“ดร.โด่ง” ผู้บริหารช่อง 8 ออกโรงแก้ข่าวจก “ไนกี้” เด็กเอ็กแซ็กท์ ให้มาเซ็นสัญญากับช่อง 8 แต่ยอมรับมีการทาบทามยืมตัวมาเล่นละครให้ช่อง 8 เป็นสัญญาเรื่องต่อเรื่อง ถูกใจหน้าตาเหมาะกับบทในละคร เผย เหตุไม่เอานักแสดงในสังกัด เพราะมีแต่หน้าเดิมๆ อยากสร้างความแปลกใหม่ให้กับช่องบ้าง
มีอะไรให้ฮือฮาตลอดสำหรับช่อง 8 ล่าสุด ก็ตกเป็นข่าวว่าไปควัก “ไนกี้ นิธิดล ป้อมสุวรรณ” พระเอกช่องวันลูกหม้อเอ็กแซ็กท์มาเล่นละคร “เพลิงรักไฟมาร” แถมยังยื่นข้อเสนอพิเศษให้ข้ามห้วยมาอยู่ด้วยกัน ล่าสุด เจอ “ดร.โด่ง องอาจ สิงห์ลำพอ” ผู้บริหารช่อง 8 เจ้าตัวก็ยอมรับว่า ได้ทาบทามยืมตัวไนกี้มาเล่นให้ช่อง 8 จริง ส่วนเรื่องชวนให้ย้ายมาเซ็นสัญญาเป็นนักแสดงช่อง 8 เลยนั้นยังไม่เคยคิด
“ถามว่าจริงไหม ก็จริง คือ จริงๆ เรามองหานักแสดงทั่วๆ ไป พอดีน้อง เอ๊ะ (อิศริยา สายสนั่น) ผู้จัดละคร เขานำเสนอตัวละครมาค่อนข้างเยอะ นักแสดงของช่องเองไปเล่นในหลายๆ เรื่องแล้ว เราไม่อยากให้หน้าละครของเราในปีหน้ามันซ้ำซาก เลยบอกไปว่า เดี๋ยวลองดูว่าจะหานักแสดงใหม่ๆ เข้ามาได้ไหม แล้วพอดีว่าเราเคยดูละครที่ไนกี้เล่นก็สนใจ เพราะเขาเหมาะกับบุคลลิกในเรื่อง เราเลยให้ทีมไปคุยกับน้อง แล้วพอดีพี่ป้อน (นิพนธ์ ผิวเณร) ก็น่ารัก อนุญาตให้ไนกี้มาเล่นได้”
“แค่ยืมตัวมาครับ เขาไม่ได้มาเซ็นสัญญากับเรา ถามว่า มีขั้นตอนไปยืมตัวเขามายังไง (หัวเราะ) ขั้นตอนมันมีแค่ว่า เราอยากได้ตัวเขามาเล่นละครกับเรา แล้วก็ให้น้องในบริษัทติดต่อไนกี้ไป แล้วให้ไนกี้ไปคุยกับต้นสังกัดของเขาเอง แล้วต้นสังกัดจะสกรีนงานให้น้องในระดับหนึ่ง ขอดูบทละครก่อน เราก็ส่งให้ไปปกติ เท่าที่ทราบนะพี่ป้อนจะเป็นคนดูแลตรงนี้ และพี่ป้อนน่ารักกับเราตลอด อนุญาตให้น้องมาเล่น เราก็เซ็นสัญญาว่าจ้างเล่นละคร 1 เรื่อง เหมือนนักแสดงทั่วๆ ไป แต่ไม่ได้มาเซ็นสัญญาอยู่กับเรานะ ไปยืมตัวเขามาปกติ”
ยัน “ไนกี้” ไม่ได้ฉีกสัญญามาอยู่กับช่อง 8
“น้องหมดสัญญากับที่เดิมแล้วเหรอ เรื่องมาอยู่กับเราเลยยังไม่เคยคุยกับน้องเรื่องนี้ เรายังไม่ได้เจอตัวน้อง เอาเป็นว่าในมุมนั้น เราไม่ได้คิดเลยแล้วกัน เราแค่อยากให้เขามาแสดงร่วมกับช่อง และมองว่าหน้าตาเขาเหมาะกับเรื่อง แม่สื่อทีทำให้น้องได้มาร่วมงานกับเรา คือ เอ๊ะที่เป็นคนไปทาบทามน้องมา”
