สทศ. เร่งหาตัวคนโพสต์ข้อสอบภาษาอังกฤษ “โอเน็ต” ในกรุ๊ปไลน์ปิด KMITL ชี้ชัดทำผิดกฎ เอาโทรศัพท์มือถือเข้าห้องสอบ เผย พอรู้หน้าตาคนโพสต์แล้ว ก่อนเร่งหาเป็นนักเรียน ครู หรือบุคคลทั่วไป ชมคนแจ้ง สทศ. มีความตระหนักพร้อมเล็งให้คะแนนฟรี 1 ข้อวิชาสังคม หากข้อสอบกำกวมจริง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 4 มี.ค. 2561 มีผู้ตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ว่า สอบโอเน็ต เอามือถือเข้าได้ด้วยเหรอ ทำไมคนนี้ถ่ายข้อสอบออกมาได้? #ONET โดยได้โพสต์ภาพการส่งข้อสอบการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน หรือ โอเน็ต ในกรุ๊ปไลน์ ซึ่งระบุว่า ได้พบเจอมาจากทวิตเตอร์ ซึ่งเจ้าของทวิตเตอร์ที่โพสต์เรื่องดังกล่าวได้เข้ามาชี้แจงว่า มีคนแชร์รูปกระดาษข้อสอบส่งมาในกลุ่มไลน์ตอนทุ่มกว่าๆ หลังจากสอบโอเน็ตวิชาภาษาอังกฤษเสร็จแล้ว ไม่ใช่กลุ่มลอกข้อสอบอย่างที่ใครหลายคนคิด โดยได้แจ้งเรื่องไปถึงสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.) แล้ว เนื่องจากเป็นการกระทำผิดกฎ
วันนี้ (5 มี.ค.) ดร.สัมพันธ์ พันธุ์พฤกษ์ ผู้อำนวยการสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ สทศ. กล่าวว่า จากการตรวจสอบข้อมูล พบว่า เป็นข้อสอบวิชาภาษาอังกฤษ ที่จัดสอบเมื่อวันที่ 3 มี.ค. 2561 ในช่วงเวลา 14.30 - 16.30 น. แต่มีการโพสต์ภาพดังกล่าวเวลา 19.40 น. เมื่อสืบข้อมูลจากผู้แจ้งเบาะแสทำให้ทราบว่า ข้อสอบภาษาอังกฤษถูกนำมาโพสต์ลงในกรุ๊ปไลน์แบบปิด ชื่อกลุ่ม KMITL ซึ่งมีผู้อยู่ในกลุ่มประมาณ 700 คน โดยเริ่มมีการทยอยออกจากกลุ่มบ้างแล้ว เพราะรู้ว่ามีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมเกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม แม้จะโพสต์หลังการสอบได้เสร็จสิ้น แต่ก็ถือว่ามีความผิด เนื่องจากมีการนำโทรศัพท์เข้าไปในห้องสอบ ถือว่าผิดระเบียบในการสอบ แต่ยังไม่ทราบว่าใครทำ หรือทำไปเพื่ออะไร ซึ่งเรื่องนี้ต้องมีการตรวจสอบ หากใครมีเบาะแสก็สามารถแจ้งมาที่ สทศ. ได้ ส่วนคนที่โพสต์แจ้ง สทศ. ต้องชื่นชมว่า มีความตระหนัก และเห็นว่าเป็นสิ่งไม่ถูกต้อง
“สทศ. วางแนวทางการตรวจสอบ 3 กลุ่ม แบ่งเป็น ตัวนักเรียนผู้สอบ และ ผู้คุมสอบ และบุคคลทั่วไป เนื่องจากเป็นข้อมูลทางไลน์แบบปิด ทำให้ไม่ทราบตัวบุคคลที่แน่ชัด จึงได้ส่งเรื่องไปยังสนามสอบโอเน็ตทั่วประเทศในระดับมหาวิทยาลัยทั้ง 18 แห่ง และ 394 สนามสอบ เพื่อขอข้อมูลความผิดปกติ ว่า มีการพบเห็นหรือไม่ และทีมงาน สทศ. จะติดตามตัวสมาชิกในกรุ๊ปนี้ ซึ่งขณะนี้ได้ข้อมูลเกี่ยวกับตัวผู้โพสต์บ้างแล้ว เช่น รูปหน้าของผู้โพสต์” ดร.สัมพันธ์ กล่าว
