“ทรูโฟร์ยู” ยันปีหน้ายังมีละครเหมือนเดิม ปัดทุ่มงบจนโอเวอร์ ชี้ อยากได้เรตติ้ง - สปอนเซอร์ แต่คุณภาพต้องมาก่อน ยังเน้นคอนเซ็ปต์เดิมละครต้องน้ำดีห้ามตบตี ไม่สนไม่ถูกใจตลาด ยอมรับต้องอดทน เหมือนน้ำซึมบ่อทราย เชื่อสักวันทุกคนจะต้องเปิดใจ
หลังจากเกิดความระส่ำระสายกับข่าวลือต่างๆ นานามาพักใหญ่ สำหรับช่องทีวีดิจิทัลน้องใหม่ “ทรูโฟร์ยู” ที่หลายคนคนมองว่าทั้งออกตัวแรงและเงินหนา ถึงขั้นควักเงินหลายล้านดูดคนดังมาเซ็นสัญญาที่ช่อง รวมไปถึงข่าวลือเรื่องละครต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นปัญหากลางกองละคร “เจ้าเวหา” เกี่ยวกับการจ่ายค่าตัวนักแสดงจนทำให้ต้องหยุดถ่ายทำทันที เท่านั้นยังไม่พอยังถูกมองว่าใช้งบประมาณในการทำละครแต่ละเรื่องสูงเกินไป
ล่าสุด ได้เจอบอสใหญ่อย่าง “เนตรชนก วิภาตะศิลปิน” กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทรูโฟร์ยู สเตชั่น จำกัด ได้เปิดใจถึงรายละเอียดของข่าวลือที่เกิดขึ้น พร้อมยืนยันว่า ปีหน้าทรูโฟร์ยูยังอยู่และเตรียมแถลงผังให้ทุกคนได้รู้ ยอมรับว่ายังคงคอนเซ็ปต์เดิมบันเทิงดี ละครต้องน้ำดี ห้ามมีตบตี แม้จะไม่ถูกใจตลาด แต่ก็ต้องอดทน สักวันคนจะเปิดใจรับ
“ทรูโฟร์ยูก็ยังจัดหนักจัดเต็ม เกี่ยวกับเรื่องกีฬาสด บันเทิงดี ถามว่า บันเทิงดีก็คือละคร ที่เราก็ยังคงทำต่อไป ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้ถ้าจะไม่มีละคร ข่าวที่ออกมาก็ไม่กระทบเพราะเราตั้งใจทำละครที่ดี และอย่างไรก็ยังมีละครให้ท่านผู้ชมติดตามเราต่อไป ถามว่าเรายังต้องการผู้จัดละครรายใหม่ๆ เข้ามามั้ย ก็ยังมีเข้ามาเสนอนะ”
บอกอยากได้เรตติ้ง-สปอนเซอร์แต่เป็นแค่เรื่องรองเพราะคุณภาพต้องมาก่อน
“จริงๆ แล้วคำว่าละครรอดหรือไม่รอด มันมีอยู่หลายประเด็น กับคำว่ารอดนั้นรอดด้วยในแง่ของสปอนเซอร์หรืออะไร เราไม่ได้เน้นในเรื่องของเรตติ้งหรือสปอนเซอร์ สมมติว่าเราทำละครเรื่องหนึ่ง เราจะเน้นที่ความดีและความที่มีคุณภาพ คนดูไปแล้วได้สิ่งที่ดีและเกิดประโยชน์ต่อสังคม ไม่มีแนวตบจูบแน่นอน เน้นแต่น้ำดี เรายังยึดถือการทำละครน้ำดี เพราะฉะนั้นในสิ่งที่เราทำ หลายคนอาจจะมองว่ามีรายได้จะเข้ามาบ้างมั้ย เรตติ้งจะดีมั้ย นั่นมันเป็นผลรองลงมา แต่ถ้าถามว่าเราอยากได้มั้ยเราอยากได้ ในแง่ของช่อง ทุกช่องอยากได้ แต่ว่าเราต้องการคำว่าคุณภาพมาอยู่เหนือสิ่งอื่นใด”