ไม่ได้มองว่าช่องวันเป็นคู่แข่งร้อยเปอร์เซ็นต์
“จริงๆ เราไม่ได้มองว่าเขาเป็นคู่แข่งร้อยเปอร์เซ็นต์หรอก เรามองแค่ว่าอันนี้เป็นงานที่ช่องอยากทำ เราอยากสร้างความแปลกใหม่ให้กับช่อง เราคิดแค่ว่าจะทำยังไงให้มีอะไรใหม่ๆ เพราะช่วงหลังๆ แฟนๆ ช่อง 8 ชอบบ่นว่า อยากเห็นคนโน้น อยากเห็นคนนี้เราเลยลองดู แต่ในมุมที่มองว่าจะเป็นคู่แข่งไหมในมุมของเรากับพี่ป้อนคือต่างคนต่างทำงานกันอยู่แล้ว ไม่ได้มีประเด็นเรื่องแบบนั้น และในธุรกิจเดียวกัน เรามองว่าถ้าทำให้ต่างคนต่างเดินหน้าได้มันก็ดี มีอะไรแปลกๆ ใหม่ๆ เพียงแต่ว่าทางโน้นไม่เคยมาขอนักแสดงเรา”
เผยเดี๋ยวมียืมตัวนักแสดงจากที่อื่นมาเล่นอีก
“ตอนที่ติดต่อยืมตัวไนก็ก็คาดหวังไว้นะ เพราะถ้าเราไม่คาดไว้เราไม่กล้าขอยืม เราเชื่อมากกว่าครึ่งว่าเราจะได้ตัวไนกี้มาเล่นให้เรา เราคิดว่าช่องนี้ตลาดค่อนข้างเปิดให้กับนักแสดงแบบนี้ เดี๋ยวก็มีอีก ผมคงไม่พูดอะไร แต่เดี๋ยวมีอีกแน่นอน มีอีกเยอะ”
“เรามองน้องทุกคนเป็นฟรีแลนซ์จริงๆ ให้ตั้งใจทำงาน และเราก็มีผลตอบแทนซึ่งกันและกัน เรามองเป็นลักษณะการจ้างงานแบบฟรีแลนซ์ ซึ่งในมุมเรามองว่า ช่องจะได้ภาพที่แตกต่างคนดูก็จะได้รับความแปลกใหม่ เราใช้วิธีจ้างงานแบบฟรีแลนซ์ และเป็นการสร้างความแปลกใหม่ให้แก่วงการละครของเราด้วย สุดท้ายทุกคนได้พัฒนาตัวนักแสดงช่อง 8 เองก็ได้พัฒนาฝีมือด้วย ได้เล่นกับคนใหม่ๆ เวลาเขาได้มาร่วมงานกัน พอนักแสดงจากสังกัดอื่นได้เข้ามาทำงานกับเรา เขาก็จะได้พัฒนาตัวเองเหมือนกัน มันเป็นการทำงานที่วิน-วิน นะ ได้ทุกคน”
โต้เรื่องใช้นักแสดงตัวเดิมๆ เล่นละคร ทำให้เรตติ้งช่อง 8 ไม่ดี
“ไม่เกี่ยวนะว่า นักแสดงคนเดิมเล่นแล้วเรตติ้งช่องไม่ขึ้น เราเชื่อว่า นักแสดงไม่ใช่เครื่องการันตีว่าละครเรื่องนั้นจะเรตติ้งดีหรือไม่ดี มันอยู่ที่ความเหมาะสมของบทกับตัวละคร เพราะมันถูกพิสูจน์บททฤษฎีนี้หลายครั้งแล้วว่า ตัวนักแสดงไม่ใช่ผลสำเร็จเพียงอย่างเดียวของละคร 1 เรื่อง เหมือนบางช่องที่สามารถนำนักแสดงที่มีชื่อเสียง 5 - 6 คน มารวมกันได้ ละครต้องดังเปรี้ยงปร้าง