“ชมพู่ อารยา” ปรี๊ดแตก ถูกกล่าวหาน้ำหนักขึ้น 20 กิโลก่อนขายกางเกงลดน้ำหนัก ซัดกางเกงบ้าอะไรใส่แล้วน้ำหนักลดได้ ถึงจะเป็นบุคคลสาธารณะ แต่มีมูลค่า อย่าฉวยโอกาส ฉะคนค้าขายต้องมีจริยธรรม เวรกรรมมีจริง แจงไม่โผล่ร่วมงาน 48 ปี เพราะป่วย และไม่มีละครกับช่อง 3 ในปีนี้ ไม่เกี่ยวหมดสัญญา ยันไม่ได้อยู่ด้วยกันเพราะกระดาษใบเดียว เปิดใจกรณีถูกตั้งกระทู้เป็นซุป’ตาร์ได้สิทธิพิเศษผ่าน ตม. ไม่ถูกขั้นตอน บอกขำๆ เรื่องนี้ไม่ซีเรียส เซ็งน้อยกว่าถูกอ้างชื่อขายกางเกงลดน้ำหนัก
กลับมาจากต่างประเทศไม่ทันไร ก็มีเรื่องให้คุณแม่ลูกแฝดอย่าง “ชมพู่ อารยา เอ ฮาร์เก็ต” ชี้แจงเป็นหางว่าวเลยทีเดียว เริ่มกันที่เรื่องที่ทำให้คุณแม่ออกอาการปรี๊ดแตกเมื่อโดนแอบอ้างชื่อ เพื่อนำไปขายกางเกงลดน้ำหนัก หลังจากที่ให้ผู้จัดการส่วนตัวโพสต์แหกกลางไอจีไปแล้วล่าสุดก็ยังไม่ได้รับการติดต่อใดๆ กลับมา รวมถึงกรณีที่ถูกจับตาว่าในงานครบรอบ 48 ปีช่อง 3 ไร้เงาชมพู่ร่วมงาน และกรณีที่มีกระทู้ที่อ้างว่าได้รับสิทธิพิเศษผ่านเข้า ตม. ไม่ถูกขั้นตอน เรื่องนี้ชมพู่ ขอชี้แจงรวดเดียว จบ
“เรื่องที่ถูกแอบอ้างขายกางเกงลดน้ำ บ้ง (ยิ้ม) จริงๆ คนแรกที่ส่งให้ชมดูคือเทรนเนอร์ เขาเห็นแล้วคงโมโหแทนเพราะเขาเป็นคนสอนเราเอง ชมเลยส่งให้ผู้จัดการดู ตอนแรกเลยคือยังเก็บไว้ในโทรศัพท์นะคะ ยังไม่โพสต์ เอาจริงๆ เราเจอแบบนี้ค่อนข้างเยอะนะคะ ถ้าถามว่าเหนื่อยกับการตามเอาเรื่องเอาราวมั้ย ก็เหนื่อยเหมือนกันเพราะเรายังมีเรื่องอื่นที่ทำอีกเยอะ แต่มันน่าโมโห เราก็ไม่อยากให้คนอื่นถูกหลอก เอาเป็นว่าชมขอไม่พูดก็แล้วกันว่าชมจะทำอะไร เดี๋ยวรอดู ถามว่ามีคนหลงเชื่อบ้างมั้ย ไม่รู้เหมือนกัน แต่เห็นผู้จัดการบอกว่ายังเห็นคนไปคอมเมนต์สั่งซื้ออยู่นะ กางเกงบ้าอะไรใส่แล้วน้ำหนักลด”
ลั่นบางคนอาจมองว่าไม่เสียหาความเสียหาย แต่ตนคิดว่ามันเป็นการฉวยโอกาส
“มันก็คือการแอบอ้าง ต้องเข้าใจว่าเราก็คือบุคคลสาธารณะ ถ้าพูดกันตามหลักเชิงพาณิชย์เลยก็คือเรามีมูลค่านะ เราสร้างตัวเรามาก็เหมือนเป็นแบรนด์หนึ่ง เราออกกำลังกายมาเพื่อให้ร่างกายเรากลับมาฟิต เฟิร์ม และแข็งแรงเหมือนเดิม แต่ไม่ใช่เพื่อให้คุณมาฉกฉวยผลประโยชน์ทางการค้าของคุณ ถ้าคุณอยากเอาไปใช้ให้คุณติดต่อเรามาให้เป็นเรื่องเป็นราวแบบมืออาชีพ ไม่ใช่แบบนี้ ถามว่าเสียหายมั้ย บางคนอาจจะมองว่าไม่เสียหาย แต่ถ้าคุณมองในเรื่องของธุรกิจมันก็ไม่ใช่เพราะนี่คือการฉวยโอกาส”
“ตอนนี้ยังไม่มีใครติดต่อค่ะ ชมคิดว่าเขาคงจะได้เห็นข่าวบ้างแหละมั้ง ไม่รู้เหมือนกัน เรื่องนี้ชมคงให้คนอื่นตามให้ ชมขอพูดแบบรวมๆ ถึงคนที่ชอบฉวยโอกาสแล้วกันนะคะ การที่จะทำธุรกิจในแบบที่ไม่ซื่อตรงและโปร่งใสมันก็จะประเดี๋ยวประด๋าว หรือต่อให้คุณได้แบบเป็นกอบเป็นกำเรื่องของเวรกรรมมันก็มีจริง ชมเชื่อเรื่องของการทำธุรกิจที่ต้องมีจริยธรรมด้วย และที่โกรธก็คือที่บอกตรงขึ้น 20 กิโลกรัมนี่แหละค่ะ (หัวเราะ)”
