“ณัฏฐ์ เทพหัสดิน” ยืนกรานไม่ได้แย่งแฟนเพื่อน เสียใจแตกหัก “เชน ณัฐวัฒน์” ทำตามความรู้สึกตัวเอง แต่ไม่อยากให้ใครไม่พอใจ บอกพร้อมอธิบายแต่อีกฝ่ายยังไม่พร้อมที่จะฟัง ด้าน “นาน่า” เป็นคนกลางลำบากใจ เชื่อเวลาจะเยียวยาทุกอย่าง ลั่นโตๆ กันแล้วอยากให้แฟร์ๆ กันทั้งสองฝ่าย
ออกมาเปิดใจกรณีที่มีข่าวว่า ฉก “นาน่า” แฟนเพื่อนสนิทไปเป็นแฟนตัวเองหน้าตาเฉย จนทำให้ “เชน ณัฐวัฒน์ เปล่งศิริวัธน์” โกรธจัด ประกาศตัดเพื่อน สำหรับ “ณัฏฐ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา” โดยเจ้าตัวเผยว่าเข้าใจที่อีกฝ่ายจะโกรธ เพราะเป็นเรื่องเซ้นซิทีป แต่อยากให้แฟร์ๆ กันทั้งสองฝ่าย และเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น
“ก็ปกติดีไม่มีอะไรพิเศษ คุยกันเรื่อยๆ ยังเป็นเพื่อนกันอยู่ เรื่องเชนไม่พอใจก็เข้าใจ (หัวเราะ) มันเป็นเรื่องเซ้นซิทีป เราไม่อยากพูดเยอะ เราไม่ได้รู้สึกโกรธอะไร ก็มีทั้งคนที่เข้าใจและไม่เข้าใจ ก็แล้วแต่วิจารณญาณของแต่ละคน มันไม่มีใครผิดใครถูก มันขึ้นอยู่กับความพอใจของแต่ละคนมากกว่า มันเป็นไปไม่ได้ว่าจะทำให้ใครพอใจ 100 เปอร์เซ็นต์ บางทีเราก็ต้องทำตามความต้องการของตัวเองแต่เราก็ไม่อยากให้ใครไม่พอใจเรา บางทีเราก็ห้ามไม่ได้ แต่ในเมื่อมันเกิดเรื่องขึ้นแล้วเราก็รู้สึกเสียใจ ผมเชื่อว่าเวลาจะเยียวยาทุกอย่าง เราโตๆ กันแล้วทุกอย่างมีเหตุผล ไม่ใช่เด็กๆ จะไปทำอะไรให้เขาไม่พอใจ”
“ถึงเวลาเดี๋ยวก็คุยกันเอง เราก็ยังเป็นเพื่อนกัน ผมก็ยังรู้สึกว่าเขาเป็นเพื่อนอยู่ ไม่ได้รู้สึกไม่ดีอะไร นาน่าเขาก็กำลังใจ เขาเป็นคนกลางคงลำบากใจ กลุ่มเพื่อนเราก็รู้จักกันหมดทั้งคู่ ไม่อยากให้ใครรู้สึกลำบากใจว่ามาเป็นเพื่อนเราแล้วต้องห้ามไปคุยกับคนนั้นคนนี้ ผมไม่เคยเป็นแบบนั้นเลยนะ ผมรู้สึกแฟร์ๆ เราโตๆ กันแล้ว”
ยันไม่ได้แย่ง “เชน” จะคบใครต้องดูตาม้าตาเรือด้วย
“ไม่ครับ (หัวเราะ) มันเริ่มต้นจากความเป็นเพื่อน เรารู้สึกดีกับใครเราก็ไม่ได้รู้สึก...เราก็ต้องดูตาม้าตาเรือด้วย ไม่ใช่อยู่ดีๆไปแย่ง แต่เรื่องสถานะบางทีมันอาจจะคาบเกี่ยวกัน ผมไม่พูดเยอะดีกว่า เพื่อนๆ ก็พยายามไม่พูดถึง เวลาร้อนอยู่พูดอะไรไปก็เข้าหูซ้ายทะลุหูขวา เลยอยากให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ทั้งหมด”
