อวสานต่อผู้ไม่มีอินสตาแกรม “ต่อ ธนภพ” รับคาดไม่ถึงจะเป็นวาระแห่งชาติ คนแห่ฟอลโลว์ 5 แสนในวันเดียว ทั้งที่รูปแรกลงไปมั่วๆ ลั่นมาอย่างสันติ สิ่งที่จะเห็นจากนี้คือชีวิต
กลายเป็นวาระแห่งชาติที่แม้แต่นักแสดงในวงการบันเทิงยังตื่นเต้น หลังจากที่ “ต่อ ธนภพ ลีรัตนขจร” ปิดตำนานต่อผู้ไม่มีอินสตาแกรม เปิดไอจีเป็นครั้งแรก ซึ่งแฟนๆ แห่ไปฟอลโลว์กันถล่มทลายเพียงแค่วันเดียวปาเข้าไป 5 แสน ซึ่งล่าสุดเจ้าตัวมาชี้แจงในงานเปิดตัว “OPPO R9s Special Red Edition” และซีรี่ส์ “My Secret Friend ปิ้งรัก...นายอายนะ” ณ โรงภาพยนตร์พารากอนซีนีเพล็กซ์ ศูนย์การค้าสยามพารากอน รับคาดไม่ถึงทุกคนจะติดตามเยอะขนาดนี้
“ก็ดีครับ อบอุ่นดีครับ ถือว่าเหมือนมีคนอ้าแขนต้อนรับเข้าสู่โลกที่เรียกว่าโซเชียลเน็ตเวิร์กครับ เอาจริงๆ ความรู้สึกหลักคือที่ผ่านมาเราไม่อยากมีเป็นของตัวเอง แต่เมื่อวันหนึ่งพอเราอยากมีของตัวเองแล้ว ผมว่ามันตอบโจทย์สำหรับเรา ถามว่าคิดอยู่นานมั้ย เอาจริงๆ เมื่อก่อนผมมีหลายอย่าง เช่น เวลาทำงาน ผมจะคอนเซ็นเทรดมาก และเราเรียนคณะที่เรียนหนักมาก จริงๆ ผมมองว่าโซเชียลเน็ตเวิร์กเป็นเหมือนอีกโลกหนึ่งเลย เหมือนโลกอีกใบหนึ่งที่ทุกคนมีตัวตนของตัวเอง เรารู้สึกว่าเรายังไม่สามารถดูแลอะไรได้ขนาดนั้น ก็เลยรู้สึกว่าเรายังไม่มีของตัวเองหรอก”
“แต่พอวันนี้เรียนจบ เราเมเนจอะไรต่างๆ ได้ดีขึ้น และ 4 ปีที่ผ่านมาผมเก็บรูปไว้เยอะมาก ผมเก็บรูปทุกงาน ทุกความสัมพันธ์กับเพื่อนๆ นักแสดง มันมีรูปเยอะมาก เอาจริงๆ พอมันหลายปีมากๆ ผมมีความรู้สึกว่าอยากให้คนเห็นจัง ก็เลยเริ่มคิดๆ ดู เริ่มตั้งขึ้นมา”
“ตอนแรกสมัครก่อนแล้วล็อกชื่อไว้ไม่ให้ใครขโมยและปิดไว้เป็นส่วนตัวเพื่อที่จะทบทวนตัวเองอีกรอบหนึ่งว่าเราอยากมีจริงๆ ใช่มั้ย จนสุดท้ายก็รู้สึกว่าอยากมีจริงๆ ก็เปิดเลย ก็ใช้เวลาก่อนหน้าเมื่อวานนี้ประมาณอาทิตย์หนึ่งครับ เราอยากมั่นใจว่าเราอยากมีจริงหรือเปล่า ผมเคยคุยกับพี่ย้ง (ผกก.) หลายรอบเรื่องโซเชียลเน็ตเวิร์ก พี่ย้งบอกว่าเขาไม่ติดเลยกับการที่ผมไม่มี แต่ถ้าจะมีให้ถามตัวเองดีๆ ว่า อยากมีจริงๆ มั้ย เพราะสุดท้ายมันคือตัวตนเรา ความสุขเรา ถ้าเราอยากมีแปลว่าเราอยากมีจริงๆ เราถึงจะมีได้และดูแลมันได้”
