“เชียร์ ฑิฆัมพร - ครีม เปรมสินี” อาสาทำความดี อยากอยู่ใกล้ ๆ พ่อหลวง เชียร์เผยพระองค์ทรงห่วงเรื่องความสามัคคี เป้าหมายสำคัญคือคนไทย บอกรักและเทิดทูนที่สุดในชีวิตเหมือนตนเป็นลูกคนหนึ่ง ส่วนครีมบอกยังทำใจไม่ได้จะไม่เห็นพระองค์ท่านอีก
มาช่วยแจกข้าวของให้ประชาชนที่เดินทางมาถวายความอาลัยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ท้องสนามหลวง สำหรับ “เชียร์ ฑิฆัมพร ฤทธิ์ธาอภินนท์” และ “ครีม เปรมสินี รัตนโสภา” โดยทั้งคู่เปิดใจว่าอยากมาอยู่ใกล้ ๆ ในหลวงให้มากที่สุด
“ก็พยายามมาทุกวันเท่าที่มาได้นะคะ ช่วงนี้สภาวะทางใจทุกคนก็อาจจะรู้สึกลง ๆ กันไปบ้าง แต่เชียร์ก็เชื่อว่าทุกคนสามารถเข้มแข็งได้ หน้าที่ไหนที่เราต้องทำเราก็ต้องดำเนินต่อไป ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดตามที่พ่อสอนไว้ ซึ่งส่วนตัวเชียร์เองแล้วเชียร์จะชอบมาช่วงเวลาดึก ๆ เสร็จงานเมื่อไหร่ก็จะรีบมาเพราะเชียร์รู้สึกว่าเชียร์คิดถึงพระองค์ท่าน อยากจะมาอยู่ใกล้ ๆ พระองค์ท่านให้ได้มากที่สุดเท่าที่เราจะสามารถทำได้”
“ภาพคนไทยที่รักกันและช่วยเหลือกันตอนนี้ เชียร์เชื่อว่ามันคือภาพที่พ่อหลวงของเราจะชื่นใจมากที่สุด เพราะว่าสิ่งหนึ่งเลยที่เชียร์เคยมีโอกาสได้รับรู้ นั่นก็คือพระองค์ท่านทรงเป็นห่วงเรื่องความสามัคคีของคนไทย และตัวเชียร์เองก็เชื่อด้วยว่าทุกคนคงชื่นใจที่อย่างน้อย ๆ ภาพที่หลาย ๆ คนวิตกว่าจะเห็นคนไทยโศกเศร้า แต่วันนี้ทุกคนกลับเข้มแข็ง รวมถึงเราได้เห็นภาพต่าง ๆ ข้อมูลต่าง ๆ ของพ่อหลวง ซึ่งนั่นก็มีส่วนช่วยให้เราทุกคนเข้มแข็งและอยากที่จะสู้ต่อไป ถึงแม้ทุกคนอาจจะใส่ชุดดำแต่ทุกคนยังเข้มแข็งค่ะ”
ติดตาภาพพระองค์ท่านทรงงานตลอดเวลา
“เชียร์มีภาพของพ่อหลวงที่ประทับใจเยอะมาก เยอะจนไม่รู้ว่าจะพูดยังไงให้หมด แต่ภาพที่เชียร์ติดตา และเชื่อว่า หลาย ๆ คนก็คงไม่ลืม นั่นก็คือ ภาพที่พระองค์ท่านทรงงานตลอดเวลา พระองค์ท่านทรงเดินทางไปทุก ๆ ที่ที่มีปัญหา ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่น้ำท่วม พื้นที่แห้งแล้ง หรือพื้นที่ที่ไม่สะดวกสบาย พ่อหลวงของเราจะไปอยู่นั่นตลอดเวลา ภาพที่พระองค์เป็นห่วงชาวไทยเป็นห่วงลูก ๆ ของพระองค์เป็นภาพที่ติดตาไม่ลืม”