แต่มันก็ไม่ได้เกิดผลอย่างนั้นไง ขนาดนักแสดงแม่เหล็กระดับประเทศเลยยังไม่สามารถทำให้ละครประสบความสำเร็จในจุดที่เขาต้องการได้ เราเลยมองว่าตัวนักแสดงไม่ได้การันตีเสมอไปอยู่ที่ความเหมาะสมของตัวละครและบทละคร ทุกอย่างต้องไปด้วยกัน การคัดเลือกนักแสดงมาร่วมงานกัน เราแค่ต้องการคนที่เหมาะกับบทมากกว่า เราถึงบอกตั้งแต่แรกว่า ขอน้องไนกี้มาเล่นละครกับเรา เพราะบุคคลิกเขาตรงกับเรื่อง”
นอกจากจะได้ “ไนกี้” มาจากช่องวันแล้ว ก็ยังได้นางเอกใหม่ที่หน้าตาสวยที่สุดเท่าที่เคยแคสติ้งมา
“เรื่องนี้ถ้าเปิดมาหน้าละครจะไม่เหมือนละครช่อง 8 สักเท่าไหร่ด้วยนะ เท่าที่เห็นนะ จากการดูของเราเอง รวมถึงนางเอกจะเป็นนางเอกใหม่ สวยที่สุดเท่าที่เราเคยแคสติ้งมา แต่ยังบอกไม่ได้ว่าชื่ออะไร เพราะเขาถ่ายภาพมาให้เราดูแล้ว เป็นภาพใหม่ๆ ของช่อง 8 และยังมีนักแสดงผู้หญิงอีกที่ไม่เคยเล่นกับเรา แล้วมาเล่นกับเราครั้งแรก แต่ยังบอกไม่ได้ เรื่องนี้แหละ เรื่องนี้จะมีแต่นักแสดงหน้าตาใหม่ๆ ที่มาร่วมงานกับเรา”
“ส่วนค่าเหนื่อยของไนกี้ก็เรตปกติที่เราจ่ายได้กับนักแสดงทั่วไป ไม่ได้สูงเวอร์อะไร เราคิดว่าน้องเขาเคยได้เท่าไหน เขาคงเรียกมาเท่านั้น ไม่ได้ทำให้เรารู้สึกว่า ต้องมานั่งคิดอะไรเยอะ”
ช่องวันให้ยืมตัวนักแสดงได้ แต่สำหรับช่อง 8 ไม่มีนโยบายให้ยืม
“คือ ทุกที่จะมีนโยบายของตัวเองชัดเจนไม่ใช่เรื่องแปลก แต่ถามว่ามีคนเคยมาขอนักแสดงเราไปเล่นไหม ไม่ค่อยเหมือนกันนะ เขาคงรู้นโยบายเราชัดเจน จริงๆ เป็นนโยบายมากกว่า เราต้องการฝึกฝนนักแสดงตัวเองมาใช้ภายใน แค่ภายในของเราเองก็ไม่พอแล้ว ต้องไปหาฟรีแลนซ์เข้ามาช่วยและทุกวันนี้เราก็หานักแสดงในช่องผลิตเอง ไม่ทันเหมือนกัน”
ไม่ปฏิเสธข่าวดึง “อ้น เดอะสตาร์” กรกฎ ตุ่นแก้ว มาเล่นละครช่อง 8 ขอให้ดูต่อไป
“อ้นเหรอ ก็ไม่รู้สิ ต้องดูต่อไป ไม่หรอกมันเป็นระบบที่แล้วแต่นโยบายของบริษัท เราคิดว่า ช่องวัน ก็อาจจะมีนโยบายอีกแบบหนึ่ง ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลกนะเพราะต้องมีการบริหารจัดการคน อย่างช่อง 8 ก็มีนโยบายของเราที่มีการบริหารจัดการคนอีกแบบหนึ่ง ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร ไม่ได้เซอร์ไพรส์อะไร เพียงแต่ว่าช่วงเวลาหนึ่งเรายังไม่ได้คิดว่า จะต้องหานักแสดงฟรีแลนซ์มาเพิ่มไหม เพียงแต่ปีหน้าเราอยากหาอะไรใหม่ๆ มาให้กับช่อง 8”
