“หมอก้อง สรวิชญ์” สารภาพทั้งน้ำตา อดีตเคยเลว - โดดเวรไปรับจ๊อบ - ไม่รับงานกุศล ปัจจุบันเปลี่ยนตัวเอง เพราะได้แรงบันดาลใจจาก “ในหลวง ร.๙” ตื้นตันพระองค์ท่านเสียสละเหลือเกิน ตนแค่เศษหนึ่งส่วนล้าน ทำไมจะตอบแทนพระองค์ไม่ได้ ปฏิญาณตนจะทำความดีตอบแทนพ่อหลวงจนวันตาย
นอกจากจะช่วยเป็นจิตอาสาในหลายๆ ที่ที่มีคนไปร่วมถวายความอาลัยแด่ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชแล้ว หนุ่มมากความสามารถอย่าง “หมอก้อง พ.ต.น.พ.สรวิชญ์ สุบุญ” แพทย์ในสำนักงานแพทย์ สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ยังเป็นส่วนหนึ่งที่ได้มาร่วมร้องเพลงถวายความอาลัยร่วมกับหนุ่ม “กอล์ฟ เบญจพล เชยอรุณ” ด้วย
ซึ่งทุกครั้งที่หนุ่มก้องพูดถึงในหลวงก็จะมีน้ำตาคลอเบ้าเสมอ ครั้งนี้ก็เช่นกัน โดยเจ้าตัวเผยว่าในหลวงทำให้ตนอยากเป็นคนดี จากที่เมื่อก่อนเคยนิสัยไม่ดี โดดเวรไปรับจ๊อบ เล่นละคร ออกอีเวนต์ งานการกุศลไม่ไป เพราะไม่ได้เงิน แต่หลังไปออกค่ายหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ จึงได้เห็นว่าในหลวง รัชกาลที่ ๙ ทำอะไรบ้าง ทำให้ตนคิดได้ และอยากเปลี่ยนแปลงตัวเอง ขอสัญญาจะเป็นคนดี จะทำให้ดีที่สุดเพื่อในหลวง
“ดีใจนะครับ ก็อยากจะขอบคุณพี่กอล์ฟที่เขาบอกข่าวนี้กับเรา ก็รู้สึกเหมือนมันเป็นทางที่เราจะได้แสดงความรู้สึกที่เราอยากจะบอกพระองค์ท่าน ทุกคนอยากบอกรักพระองค์ท่าน ในฐานะที่เราเป็นนักแสดง มันจะทำอะไรได้เยอะแยะ เราก็จะทำในสิ่งนี้ได้ดีที่สุด ถ่ายทอดบทเพลง อาจจะไม่ใช่คนเสียงดี ไม่ใช่นักร้อง แต่ว่าใจมันก็คงเพียงพอที่จะบอกเล่าเรื่องราวความรู้สึกผ่านเพลงนี้ที่แต่งขึ้น มันจะยากง่ายยังไงก็เรียกว่าถ้าร้องไม่เพราะ แต่ร้องจากใจ ก็เป็นอย่างหนึ่งที่อยากจะบอก อยากจะแสดงออกว่าพ่อจะอยู่ในใจของเราเสมอ”
“เห็นเนื้อร้องแล้วก็ฟัง พอเขาส่งมาให้ปุ๊บก็ดูเนื้อร้องก่อนเลย แล้วก็โอ้โห ท่อนฮุก และก็ท่อนที่ขึ้นไปพีคสุด มันก็น่าดูเหมือนกัน ท่อนที่ประทับใจก็ท่อนที่บอกว่าพ่อจะอยู่ในใจของเราเสมอ ไม่ว่าจะผ่านไปนานเท่าไหร่ แล้วก็จะสืบสานทางของพ่อไปจนเราหมดลมหายใจ ถ้าเกิดสามารถขอพรอะไรได้จริงๆ ขอแค่ข้อเดียว คือขอให้เกิดใต้ร่มพระบารมีเกิดเป็นลูกพ่ออีกครั้งหนึ่ง (กลั้นน้ำตา) มันคงจะโดนใจใครหลายๆ คน เขาก็เก่งนะที่เรียงร้อยข้อความนี้ออกมาได้”
