ผู้จัดการรายวัน360- ที่ศูนย์บริการประชาชน สำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (ฝั่งก.พ.) นายณัฏฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ ตัวแทนเกษตรกรชาวสวนยางพารา 4 อำเภอ ได้แก่ อ.จะนะ เทพา นาทวี และสะบ้าย้อย จ.สงขลา ยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. เพื่อเสนอการแก้ไขปัญหาราคายางพาราอย่างยั่งยืน 7 ข้อ คือ
1. ให้รัฐบาลเปิดตลาดยางพาราเพิ่มขึ้นในต่างประเทศที่ต้องการใช้ยางพารา เช่น ยุโรป และร่วมมือกับพ่อค้าหรือผู้ประกอบการ เพื่อส่งออกไปในทิศทางเดียวกัน 2. รัฐบาลร่วมมือกับพ่อค้าหรือโรงงาน ส่งออกยางพาราไปในทิศทางเดียวกัน 3. รัฐบาลให้ข้อมูลเกษตรกรที่เป็นข้อเท็จจริงในระบบตลาดยางพาราโลก 4. ให้รัฐบาลสรรหาบุคลากรที่มีความรู้และเข้าใจเกี่ยวกับยางพารา มาบริหารงานในองค์กรยาง และต้องปฏิรูปองค์กรยางทั้งระบบ เนื่องจากองค์กรดังกล่าว ไม่ได้ช่วยเหลือเกษตรกรโดยตรง มีเพียงกรณีพันธุ์พืชเท่านั้น 5. ส่งเสริมแปรรูปผลิตภัณฑ์ยางพาราในประเทศเพิ่มขึ้น 6. นำผลงานวิจัยมาใช้ให้เป็นรูปธรรม และ 7. นำนโยบาย 4.0 มาใช้แก้ปัญหาทั้งระบบ
หากรัฐบาลดำเนินการตามข้อเสนอดังกล่าว โดยเฉพาะการเปิดตลาดเพิ่มเติมในต่างประเทศ เชื่อเกษตรกรจะยอมรับให้ราคายางพาราเป็นไปกลไกตลาด และหากเกิดปัญหาราคาตกต่ำ ก็จะไม่มีการเคลื่อนไหวอีก โดยขณะนี้ราคาน้ำยางสดอยู่ที่ 48 บาท ต่อกิโลกรัม ซึ่งยังคงต่ำกว่าต้นทุนการผลิต
1. ให้รัฐบาลเปิดตลาดยางพาราเพิ่มขึ้นในต่างประเทศที่ต้องการใช้ยางพารา เช่น ยุโรป และร่วมมือกับพ่อค้าหรือผู้ประกอบการ เพื่อส่งออกไปในทิศทางเดียวกัน 2. รัฐบาลร่วมมือกับพ่อค้าหรือโรงงาน ส่งออกยางพาราไปในทิศทางเดียวกัน 3. รัฐบาลให้ข้อมูลเกษตรกรที่เป็นข้อเท็จจริงในระบบตลาดยางพาราโลก 4. ให้รัฐบาลสรรหาบุคลากรที่มีความรู้และเข้าใจเกี่ยวกับยางพารา มาบริหารงานในองค์กรยาง และต้องปฏิรูปองค์กรยางทั้งระบบ เนื่องจากองค์กรดังกล่าว ไม่ได้ช่วยเหลือเกษตรกรโดยตรง มีเพียงกรณีพันธุ์พืชเท่านั้น 5. ส่งเสริมแปรรูปผลิตภัณฑ์ยางพาราในประเทศเพิ่มขึ้น 6. นำผลงานวิจัยมาใช้ให้เป็นรูปธรรม และ 7. นำนโยบาย 4.0 มาใช้แก้ปัญหาทั้งระบบ
หากรัฐบาลดำเนินการตามข้อเสนอดังกล่าว โดยเฉพาะการเปิดตลาดเพิ่มเติมในต่างประเทศ เชื่อเกษตรกรจะยอมรับให้ราคายางพาราเป็นไปกลไกตลาด และหากเกิดปัญหาราคาตกต่ำ ก็จะไม่มีการเคลื่อนไหวอีก โดยขณะนี้ราคาน้ำยางสดอยู่ที่ 48 บาท ต่อกิโลกรัม ซึ่งยังคงต่ำกว่าต้นทุนการผลิต
