“เอ๋ มณีรัตน์” เผยเซ็นเอกสารก่อนเข้าคลาส “ครูอ้อย” แต่ไม่ทราบว่าจะนำภาพไปใช้โปรโมต บอกต้องออกมาชี้แจง เพราะกระทบความรู้สึกครอบครัว ไม่อยากตอบคำถามในเรื่องที่ผ่านมาแล้ว กร้าวถ้านำกลับไปวนใช้อีกจะดำเนินการตามกฎหมาย เผยความต้องการไม่ตรงกัน ชอบชีวิตปัจจุบัน พอใจสิ่งที่มี
นักแสดงชื่อดัง “เอ๋ มณีรัตน์ คำอ้วน” เพิ่งออกมาโพสต์ฉะ “ครูอ้อย ฐิตินาถ ณ พัทลุง” ผู้เชี่ยวชาญการสอนด้านจิตใต้สำนึกชื่อดัง และผู้เขียนหนังสือที่ขายดี “เข็มทิศชีวิต” กรณีนำภาพมาใช้ในการโปรโมตคอร์สการอบรมในหลักสูตรของครูอ้อยจนทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์เป็นจำนวนมาก ด้านครูอ้อยก็โพสต์ประกาศว่าเอ๋เป็นคนเซ็นยินยอมเอง ลิขสิทธิ์ภาพเป็นของตนอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ล่าสุด นักแสดงสาวมาร่วมงานประกาศรางวัลคมชัดลึก อวอร์ด ครั้งที่ 14 ที่หอประชุมใหญ่ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย รับแค่อยากชี้แจงเพราะมีคนเข้าใจผิดและสอบถามกันเข้ามาเยอะ
“ใครที่เห็นเอ๋จากตรงนี้ คอร์สนี้ หรือสื่อใดๆ จากที่นี่ นั่นมันนานมากแล้วนะคะ แต่ก็ยังมีการเอามาใช้วนเวียนจนถึงปัจจุบัน และก็ไม่ได้มีใครบอกว่าจะเอามาใช้ในการโปรโมตนะคะ เอ๋ไม่ได้ไปมาประมาณเกือบ 3 ปีแล้วค่ะ เพราะแนวทางไม่ตรงกัน และเอ๋ไม่อยากตอบคำถามในสิ่งที่ผ่านมานานแล้ว”
“คือ เอ๋ได้ชี้แจงไปในเฟซบุ๊กแล้วค่ะ เอ๋ไม่อยากตอบปัญหา ตอบคำถามในสิ่งที่มันผ่านมานานแล้ว และเอ๋ก็ไม่ได้ไปนานแล้วด้วย เอ๋แค่อยากจะชี้แจงให้ทุกคนรู้ว่าเอ๋ไม่ได้ไปนานแล้ว และเรื่องนี้มันนานแล้ว ซึ่งเขาก็ยังมีการเอารูปไปวนใช้อยู่ ณ ปัจจุบัน เราได้ทำการร้องขอไปแล้ว ก็ยังมีการใช้อยู่ แต่ตอนนี้ทางเขาได้ดำเนินการไปส่วนหนึ่งแล้วค่ะ”
โยนให้ถาม “ครูอ้อย” ทำไมไม่เอาภาพออก แต่บอกก่อนเข้าคลาสทุกคนต้องเซ็นเอกสาร
“ข้อมูลนี้เอ๋ว่าน่าจะไปถามทางเขาดีกว่าค่ะ เพราะอันนี้เอ๋ไม่รู้จริงๆ เอ๋ไม่ได้รับคำตอบ แต่ว่าก่อนเข้าคลาสทุกคนได้เซ็นเอกสาร ก่อนเข้าคลาสทุกคนค่ะ เราก็คุยกับเขาให้เอาออกมาสักพักหนึ่งนะคะ ที่ออกมาโพสต์เพราะเอ๋อยากจะบอกทุกคนว่าเอ๋ไม่ได้ไปแล้ว และเรื่องนี้มันนานมากๆ แล้วค่ะ เกือบ 3 ปีแล้วค่ะ”
สารภาพเคยไปเข้าคอร์ส แต่ความต้องการไม่ตรงกัน ยันชอบชีวิตปัจจุบัน พอใจสิ่งที่มี