“เราเชื่อว่าสักวันหนึ่งคนจะเข้าใจ สิ่งที่ดีอย่างไรก็ตาม รวมไปถึงพาร์ตเนอร์ที่ดี หรือโปรดักซ์ที่ดีก็จะตามมา เป็นไปในลักษณะของการส่งเสริมที่ดี เราขอน้ำซึมบ่อทราย เราเชื่อว่าเราทำดี ทุกอย่างก็จะดีตามเราไปด้วย ถึงแม้ว่าน้ำซึมบ่อทราย ในช่วงแรกๆ มันยังไม่เต็มแน่นอน ช่วงแรกๆ ลำเค็ญแน่นอน แต่ว่าเราก็ยังยึดมั่นเรื่องนี้ เนื่องจากว่าเราเป็นช่องที่เสนอแต่สิ่งดีๆ ต่อคนดู และถามว่าปีกว่าๆ ที่ผ่านมายังเหนื่อยใช่มั้ย เราไม่เหนื่อยนะ (ยิ้ม) ทำดีต้องใช้เวลาเหมือนที่พระอาจารย์ ว.วชิรเมธี บอก”
ยันคุณภาพคอนเทนต์ต้องดี พลิกวิกฤตเป็นโอกาส ทำดีจนกว่าสังคมจะรู้
“เราคงไม่ได้บอกว่าเรามีเงินเยอะ แต่เราว่าเรามีความตั้งใจมากกว่าที่เราจะเสนอคอนเทนต์ที่ดี ขอเน้นคำนี้คุณภาพของคอนเทนต์ต้องดี เราถึงจะทำ ส่วนในแง่ของตลาดเราจะต้องพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส เราเชื่อว่าการที่เราจะสื่อให้สังคมรู้ พาร์ตเนอร์รู้ และวิธีที่เราจะพูดเรื่องคอนเทนต์ที่จะสามารถจับต้องคนดูในกลุ่มที่ใช่ ถ้าเรารู้ว่ากลุ่มที่ใช่คือกลุ่มไหน สปอนเซอร์เกิดขึ้นได้ เราเชื่อว่าพาร์ตเนอร์หลายพาร์ตเนอร์ อยากได้คอนเทนต์ที่ดีส่งเสริมคอนเทนต์ที่ดี ต้องใช้วิกฤตนี้ให้เป็นโอกาส คนที่ทำดีกว่าสังคมจะรู้ได้ ก็ต้องหมั่นทำดีไปเรื่อยๆ ถึงใช้เวลาก็ต้องอดทน”
โต้ทุ่มงบละครสูงเกินไป ยันสมเหตุสมผล ไม่เคยทำอะไรโอเวอร์
“ไม่หรอกนะ เราใช้มาตรฐานเดียวกัน มีความสมเหตุสมผล เราเน้นในเรื่องของโปรดักชั่น ถ้าเราเน้นในเรื่องของคุณภาพที่ออกมา บางฉากๆ ของคนอื่น อาจจะใช้ตัดชนตัดชน แต่เราไม่ใช่แบบนั้น การคอนทินิวเรื่องหรือการลำดับภาพของเรา เราถ่ายทุกอย่างคือความจริง ไม่อยากหลอกคนดู”
“ส่วนงบของละคร เราว่าให้มาตรฐานนะ คนทำดีก็ต้องได้ เราไม่เคยทำอะไรที่โอเวอร์นะ ในฐานะของคนที่ดูแลสถานีจะรู้ว่าอันไหนเวอร์ อันไหนไม่เวอร์ ทุกอย่างอยู่ในกรอบที่สมเหตุสมผล อย่างปีก่อนที่เราเคยตอบไปว่าทรูโฟร์ยูใช้เงินเวอร์มั้ย เราตอบได้คำเดียว ถ้าคนทำงานแล้วใช่ ถ้าคนมีของที่ดี มีความสามารถที่ดี เป็นสิ่งที่ดี เราจะไปเอามา เรียกว่าลองผิดลองถูกก็ใช่นะ ทุกอย่างมีผิดมีถูกเราก็ต้องเรียนรู้ไป”
คนที่เข้ามาเซ็นสัญญาต้องรู้ใจช่อง ต้องอดทนเป็นน้ำซึมบ่อทราย
“จริงๆ แล้วอย่างที่เราบอกว่า คนที่จะเข้ามาและทำงานร่วมกันไปตลอดด้วยใจที่ดี หนึ่งคือเรารู้ใจของเขา และเขารู้ใจของช่อง ถ้าต้องอยู่กันแบบว่าน้ำซึมบ่อทราย คุณก็ต้องอดทนในสิ่งนั้น แต่ก็ไม่อยากให้ใช้คำว่าอดทน แต่เรียกว่าให้รู้ว่าคาร์แรกเตอร์ของช่องเป็นแบบไหนดีกว่า อย่างที่บอกช่องเรา กีฬาสด บันเทิงดี ช่อง 24 ทรูโฟร์ยู”