สัญญาว่าจะทำดีตอบแทนในหลวงจนวันตาย
“ความรู้สึกตอนนี้ก็เป็นปกติ คือ...ก็คิดว่าพ่อก็ยังอยู่นะ ก็ไม่ได้เศร้านะครับ มันไม่ได้เสียใจแล้ว แต่มันคิดถึง และรู้สึกว่าเราจะต้องแข็งแรงให้ได้ยาวนาน ไม่ใช่แค่ช่วงนี้ เราต้องตอบแทนพระองค์ท่านจนเราตายให้ได้ เราต้องไม่ลืมคำนี้ พยายามเตือนตัวเองว่าอย่าลืมๆ อย่าลืมห้วงความรู้สึกนี้ ซึ่งตอนนี้ผมเชื่อว่าทุกๆ คนคงกำลังอยากทำความดีเพื่อพ่อ ก็สอนลูกสอนหลานไปเลยว่าครั้งหนึ่ง (เสียงสั่นน้ำตาคลอ) เราเคยมีในหลวงรัชกาลที่ ๙ และพระองค์ดีกับเราขนาดไหน ทำเพื่อแผ่นดินไทยขนาดไหน เอาความรู้สึกนี้บอกลูกบอกหลานต่อไป เพื่อเป็นสิ่งที่ยาวนานต่อไป ตัวพระองค์ท่านไม่อยู่แล้ว แต่ความดีของพระองค์ท่านยังอยู่ตลอด แล้วเราเป็นผู้ที่คอยเดินตามก็ต้องทำความฝันของพระองค์ท่านให้มันสำเร็จจริงๆ”
“ตอนนี้ทุกคนปฏิญาณตัวเองว่าจะเป็นคนดี ท่านทำให้ทุกคนอยากเป็นคนดี นี่คือ สิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแล้ว เราคงเคยเห็นมาหมดแล้ว ทุกคนน่าจะรู้ดีว่าพระราชกรณียกิจในแต่ละเรื่อง แค่หยิบมาเรื่องเดียวก็ยิ่งใหญ่มากแล้ว แต่มีเป็นพันๆ เรื่องที่พระองค์ทำ ธรรมะที่พระองค์มี จิตใจพระองค์ท่านยิ่งใหญ่เหลือเกิน แต่ ณ วันนี้สิ่งที่มันยิ่งใหญ่ที่สุด ก็คือ การที่พระองค์ท่านทำให้ทุกคนอยากเป็นคนดี อยากจะทำดี มันเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่มาก คนๆ หนึ่งทำให้หัวใจของคนเป็นสิบๆ ล้านคนอยากจะทำดีเพื่อถวายพระองค์ท่าน มันยิ่งใหญ่มากและเราก็ต้องตอบแทนพระองค์ท่าน”
สารภาพเคยเลวมาก่อน แต่ตอนนี้คิดได้แล้ว และขอทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด
