค่ะที่ทุกคนเป็นห่วง”
“เรื่อง GMM 25 ขายหุ้นเพิ่มก็ไม่ค่ะ ไม่มีอะไรเคลื่อนไหวใดๆ ทั้งสิ้น ทุกอย่างยังเป็น 50:50 ในส่วนของพนักงานก็ยังเหมือนเดิม ยังไม่เห็นใครขยับไปไหนเพิ่มเติม มีแค่เราที่เปลี่ยนบทบาทรับผิดชอบนิดหน่อย แต่ทุกอย่างเหมือนเดิม สบายใจกันนะคะ ขอบคุณทุกคนที่เป็นห่วงค่ะ ถ้าไปไหนจริงๆ จะบอกทุกคนค่ะ (ยิ้ม)”
(ติดตามทุกข่าวสารในแวดวงบันเทิงทั้งหมดได้ที่ https://mgronline.com/entertainment)