“สำหรับปรัชญาชีวิตที่พระองค์ท่านได้ฝากไว้ จริง ๆ เชียร์ต้องบอกก่อนว่าสิ่งที่พ่อหลวงของเราทรงทำให้เห็นและทรงปฏิบัตินั้นเป็นแบบอย่างที่ดีในทุก ๆ ด้าน และเราก็สามารถเดินตามรอยพระองค์ท่านได้หมดในทุก ๆ ด้านเช่นกัน เพราะถ้าหากเราเดินตามเราต้องไปสู่ในจุดที่ดีได้แน่นอน แต่ถ้าจะให้เชียร์พูดสักหนึ่งเรื่อง เชียร์ก็คงต้องหยิบยกเรื่องที่พระองค์ท่านเป็นนักเสียสละที่ยิ่งใหญ่ค่ะ”
“เชียร์ไม่เคยเห็นใครในโลกที่จะมีความวิริยะ อุตสาหะ ที่จะเรียนรู้ในทุก ๆ ด้าน และสามารถทำในทุก ๆ ด้านให้ดี เพื่อที่จะแก้ไขให้คนอื่น ๆ อยู่ดีกินดี ซึ่งถ้าหากลองเป็นเรา ถ้าให้เราได้ลองทำอะไรที่ไม่ถนัดเราคงเสียเวลากับมันนานมากจนเรารู้สึกท้อจนล้มเลิก แต่พระองค์ท่านไม่เคยเลย ไม่เคยมีที่จะแบบว่าทำแล้วจะยกเลิกไม่ทำ เพราะพระองค์ท่านมีเป้าหมายที่สำคัญนั่นก็คือเราทุกคน”
“พระองค์ท่านเป็นคนที่มองทุกอย่างอย่างละเอียดอ่อนมาก เชียร์เคยได้อ่านสิ่งที่พระองค์ได้เคยตรัสไว้ ซึ่งนั่นก็จะมีหนึ่งอย่างที่บอกว่า ใช้ศิลปะในการเล่าเรื่อง ซึ่งเชียร์คิดว่านั่นคือเรื่องของอารมณ์ความรู้สึกที่พระองค์ท่านทรงเห็นความสำคัญ และในฐานะที่เราเองก็เป็นนักแสดง เราก็รู้สึกว่าพระองค์ท่านทรงมองอย่างมีคุณค่าและมองอย่างลึกซึ้งลงไปที่จะใช้ประโยชน์ตรงนี้ในการเล่าอะไรต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์ ถือเป็นเรื่องน่าทึ่งค่ะ”
“หากเชียร์สามารถบอกอะไรกับพระองค์ท่านได้ เชียร์ก็อยากนะบอกว่าเชียร์รักท่านมาก รักค่ะ รักสุด ๆ เลย รักและเทิดทูนที่สุดในชีวิต ชีวิตของเชียร์เองก็เป็นลูกคนหนึ่งที่เทิดทูนพระองค์ท่านสุดหัวใจมาก ๆ แต่เหนืออื่นใดก็รู้สึกดีอยู่อย่างหนึ่งที่พระองค์ท่านทรงหายเหนื่อย ทรงได้พักผ่อน เชื่อค่ะว่าทุกคนอยากอยู่ใต้ร่มพระบารมีของพระองค์ท่านตลอดไป แต่ว่าสัจธรรมของโลกยังไงแล้วมันก็ต้องมีสักวันที่เราจะต้องลาจากกัน ฉะนั้น สิ่งที่พระองค์ทรงทิ้งไว้ให้เราทุกคน เราก็จะยึดถือและปฏิบัติตามไปให้ได้มากที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ สัญญาค่ะว่าจะทำทุก ๆ อย่างที่พ่อทำให้ดีที่สุดค่ะ”