“ไม่ได้กดดันว่าต้องมีเลยนะครับ เพราะสุดท้ายแล้วมันก็เหมือนมีความอันตราย โซเชียลมันเป็นดาบสองคม เวลาเราโพสต์อะไรอย่างหนึ่ง ทุกตัวอักษรที่พิมพ์มีค่าหมดครับ สุดท้ายทุกคนเป็นกำลังสำคัญในงานๆ หนึ่ง ผมว่าบางครั้งเราสู้กันมากี่เดือน แล้วอีกนิดเดียวที่แบบเฮ้ย เราขอกำลังของนายหน่อยได้มั้ย กับการที่นายโพสต์แล้วทำให้ทุกคนจะเฮ้ย อันนี้มันตอบโจทย์เรากับคนที่อยู่ไกล ตอบโจทย์ที่สุดคือคนที่ไม่สามารถตามเราตามงานได้”
คาดไม่ถึงคนติดตาม 5 แสนคนแล้ว บอกทุกคนขอให้ใจเย็นๆ อย่าน้อยใจ ถ้ายังไม่ได้ฟอลโลว์ใคร
“เอาจริงๆ ผมก็ไม่ได้คิดขนาดนั้นเพราะรูปแรกที่ผมลงเป็นรูปที่ผมกำลังเดินๆ ถ่ายแล้วก็ลงเลย มั่วๆ เลย มันก็ตกใจ เพราะจริงๆ ผมคิดว่าทุกคนก็อาจจะลืมไปแล้วกับเรื่องนี้ ผมไม่ได้คิดว่าเป็นเรื่องใหญ่และสำคัญขนาดนั้นเพราะมันเป็นสิ่งที่ทุกคนมีอยู่แล้ว เลยไม่ได้คิดถึงเลย ขอบคุณทุกคนมากๆ ที่เข้ามาติดตาม มันมีหลายคนที่ยังน้อยใจว่าผมยังไม่ได้ฟอลโลว์ ใจเย็นๆ ผมพยายามหาชื่อทุกคนอยู่ แล้วผมก็ยุ่งมาก ผมพยายามพิมพ์อยู่ ใจเย็นๆ”
“ที่กลายเป็นวาระแห่งชาติคือผมมองว่าทุกคนหวังดีแหละ เพราะที่ผ่านมาผมไม่มีแล้วแฟนคลับทำให้และมีหลายบ้านมาก แล้วก็มีของปลอมเยอะมาก เพราะฉะนั้นการที่ผมมีเป็นของตัวเอง สิ่งที่ทุกคนช่วยมันเป็นความหวังดีว่ามันต้องมีตัวตนขึ้นมาที่จับต้องได้ ต้องทำให้เห็นว่าอันนี้คือของจริงๆ ที่เป็นตัวผมครับ”
“เรื่องคนจะเข้ามาคอมเมนต์ทั้งดีและไม่ดี มันมีตั้งแต่ผมเริ่มทำงานแล้วครับ มันมีตั้งแต่แรก ผมเคยพูดเรื่องนี้ไปแล้วว่าผมไม่สามารถทำให้ทุกคนรักผมได้ สิ่งที่ผมทำทุกวันนี้ผมแค่พยายามทำให้ทุกอย่างโอเคที่สุด และเคารพการตัดสินใจของทุกคน”
“เอาจริงๆ ผมยังไม่ได้อ่านเลย เดี๋ยวผมจะอ่านนะครับ แต่โอเคถือว่าเราไม่ได้ซีเรียสเรื่องนั้น เพราะเรารู้ว่าบางครั้งเขาอาจจะไม่ได้เกลียดเราก็ได้ ถ้าเกิดเราเป็นที่ระบายของเขาได้ ไม่รู้เลย อะไรก็ได้แล้วแต่ แต่คิดว่าคนไทยก็รักกันครับ”
ตอบไม่ถูกจะรับมือดรามาได้หรือไม่ บอกทุกคนผมมาอย่างสันติ อยากให้สนุก
“เดี๋ยวถ้ามันเกิดขึ้นผมจะตอบนะ เอาเป็นว่าตอบว่ายังรับมือไม่ถูกเหมือนกัน หมายถึงว่ายังไม่รู้ครับ คงมีแค่อันนี้ ถือว่าผมมาอย่างสันติ ก็สันติกับผมแล้วกัน (ยิ้ม) สนุกไปด้วยกันครับ ทุกคนจะได้เห็นตัวตนผมในแบบที่ปกติทุกคนไม่เคยเห็นครับ เรื่องดรามาไม่รู้จะพูดยังไงเลย เพราะถ้าเขาอยากพิมพ์ก็พิมพ์ ก็เต็มที่นะครับแต่สันตินะครับ ก็คงลงรูปไลฟ์สไตล์ ผมรู้ว่ามีทั้งคนชอบและไม่ชอบ แต่สิ่งที่คุณกำลังจะเห็นต่อจากนี้มันคือชีวิตผมครับ”