“เมื่อก่อนผมนี่เรียกว่าเลวเลยแหละ ตอนนี้ก็ไม่ได้ว่าเปลี่ยนมาเป็นคนดีนะ แต่ก็อยากเลวให้มันน้อยลง อย่างที่บอกว่าอยากจะทำดีให้พระองค์ท่าน คือถ้าพระองค์ท่านรู้ว่าเราแย่ขนาดนั้นท่านคงเสียใจ เมื่อก่อนเกเรเยอะเลยแหละ โดดเวรหมอกระจายเลย โดดไปเล่นละคร ไปรับอีเวนต์ โดดไปสารพัด มันก็เป็นการเอาเปรียบคนไข้ เอาเปรียบเพื่อนพี่น้องแพทย์ด้วยกัน เอาเปรียบอาจารย์ เจ้าหน้าที่ทุกคน เงินเดือนเขาให้มามันก็เงินเดือนประชาชนทั้งนั้น ก็เอาเปรียบทุกคน เห็นแก่ตัว ก็รู้สึกผิด แต่มันก็โชคดีที่สำนึกได้ ตอนนี้ไม่กล้าโดดเวรแล้ว มันรู้ตัวแล้ว ถ้าเกิดจำเป็นจะต้องลาก็ต้องลาอย่างถูกต้อง คือ ไม่อยากเอาเปรียบใครแล้ว มาคิดได้ก็ตอนที่ได้ไปออกหน่วย อย่างที่ได้เคยเห็นกันว่าพระองค์ท่านลำบากกว่าเราเยอะเลย ลำบากกว่าเรามากเลย จิตใจพระองค์ยิ่งใหญ่มาก ตั้งใจจะทำเพื่อพวกเรา แต่เรากลับสวนทางกับสิ่งที่พระองค์ท่านทำ มันก็เลยรู้สึกว่าแย่”
“ถามว่าตอนที่ไปสนามหลวงนึกถึงพระองค์ท่านมั้ย ต้องบอกก่อนว่าที่ไปดูแลเนี่ยมันก็จัดเวรนะครับ ก็ไม่ได้จิตอาสาขนาดนั้น มันเป็นหน้าที่ แต่มันเป็นหน้าที่ที่ภูมิใจ วันแรกเลยภูมิใจมาก รู้สึกว่าเราอยู่ใกล้แค่นิดเดียวเองกับพระบรมมหาราชวัง แล้ววันนั้นใส่เครื่องแบบด้วย ก็มองท่านและบอกว่าเครื่องแบบนี้พระองค์ก็พระราชทานให้ ยศทุกอย่าง หน้าที่ทุกอย่างก็จะขอตอบแทนพระองค์ท่านเป็นครั้งสุดท้ายที่จะทำได้ ณ วันนี้ เพราะพระองค์ท่านไม่อยู่แล้ว”
บอกจะเป็นตัวอย่างที่ดีให้คนในสังคม และบอกต่อลูกหลานต่อไป
“ทุกคนถ้ามีโอกาสได้ทำขอให้ทำเต็มที่ที่สุด ไม่ต้องทำอะไรที่มันยิ่งใหญ่ก็ได้ สังคมจะต้องหันมามองฉัน มันไม่ใช่นะ มันจะยิ่งใหญ่เพราะว่าเราใส่ใจกับมันมากที่สุดในการจะทำอะไรก็ตาม เช่นเป็นชาวสวนก็ใส่ใจที่สุดในการปลูกผลไม้ เพื่อให้ได้ผลไม้ที่ดีที่สุดและปลอดภัยกับผู้บริโภคที่สุด นี่คือหน้าที่ของเขา ชาวนาปลูกข้าวก็ต้องทำให้ดีที่สุด ในทุกๆ บทบาท ผมเป็นนักแสดงเวลาเข้าฉากก็ตั้งใจที่สุดที่จะเล่นละครให้มันดี เพื่อให้คนดูมีความสุขที่สุด และในขณะเดียวกันก็ต้องใส่ใจที่จะเป็นแบบอย่างที่ดีส่วนหนึ่ง อาจจะไม่ต้องดีขนาดนั้นก็ได้ แต่ว่าต้องพยายามที่สุดไม่ให้มีภาพที่แย่ๆ ออกมา เผื่อว่ามีใครที่จะเลียนแบบเรา นั่นคือความใส่ใจ ซึ่งทุกคนทำได้หมดเลย ไม่ต้องรอจังหวะ ไม่ต้องรอโอกาส อย่างวันนี้ที่ได้มีโอกาสพิเศษก็ใส่ใจกับมันให้มากที่สุด”