บอกไม่ถึงขนาดไม่มองหน้ากัน พร้อมอธิบายตลอดแต่อีกฝ่ายยังไม่พร้อมที่จะฟัง
“ไม่ถึงขนาดไม่มองหน้าครับ ยังเจอกันบ้าง แต่ก็ยังต้องใช้เวลา อย่างที่บอกเป็นผมก็ต้องรู้สึกเหมือนกัน ผมพูดนี่ผมก็เข้าใจเขาในมุมนี้ แต่เราก็มีเหตุผลของเรา เราไม่เร่งรีบเข้าใจว่าทุกอย่างมันมีเวลาของมัน ถึงเวลาเหมาะเมื่อไหร่เราก็พูดเอง”
“ผมพร้อมที่จะพูดตลอดแต่บางทีเขาก็ยังไม่พร้อมที่จะฟัง เราเองก็ไม่ได้เร่งรีบอะไร ถึงเวลาเหมาะสมเมื่อไหร่เดี๋ยวคงได้พูดเอง เดี๋ยวมันก็ได้เจอได้คุยกันเอง คนเราโกรธกันได้ไม่นานหรอกครับ มันเป็นเรื่องธรรมดาของผู้ชาย ก็ไม่ต้องคิดอะไรมาก นี่มันคือประเด็นที่เรารู้สึกว่ามันเป็นเรื่องใหญ่ในชีวิต เพราะว่าเขาก็คือเพื่อนคนหนึ่ง ใครมารู้สึกไม่ดีกับเราเราก็คงรู้สึกไม่ดีเหมือนกัน”
มองเป็นเรื่องขำๆ ในชีวิต เดี๋ยวก็ตายแล้ว
“ไม่ได้คบซ้อนแน่นอน ผมรู้สึกว่าผมให้เกียรติเพื่อนมากพอแต่ผมก็เข้าใจ อาจจะรู้สึกว่าคบแฟนเพื่อนไม่ได้นะ แต่ผมรู้สึกว่าแฟร์ๆ กันดีกว่า”
“ส่วนที่เขาตอบเรื่องนี้มีอารมณ์ ก็เป็นเรื่องธรรมดาของผู้ชาย ผมเข้าใจมาก ตอนนี้มองทุกเรื่องเป็นเรื่องขำๆ ชีวิตเราเดี๋ยวก็ตายแล้วอ่ะ ส่วนเราเข้าไปในช่วงเขาง้อกันหรือเปล่า เรื่องนี้ไม่ขอตอบเพราะไม่ทราบจริงๆ แต่เราไม่โกรธ”
“ถามว่าเสียดายมั้ย เราคือเพื่อนกัน ถามว่าเวลาที่มีเพื่อนคนหนึ่งที่เราสนิทแล้วเขารู้สึกไม่ดีกับเรา เราก็รู้สึกไม่ดีแต่ถามว่าทำอะไรได้มั้ยเราบังคับให้เขารู้สึกอย่างที่เราต้องการไม่ได้อยู่แล้ว เพราะฉะนั้นอย่างที่บอกคือต้องใช้เวลา สำหรับผมเขายังคงเป็นเพื่อนผมอยู่”
ไม่หวั่นลำบากใจ เผยเจอหน้าเชนได้ แต่อาจไม่ได้พูดอะไรกันมากเหมือนเดิม
“ไม่กลัวว่าคาราคาซังแล้วจะลำบากใจ มันไม่มีประเด็นอะไรแล้วจริงๆ เขาทั้งสองคนตอนนี้ก็ยังคุยกันอยู่ ผมคิดว่ามันไม่มีอะไรแล้วนะ มันเป็นแค่ช่วงเวลา ณ ตอนนั้นที่ทุกคนจับตามองแล้วมันก็เป็นเรื่องธรรมดาที่มันจะเป็นประเด็น ตอนนี้มันไม่มีอะไรจริงๆ ผมพูดตรงๆ ตอนนี้เขาก็ยังคุยกันเรื่องงานปกติ ไม่ได้มีอะไรกันแล้ว ไม่ได้มีความตึงเครียด ไม่มีความรู้สึกแบบนั้นแล้วจริงๆ บอกได้เลยเพราะว่าอย่างล่าสุดผมเจอเชนก็ไม่ได้มีอะไรกัน แต่เราอาจจะไม่ได้พูดอะไรกันมากเหมือนเมื่อก่อน แต่ก็โอเคยังทักทายกัน ผมไม่อยากให้มาคิดถึงประเด็นนี้แล้ว”