“ถามว่าบ่อยมั้ย เป็นช่วงดีกว่าค่ะ เราไม่ได้ไปอีกเพราะว่าคนละแนวทางกันค่ะ เหมือนที่บางคนชอบกาแฟ บางคนชอบโกโก้อย่างนี้ค่ะ บางคนอาจจะเห็นว่าโกโก้เป็นทางที่เขาชอบ แต่อาจจะไม่ได้ชอบโกโก้อย่างนี้ค่ะ คือ เอ๋ชอบในสิ่ง ณ ปัจจุบันค่ะ เอ๋พอใจในสิ่งที่เป็นอยู่ เอ๋โอเค มีเงินใช้น้อยก็ใช้ ใช้มากก็ใช้พอดีตัว อาจจะเป็นความต้องการของแต่ละคนมันไม่ตรงกันเนอะ และความต้องการของแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน มันก็แล้วแต่คนชอบ ไม่ได้บอกว่าดีหรือไม่ดี เอ๋ไม่ได้ตัดสินใครว่าถูกหรือไม่ถูก เพราะฉะนั้นมันคนชอบแบบไหน จะถูกกับแบบไหน”
“ซึ่งก่อนที่จะเข้าคลาส ทุกคนต้องมีการเซ็นเอกสารทุกคนค่ะ แล้วเอ๋ก็ไม่ทราบว่าเขาจะเอาภาพไปเผยแพร่โฆษณา หรือโปรโมต เราไปเพราะมีเพื่อนชวนไปค่ะ แต่ตอนนี้เพื่อนไม่ได้ไปแล้วค่ะ และมันไม่ได้เกี่ยวกันค่ะ สิ่งที่เอ๋รู้สึกกับสิ่งที่เอ๋เข้าใจ และเอ๋เลือกเองมันเป็นเพราะตัวเอ๋เองไม่ได้เกี่ยวกับใคร เพราะว่าเอ๋โตแล้ว เอ๋เลือกแนวทางของเอ๋ได้”
เซ็งจัดไม่อยากตอบคำถามอีก กระทบความรู้สึกครอบครัว
“อย่างที่บอก เอ๋ไม่ได้ตัดสินว่ามันดีหรือไม่ดี แล้วแต่คนชอบจริงๆ อันนี้เอ๋บอกไม่ได้ว่าส่วนตัวเอ๋แนวทางไม่ตรงกันแค่นั้นเอง และมันผ่านมานานแล้ว เอ๋ไม่อยากตอบคำถามในสิ่งที่ผ่านมานานแล้ว เอ๋อยากจะบอกในพื้นที่ของเอ๋ให้ทุกคนรับรู้แค่นั้นเองค่ะ ว่าเอ๋ไม่ได้ไปแล้ว และเรื่องมันนานมากแล้วจริง ที่ตัดสินใจโพสต์เพราะช่วงนี้มีคนถามถึงเยอะเหมือนกัน เอ๋เลยไม่อยากตอบคำถามในสิ่งที่มันผ่านมานานแล้ว พยายามตอบคำถามทีละคนๆ เอ๋ก็เลยประกาศในพื้นที่ของเรา ทีเดียวเลยดีกว่า มันก็มีผลกระทบความรู้สึกต่อครอบครัวด้วยค่ะ แต่ว่าทั้งนี้ทั้งนั้นตอนนี้ได้รับการดำเนินการบางส่วนแล้ว ถ้าหลังจากนี้มีอะไรเพิ่มเติม ก็คงจะต้องเป็นฝ่ายทางกฎหมายทั้งสองฝั่งคุยกันดีกว่า”
รับอีกฝ่ายยังไม่เคลียร์ให้ทั้งหมด แค่จัดการให้บางส่วน ถ้ามีอะไรเพิ่มเติมอีกต้องดำเนินการตามกฎหมาย
“ใช่ค่ะ เขาจัดการให้แค่บางส่วนเท่านั้น ณ ตอนนี้ ถ้ามีอะไรเพิ่มเติมก็คงต้องเป็นทางฝ่ายกฎหมายที่คุยกันดีกว่านะคะ ซึ่งหลังจากเอ๋โพสต์ไป เขาก็ยังมาคอมเมนต์ใต้รูปเอ๋ ไปอ่านในเฟซบุ๊กเลยค่ะ เอ๋ได้พูดในพื้นที่ของเอ๋ไปหมดแล้วค่ะ ชัดเจนแล้ว ขอให้เข้าไปดูในเฟซบุ๊กดีกว่าเพราะได้ชี้แจงไปเรียบร้อยแล้ว เอ๋ยังหวังว่าทุกอย่างจะจบด้วยดีค่ะ แต่ถ้ามีอะไรเพิ่มเติมหลังจากนี้ ให้ทางทีมกฎหมายคุยกันเองดีกว่าค่ะ เอ๋แค่ต้องการบอกในพื้นที่ของเอ๋ และเอ๋ตอบความต้องการของตัวเองในเฟซบุ๊กไปหมดแล้ว”