ช็อกวงการ! ไฮโซวัย 70 “ซูซี่ หทัยเทพ” แม่ “ดอน ธีระธาดา” เปิดใจจบความสัมพันธ์สามีนักแสดงอายุห่าง 2 รอบ “ภูธฤทธิ์ พรหมบันดาล” เผยเหตุจับได้อดีตสามีเอาทรัพย์สิน ทั้ง แหวน สร้อยคอ ออกไปจากบ้าน อ้างให้แม่ใส่ แถมมีผู้หวังดีส่งข้อมูลอีกฝ่ายแอบไปมีหญิงอื่น
เป็นข่าวครึกโครมอีกครั้งหลัง “ซูซี่ หทัยเทพ ธีระธาดา” ไฮโซวัย 73 ปี ที่คร่ำหวอดในวงการแฟชั่นและวงการความงาม เปิดใจสาเหตุการยุติความสัมพันธ์กับอดีตแฟนหนุ่ม “คุณวิทย์” หรือ “ภูธฤทธิ์ พรหมบันดาล” แฟนหนุ่มที่อายุห่างกัน 24 ปี ถึงแม้ว่าจะกลับมาโสด แต่ความสวย รวย แซบยังเหมือนเดิมเลย ล่าสุด “ซูซี่ ธีระธาดา” ได้ออกมาเปิดใจในรายการ “วู้ดดี้ เกิดมาคุย” แบบหมดเปลือกถึงเรื่องราวชีวิตรักที่ไม่สมหวัง โดยเจ้าตัวเผยว่า ตอนนี้ตนเองรู้สึกสบายดี ไม่ว่าจะอยู่กับเขาหรือไม่อยู่กับเขา ในเมื่อใจเราเป็นสุข ทุกอย่างก็เป็นสุข
“ใจพี่ตอนนี้ก็สบายดี ไม่เคยมีเวลาไหนที่ไม่มีความสุข ไม่ว่าจะอยู่กับเขาหรือไม่อยู่กับเขา ในเมื่อใจเราเป็นสุข ทุกอย่างก็เป็นสุข เราเลิกกับเขาเมื่อเดือนตุลาคม 2558 ปีที่แล้ว ทำไมถึงตัดสินใจออกมาพูด ก็เพราะเวลา 1 ปี ที่เราไปเที่ยวหรือออกงานไหนโดยไม่มีเขา หรือเขาไปไหนโดยไม่มีเรา ทำให้หลายคนเกิดข้อสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น ก็เลยคิดว่าออกมาบอกความจริงดีกว่า”
“สาเหตุที่เลิกกัน เพราะเราเจอรูปและของบางอย่างหายไปจากบ้าน เราก็นึกเอะใจ มันหายไปไหนได้ยังไง โดยเฉพาะของที่เอาไปฝากลูกสะใภ้ และของบางอย่างที่เรากำลังจะเอาไปแต่งลูกชายคนโต ก็เลยถาม เขาบอกเขาไม่เห็น ก็เลยให้ดูรูปที่เราเห็นอยู่ ว่านี่คืออะไร เขาบอกว่าเอาไปให้คุณแม่ยืมใส่ ไม่ว่าจะเป็นแหวนเป็นสร้อยคอหรืออะไรก็ตาม และตั้งใจจะเอามาคืนอยู่แล้ว”
“และก็มีภาพที่ผู้หวังดีส่งมาให้ทางไลน์ เขาบอกว่าทำไมคุณเป็นผู้หญิงที่โง่ ดูคุณเป็นคนฉลาด เป็นคนสวย แต่คุณโง่นะ เขาบอกผู้ชายมีผู้หญิงอื่น ซึ่งเราก็ไม่ได้เอาเก็บมาเป็นความสงสัย เพราะเป็นคนไม่หูเบา แต่ถ้าจะรู้ต้องให้รู้จริง เราก็บอกคนที่หวังดีบอกขอบคุณที่ส่งข่าวมาให้ ถ้าเมื่อไหร่ที่เขามาบอกกับพี่เอง เมื่อนั้นพี่จะเชื่อ หรือไม่ถ้ามีหลักฐานให้เห็นทางผู้หวังดีเขาก็เลยส่งรูปมาให้ดู”
“โดยภาพดังกล่าว เป็นภาพที่ผู้หวังดีส่งมาให้ทางไลน์ ก็ยังสงสัยว่าเป็นครอบครัวของเขาเหรอ หรือครอบครัวของผู้หญิงคนนี้ที่ต้องการให้เรารับรู้ เพราะรูปพวกนี้ไม่ควรที่จะมีใครมี เพราะเป็นรูปที่ถ่ายอย่างส่วนตัวมากๆ”