ปฏิเสธข่าวจะลาออกจากช่อง 8 ไปอยู่กับ ช่อง PPTV หรือ JKN
“เอาจริงๆ งงกับข่าวนี้มาก มีคนพูดเยอะมาก และก็มีคนมาถามถึงข่าวลือนี้จริงไหม แต่เอาจริงๆ ยังไม่ได้มีการคุยกับใครเลยนะ และงงมากเพราะตลอด 2 - 3 เดือนที่ผ่านมา มีคนถามเยอะมาก และพูดจริงๆ นะไม่มีใครกล้าชวนหรอกเพราะอยู่ที่นี่อาร์เอสมา 28 ปี ทุกคนก็เข้าใจว่าเราไม่ไปไหนหรอก แต่ตลอดการเดินทางมา 28 ปี ก็ต้องมีมาชวนบ้างนะมันเป็นเรื่องปกติ แต่ตลอด 28 ปี เราพิสูจน์ตัวเองมาในระดับหนึ่งแล้ว และเราอยู่ที่นี่มาโดยตลอด เราไม่เคยย้ายไปไหนเลยค่อนข้างแปลกใจที่มีคนกล้าพูดเรื่องนี้ ถามว่ามีพูดๆ กันไหม ซึ่งมีนะ แต่ไม่มีใครกล้าชวนร้อยเปอร์เซ็นต์หรอก แต่เอาเข้าจริงๆ ไม่มีใครชวนหรอกเพราะเราโตมาพร้อมองค์กร ก็ยังแฮปปี้กับที่นี่อยู่นะ และคิดด้วยซ้ำว่าปีหน้าจะทำอะไร ปีต่อไปจะทำอะไร ไม่ได้คิดว่าปีหน้าจะไปไหน”
“ยืนยันว่ายังอยู่ ยังไม่ได้คิดว่าจะไปไหนด้วย ก็ทำงานให้ดี ซึ่งถามว่าเหนื่อยไหม มันก็เป็นเรื่องปกติที่ต้องทำละครให้มันออกมาดีคู่แข่งก็เยอะทุกอย่างก็ลงทุน เราต้องยอมรับว่าเราก็สร้างช่องมาพร้อมกับองค์กร เรายังอยากเห็นมันไปในจุดที่เราต้องการอยู่ และภาพที่เราเห็นมันต้องไปไกลกว่านี้ แต่เราก็ค่อยๆ สร้าง ให้มันถึงจุดที่เราต้องการก่อนแล้วค่อยคิดว่าเราจะทำอะไรต่อ ยังอยู่ ข่าวลือไม่มีจริง”
ตั้งเป้าติด 1 ใน 3 ของดิจิตอลทีวี
“ยังอยากเป็น 1 ใน 3 ของทีวีดิจิตอลระดับประเทศอยู่ แม้ครึ่งปีหลังเรตติ้งมันอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงอันดับไป แต่ในมุมของคนดูมีสิทธิในการเลือกชมมากขึ้น มันเป็นเรื่องปกตินะเพราะช่องใหญ่ 2 ช่อง คนดูเขาก็หายไปนะ ถ้าเราเป็นเขาเราก็ตกใจกับยอดคนดูที่หายไปนะ ถามว่า ในมุมของเรากับอันดับที่เปลี่ยนไป เราวางกลยุทธที่ค่อนข้างชัดเจนว่าปีนี้เราจะลงทุนหรือไม่ ปีหน้าเราจะลงทุนกับมันมากแค่ไหน มันเป็นสเต็ปในการคิด ถ้าคิดว่าอยู่ในที่ 5 และสามารถทำธุรกิจได้เหมือนอยู่ในที่ 4 แล้ว และทำธุรกิจกับลูกค้าได้มันก็โอเค”