ดร.สัมพันธ์ กล่าวว่า กรณีดังกล่าวเป็นความผิดส่วนบุคคล ไม่จำเป็นต้องมีการสอบใหม่อย่างที่กังวลกัน ส่วนบทลงโทษจะเป็นอย่างไร ได้ให้ทีมงานติดตามตัวผู้โพสต์โดยเร็วแล้ว เพื่อนำเข้าที่ประชุมบอร์ด สทศ. ในการพิจารณาความผิด ซึ่งโทษที่จะได้รับกรณีนักเรียนเป็นผู้โพสต์ มีตั้งแต่ไม่ประกาศผลคะแนนสอบในวิชานั้น หรือรวมไปถึง 5 วิชาที่มีการสอบทั้งหมด หรือมีการแจ้งชื่อไปยังโรงเรียนต้นสังกัด ให้พิจาณาโทษทางวินัย หรือการส่งชื่อไปยังสถาบันอุดมศึกษา เพื่อประกอบการพิจารณาเข้าศึกษาต่อ และหากก่อให้เกิดความเสื่อมเสียกับ สทศ. อาจพิจารณาฟ้องร้องหรือดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนกรณีผู้คุมสอบจะมีการรายงานเรื่องดังกล่าวไปยังหน่วยงานต้นสังกัดเพื่อลงโทษทางวินัย และหากก่อให้เกิดความเสื่อมเสียกับ สทศ. ก็อาจมีการพิจารณาฟ้องร้องหรือดำเนินคดีตามกฎหมายเช่นกัน ส่วนบุคคลทั่วไปจะมีการพิจารณาดำเนินคดี เพราะตามปกติหลังเสร็จสิ้นการสอบ สทศ.จะมีการเผยแพร่ข้อสอบโอเน็ตอยู่แล้ว และทำเช่นนี้มาแล้วติดต่อกัน 3 ปี
ดร.สัมพันธ์ กล่าวว่า ในการคุมสอบมีความรัดกุม กำหนดให้ใช้ผู้คุมสอบ 2 คนต่อนักเรียน 30 คน เรื่องนี้จึงถือว่าเป็นเรื่องและการกระทำผิดของรายบุคคล เป็นการฝ่าฝืนระเบียบข้อห้ามที่มีการประกาศหน้าห้องสอบ ทั้งเรื่องการเน้นย้ำอนุญาตให้นำเฉพาะปากกา ดินสอสองบีขึ้นไป กบเหลาดินสอ ยางลบ เข้าห้องสอบได้เท่านั้น โดยห้ามนำกล่องใส่อุปกรณ์เข้าห้องสอบ ห้ามนำกระดาษใดๆ วิทยุติดตามตัวโทรศัพท์มือถือ อุปกรณ์ติดต่อสื่อสารใดๆ อุปกรณ์ที่สามารถบันทึกภาพ หรือเสียงได้ พจนานุกรมอิเล็กทรอนิกส์ อุปกรณ์ช่วยคิดคำนวณ นาฬิกาที่ใช้คำนวณได้ และหากเกิดการสูญเสียจะไม่รับผิดชอบใดๆ ทั้งสิ้น
ส่วนกรณีมีผู้ร้องให้ สทศ. ให้คะแนนฟรีวิชา 1 ข้อในการสอบวิชาสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม เนื่องจากข้อสอบกำกวม โดยถามว่าบุคคลใดห้ามบวชเด็ดขาด โดยคำตอบมีเคยบวชเป็นพระแต่เสพเมถุนจนถูกจับสึก (ปาราชิก) ยากจนบริขารไม่ครบ เป็นเอดส์ ฆ่าคนหนีคดีมาบวช ซึ่งน่าจะถูกทุกข้อนั้น ดร.สัมพันธ์ กล่าวว่า ขอตรวจสอบข้อมูลก่อน เพราะปกติหลังสอบเสร็จ จะมีคณะกรรมการที่มาดูเรื่องเฉลยข้อสอบอีกครั้ง ทั้งนี้ หากข้อสอบมีปัญหาจริงต้องยกประโยชน์ให้เด็กแน่นอน