แจงไม่ได้ไปร่วมงานฉลอง 48 ปี ของช่อง 3 เพราะป่วย และปีนี้ไม่มีผลงานกับทางช่อง คุยกับผู้ใหญ่เข้าใจกันเรียบร้อย ยันไม่ได้อยู่กับช่อง 3 เพราะกระดาษใบเดียว
“เพราะป่วยมากค่ะ อีกอย่างเลยคือเพราะปีนี้ชมไม่ได้มีละครด้วยก็ได้แจ้งกับทางผู้ใหญ่ไว้แล้ว ส่วนที่คนจับตาเรื่องเพราะชมหมดสัญญากับทางช่องแล้วหรือเปล่านั้น เอาจริงๆ ตัวชมยังไม่รู้เลยว่าหมดสัญญากับทางช่องเมื่อไหร่ เพราะเราไม่ได้โฟกัสตรงนั้นมากกว่า ถ้าว่างหรือสะดวกเราก็เข้าไป เราไม่ได้อยู่เพราะกระดาษใบเดียว ชมว่าชมก็อยู่แบบนี้ไปเรื่อยๆ เราสะดวกแบบนี้ อีกอย่างชีวิตเราก็ผ่านอะไรมาเยอะแยะ ไม่ได้ต้องมานั่งนับว่าเหลืออีกกี่วันต้องทำงานเท่านั้นเท่านี้”
“เท่าที่เคยๆ คุยกันไว้คือทางช่อง3 ค่อนข้างจะสบายมาก ต่อให้เซ็นจริงๆ ก็ไม่ได้ถึงกับมีข้อห้ามอะไรมาก เพราะผู้ใหญ่ค่อนข้างเปิดให้เด็กแต่ละคนอยู่แล้ว อยู่ที่ว่าใครจะสะดวกหรือสบายใจแบบนั้น อย่างที่เซ็นไปตอนนั้นในสัญญาก็ไม่ได้บังคับว่าชมต้องทำเท่านั้นเท่านี้ เพราะทางผู้ใหญ่ก็เข้าใจว่าเรามีครอบครัว หากบทได้และเวลาตรงกันชมก็เล่น ก่อนจะจบคิวปิดก็มีคุยกับผู้จัดไว้บ้างว่าถ้าเราพร้อมก็อยากให้กลับมา ตอนนี้ตัวชมเองก็ยังบอกเวลาที่แน่นอนไม่ได้ แต่ถ้าถามมีคุยไว้บ้างมั้ย ก็มีค่ะ”
อยากพักจนกว่าลูกอายุครบ 1 ปี รับคิดถึงกองถ่าย แต่ไม่อยากพลาด ช่วงเวลาที่สำคัญของลูก
“ความตั้งใจของชมคือขวบปีแรกของลูก ตอนนี้ก็ผ่านมา 6 เดือนแล้ว เหลืออีก 6 เดือนต้องรอดูกันอีกทีว่าอะไรลงตัวมั้ย ถามว่าคิดถึงงานมั้ยก็คิดถึงค่ะ บางทีเปิดดูไอจีเห็นคนโพสต์อยู่กองถ่ายที่เราคุ้นเคยก็คิดถึง แต่ช่วงเวลานี้ก็เป็นช่วงเวลาที่สำคัญของลูกเหมือนกัน ซึ่งตัวเราเองก็ไม่อยากพลาด เพราะละครมันเอาเวลาของเราไปเยอะจริงๆ อย่างบางเรื่องต้องถ่ายเป็นปี ถ่ายแต่เช้าจนค่ำ ทำให้ไม่ได้เจอหน้าลูก อีกอย่างเด็กวัยนี้เขาเปลี่ยนทุกวัน ช่วงนี้เลยสำคัญค่ะ”
โต้กระทู้แฉซุป’ตาร์เพิ่งกลับจากต่างประเทศ ผ่าน ตม. ไม่ถูกขั้นตอน ไม่โดนเรียกตรวจ อีกทั้งยังมีคนล้อมหน้าล้อมหลัง เหมือนใช้สิทธิพิเศษ ยันเรื่องนี้เซ็งน้อยกว่าเรื่องกางเกงลดน้ำหนัก
“ขอแจงเรื่องตรวจก่อนแล้วกันนะ จริงๆ เรื่องตรวจชมก็เคยโดนนะ แต่ชมว่ามันเป็นเรื่องของการสุ่ม อยู่ที่ดวง ตาดีได้ตาร้ายเสีย ไม่ใช่ว่าไม่เคยโดน ชมเคยโดนเหมือนกัน แต่ถ้าอย่างไฟลต์ล่าสุดที่เพิ่งเดินทางกลับมาก็ไม่ได้มีอะไรมากเลย มีแค่เจ้าหน้าที่การบินไทยมาช่วยเข็นเท่านั้นเอง มันเป็นบริการของเขาตามมาตรฐาน โดนจับตาแบบนี้ถามว่าเกร็งมั้ย ก็เข้าใจแหละ อันนี้ยังเซ็งน้อยกว่ากางเกงเลย (ยิ้ม)”
“ชมก็เคยโดน ที่เป็นข่าวก็เคยมีนะ การทำงานของเจ้าหน้าที่เขาทำงานโดยการสุ่ม จะมีโดนบ้าง ไม่โดนบ้าง ซึ่งเที่ยวนี้เขาอาจจะเห็นว่าเดินทางกับเด็ก ค้นไปก็อาจจะไม่เจออะไร อาจจะเจอกะละมัง เครื่องนึ่ง ที่ปั๊มนมอะไรแบบนี้มากกว่า”
(ติดตามทุกข่าวสารในแวดวงบันเทิงทั้งหมดได้ที่ https://mgronline.com/entertainment)