“หลังจากนี้ ก็คงทำหน้าที่ของตัวเองนั่นแหละครับ หมอ นักแสดง และงานอื่นๆ คือ การเป็นนักแสดงมันก็ต้องยอมรับว่าไม่ใช่แค่แสดงอย่างเดียว สิ่งที่มันต้องทำไปด้วยคือจะต้องเป็นโรลโมเดล เป็นต้นแบบ 70 ล้านคน มันต้องมีคนเห็นเราเป็นต้นแบบสักคนสองคนแหละ มันต้องมี ซึ่งอันนี้นักแสดงไม่สามารถเถียงได้ว่าอันนี้ชีวิตของฉัน ชีวิตส่วนตัวซึ่งมันไม่ใช่แล้ว มันเป็นสาธารณะไปแล้ว ก็ต้องพยายามทำตัวเองให้ดีด้วย และงานอื่นๆ ที่จะเข้ามาให้ได้ช่วย ถ้าไม่เหนือบ่ากว่าแรงก็ช่วยเถอะ”
“อย่างผมเป็นหมอด้วยเป็นนักแสดงด้วย บางทีก็จะมีโอกาสมากกว่าคนอื่นๆ บ้างในบางเรื่อง เช่นงานการกุศล ถ้าเป็นแต่ก่อนก็ไม่ทำ ไม่ได้ตังค์ (หัวเราะ) ซึ่งนี่คือมุมมองที่ควรจะต้องแก้ไขตัวเองว่าเราจะคิดถึงแต่ตัวเองไม่ได้ เล่นละครเราก็ไม่ได้เล่นฟรีๆ มันก็มีค่าตอน ซึ่งก็เป็นเงินจากพวกเขาทั้งนั้นที่ชื่นชอบผลงานของเรา แล้วก็ให้เรากลับมา เพราะฉะนั้นวันหนึ่งเราก็ต้องให้เขากลับบ้าง การช่วยงานการกุศลเงินน้อยแล้วมันเหนื่อยตรงไหน เหนื่อยแค่ร่างกาย แค่เวลาเที่ยวเราน้อยลง แต่เราแค่พักผ่อนมันก็หายเหนื่อยแล้ว ซึ่งทำตรงนี้ได้มันไม่เดือดร้อนใครเลย แล้วมันอาจจะเป็นประโยชน์ต่อคนอื่นเยอะแยะ ตรงนี้ก็บอกตัวเองว่าทำให้เยอะๆ ทำให้มากๆ และบอกกับนักแสดงรุ่นน้องด้วยว่าถ้ามีโอกาสก็ให้ทำ”
เปลี่ยนตัวเองเพราะได้แรงบันดาลใจจากในหลวง พระองค์ท่านเสียสละเหลือเกิน ตนแค่เศษหนึ่งส่วนล้าน ทำไมจะตอบแทนพระองค์ไม่ได้
“พระองค์ท่านคือแรงบันดาลใจที่ทำให้เปลี่ยนแปลงทุกอย่าง พระองค์ท่านเสียสละเหลือเกิน ไม่รู้จะพูดยังไง เราแค่เศษหนึ่งส่วนล้านยังไม่เท่าเลย แล้วเราจะเสียสละบ้างเพื่อตอบแทนพระองค์ท่านหน่อยได้ไหม ผมว่าคนเราถ้าเกิดยอมรับข้อผิดพลาดของตัวเอง คนนั้นน่ะโชคดี ซึ่งผมก็ว่าผมโชคดีเหมือนกันนะที่รู้เร็ว อาจจะไม่เร็วมาก แต่ดีที่ไม่ช้าไปกว่านี้ เพราะถ้ารู้และยอมรับว่าตัวเองไม่ดี มันก็พร้อมที่จะแก้ไขปรับปรุง”
“ถ้าจะให้บอกอะไรถึงพระองค์ท่านก็คือผมจะทำให้ดีที่สุด ผมจะรักษาสัญญาที่เคยให้ไว้ (ร้องไห้) จะทำให้ดีที่สุดครับ”