ไม่เคยคิดจะรั้งเอาไว้ เพราะรู้ว่าตนเองไม่สามารถมีลูกสืบสกุลให้ได้
“วันนี้ถึงเขาจะมีครอบครัว เราก็แฮปปี เราถือว่าเราได้ทำให้คนที่เรารักได้มีครบทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิต ถามว่าพร้อมปล่อยมั้ย ก็พร้อมปล่อยค่ะ เพราะเขาดูแลเรามามากแล้ว แล้วชีวิตเราจะอยู่ได้อีกนานเท่าไหร่ เราเองคงไม่สามารถดูแลเขาได้เมื่อเขาแก่เฒ่า ฉะนั้น ก็ต้องมีคนที่เด็กกว่ามาดูแลเขา เหมือนอย่างที่เขาเคยดูแลเรา”
“ประโยคแรกที่พูดกับเขา คือ บอกว่าให้ไปลองใช้ชีวิตของตัวเอง ไปลองดูชีวิตเขาอาจจะมีความสุขมากกว่าอยู่กับเรา และอีกหนึ่งอย่างคือคุณให้ความหวังกับผู้หยิงเขาไปแล้ว ก็ต้องทำตามคำสัญญาแบบลูกผู้ชาย เขาก็งงที่เราพูดแบบนี้ แต่เขาก็เถียงไม่ออก เขาก็บอกว่าเดี๋ยวสักพักหนึ่งค่อยมาพูดกันใหม่ แต่เราก็ไม่ได้มาพูดกันใหม่ เราบอกเขาว่าเราตัดใจแล้ว เราไม่โกรธ”
“ร้องไห้มั้ยตอนเขาไป ไม่ร้อง เราจะร้องต่อเมื่อคนที่เรารักจากไปแบบที่เขารักเรา แต่เมื่อเขาจากไปแบบเขามีความสุข เราก็ต้องมีความสุข เราจะไปร้องไห้ทำไม (พร้อมจะเริ่มต้นใหม่ไหม) ถ้าเผื่อเจอคนที่ดี ก็คงอาจจะเริ่มต้นได้ เพราะชีวิตของคุณซูซี่ก็ยังคงความสดใสได้ ตอนนี้อายุก็ 73 ปีแล้ว”
บอกที่ออกมาพูดความจริง เชื่อฝ่ายชายก็แฮปปี
“เขาก็คงตกใจทำไมถึงมาเปิดเผย แต่ว่าคนเราไม่ควรที่จะปิด แล้วเราก็แฮปปีกับเขา ก็คิดว่าเขาต้องมีความสุข การที่เรามีครอบครัวอย่างครบถ้วนพ่อแม่ลูก เขาควรจะต้องมีความสุข เขาทนอยู่กับเรามานานแล้ว แต่คนเราไม่ได้รักแค่เพียงคนเดียว คนเรารักได้หลายครั้ง เมื่อก่อนเขาอาจจะรักพี่มากที่สุด แต่ตอนนี้เขาอาจจะรักคนอื่นมากกว่าที่รักพี่ อย่างพี่ก็รักมาแล้วหลายคน เพราะฉะนั้นเราถึงบอกว่าเราต้องแฟร์กับเขาไง พี่ยืนยันนะว่าเขารักพี่ไม่นั้นเขาจะทนอยู่ได้อย่างไรตั้ง 25 ปี”
สุดท้ายนี้ก็อยากฝากข้อคิดถึงผู้หญิงและผู้ชาย
“ก็อยากบอกกับผู้หญิงทุกคน เมื่อเรารักใคร เราต้องพยายามทำให้เขารักเรามากที่สุด แต่เมื่อถึงเวลาที่เขาจะไปอย่าโหยหา เพราะถ้าเผื่อเขาไปคุณยิ่งไปฉุดดึงเขาไว้ มารั้งไม่ได้หรอก เราต้องรั้งกันที่ใจ ถึงแม้เขาไปแบบยังห่วงใยเรา แล้วยังคิดถึงเราได้ นั้นคือความรักที่แท้จริง”
“สำหรับผู้ชายก็จะบอกว่า ให้สงสารผู้หญิงอย่าเที่ยวไปให้คำมั่นสัญญาต่อเขาที่ทำไม่ได้ ทำให้ได้ด้วยสัจจะของคำที่เป็นลูกผู้ชาย แล้วต้องเลี้ยงดูเขาให้ดีตลอดไปด้วย และเมื่อคุณมีลูกแล้ว ต้องรักลูกให้มาก อย่างให้ลูกมีความรู้สึกว่าขาดพ่อหรือขาดแม่”