“และถ้าถึงเวลาที่ต้องสปีดต้องลงเงินมากขึ้น มันก็จะอัดลงไปได้ มันไม่ใช่เรื่องยากที่จะทำยังไงให้ตัวเองขึ้นมาได้ เพราะถ้าอยากได้เรทติ้งเยอะก็ต้องลงทุนเยอะ และถ้าคิดว่าเรทติ้งยังโอเค ก็ไม่ต้องลงทุน และก็เลี้ยงคุณภาพให้มันดีไป ช่อง 8 ไม่ได้มีปัญหาเรื่องการลงทุน เราเป็นเจ้าแรกๆ ที่ไม่ได้ขาดทุน เราบริหารค่อนข้างรัดกุม เราไม่ได้มีภาพการขาดทุนอะไรมากมายออกไป เราว่าเราเซฟตรงนี้เอาไว้ให้ดีที่สุด และการหลุดไป 2 อันดับไม่ใช่เรื่องน่ากลัว เพราะว่าเราเคยอยู่ตรงนั้นมาแล้ว มันไม่ใช่เรื่องใหญ่”
“ต้องยอมรับว่า มันเป็นการเข้าสู่การปรับทิศทางขององค์กร เพื่อที่จะเพิ่มกลุ่มผู้ชมมากขึ้น ตั้งแต่เปลี่ยนโลโก้ เราได้แมสส่วนใหญ่เพิ่มขึ้น แต่สิ่งหนึ่งที่เราต้องการคือทาเก็ตคนเมือง เราเชื่อว่าคนเมืองเป็นเสียงของคนอื่นๆ ได้ คนที่เป็นแมสพอได้ยินเสียงคนเมืองก็พอจะคิดว่า ตอนนี้มันเกิดอะไรขึ้น คนเมืองฟีคแบคเร็วกว่า เราอยู่ในช่วงการปรับตัว ต้องให้เวลาเราตรงนี้นิดนึง และคนดูกลุ่มเก่าก็ต้องทำความเข้าใจในรูปแบบใหม่ของช่อง ไม่ได้ตีตลาดช่องวัน เรามีฐานคนดูชัดเจน ช่องวันเขาก็มีฐานที่ชัดเจน ในมุมของเรา คือ ปรับตัวเองเข้ามาอยู่ในเมืองมากขึ้น”
“ในส่วนของซีรีส์เกาหลียังคงเรตติ้งดีอยู่ แต่เราไม่ได้พูดถึงในตัวของกำไรว่าได้หรือขาดทุน อันนี้พูดไม่ได้เลย แต่ภาพลักษณ์ของช่องดีขึ้น ส่วนในเรื่องของราคาแพงไหม เอาเป็นว่าเราเป็นคนที่ซื้อของไม่ได้แพง คนต้องคิดว่าเราซื้อในราคาที่สูงเพื่อไปช่วงชิงซีรีส์ดังๆ มานั้นไม่ใช่เลย มันอยู่ที่วิธีการที่เข้าไปติดต่อ ถามว่าคุ้มค่าไหม มันก็คุ้มค่ากับสิ่งที่เราต้องการ ถ้าพูดถึงซีรีส์เกาหลี คนก็นึกถึงช่อง 8 มากขึ้นนะ เรามีพื้นที่มากขึ้นเพราะเราเดินกลยุทธ์ที่คนอื่นเขาไม่ทำกัน แต่ตอนนี้เขาเริ่มคิดแล้ว เพราะอย่างเรตที่คนมองว่าเราซื้อแพงจนทำให้ระบบราคาซีรีส์เกาหลีแพงขึ้นไหม บอกเลยว่า เราซื้อถูกกว่าคนอื่น นี่คือตัวที่ออนแอร์เรียลไทม์ด้วยนะ แต่เผอิญเรามีคอนเนกชันที่ดีกับช่อง KBS2 โดย เฮีอฮ้อ (สุรชัย เชษฐ์โชติศักดิ์) ก็ได้คุยกับ CEO ของช่องเลย เขาก็เลยให้ความช่วยเหลือ”