“ครีม เปรมสินี” ตื้นตันน้ำใจคนไทย ขอแค่ให้มาอยู่ใกล้ ๆ พ่อหลวง ทำใจไม่ได้จะไม่เห็นพระองค์ท่านอีก
“จริง ๆ ตลอดอาทิตย์หนึ่งที่ผ่านมาตัวครีมเองยังไม่มีโอกาสได้มาแจกของนะคะ แต่ครีมก็มาที่สนามหลวงทุกวัน และพอวันนี้มีเพื่อน ๆ ชวนให้เรามาช่วยทำของมาช่วยแจกของก็เลยได้มาค่ะ ซึ่งพอได้มาเห็นน้ำใจคนไทยแบบนี้เราเองก็ตื้นตันนะค่ะ และถึงแม้ในอนาคตเหตุการณ์นี้จะผ่านไปแล้วครีมก็ยังอยากให้ทุก ๆ คนจำความรู้สึกนี้เอาไว้ อยากให้คนไทยรู้สึกสามัคคีและกลมเกลียวกันแบบนี้ตลอดไปค่ะ”
“มีพระราชดำรัสของพระองค์ท่านอยู่อันหนึ่งที่ครีมชอบมาก เพราะพ่อครีมที่เป็นทหารท่านจะเล่าให้ฟังอยู่บ่อย ๆ อย่างเช่นคำว่า ปิดทองหลังพระ ซึ่งตอนแรกครีมก็ไม่เข้าใจนะคะว่ามันหมายความว่าอะไร แต่ท่านก็อธิบายว่าให้เราทำความดีไปเรื่อย ๆ ติดทองไปเรื่อย ๆ ติดให้ทองล้นออกมาอยู่ข้างหน้าและเมื่อนั้นคนก็จะเห็นความดีของเราเอง ซึ่งมันก็เป็นเรื่องจริงนะคะ บางอย่างที่เราทำเราไม่จำเป็นต้องทำเพราะหวังผลตอบแทนหรอก ขอแค่เราให้สุดท้ายไม่ว่ายังไงเราก็จะได้รับเอง”
“ด้วยความที่ครีมเป็นลูกทหาร ตอนเด็ก ๆ คุณพ่อก็จะชวนตลอดเวลามีกิจกรรมสวนสนามหรืออะไรก็แล้วแต่ แต่อย่างที่บอกว่าตอนนั้นเรายังเด็กก็เลยเลือกที่จะไม่ไป จนทุกวันนี้เราโตขึ้นเราก็เริ่มมาคิดได้ว่ามันน่าเสียใจมากที่เราตัดสินใจแบบนั้น แต่ก็เคยได้มีโอกาสรับเสด็จครั้งหนึ่งตอนที่ท่านอยู่ศิริราชกำลังจะเดินทางกลับวังไกลกังวล ตอนนั้นครีมก็ไปนั่งรอ 4 - 5 ชั่วโมง และรู้สึกว่ามันเป็นความรู้สึกที่ดีมากถึงแม้จะเป็นแค่ช่วงเวลาแว้บเดียวที่ขบวนท่านเสด็จฯผ่านไป และพอมาวันนี้เราคิดว่าเราจะไม่ได้เห็นท่านแล้ว ก็เลยรู้สึกเสียใจว่าทำไมตอนเด็ก ๆ เราถึงไม่ทำตอนที่มีคนบอกให้ทำ และพอจะทำเอาวันนี้มันก็เกือบช้าแล้วด้วยซ้ำ”
“ยังจำความรู้สึกวันนั้นได้อยู่เลยที่ไปนั่งรอรับเสด็จครีมไปนั่งโบกธง ก็เห็นพระองค์ท่านนั่งรถผ่านไป ตื้นตันใจมากค่ะ คือเราไม่จำเป็นต้องเข้าไปหรอกแต่เราทำยังไงก็ได้ให้เราได้อยู่ใกล้ที่สุดแค่นั้นเราก็สบายใจแล้ว ครีมเชื่อเหลือเกินว่าทุกคนที่มาที่นี่เขาขอแค่ให้ได้มา ขอแค่ให้ได้มากราบแค่ให้ได้มาเห็นก็สุขใจแล้ว เพราะจิตใจของคนไทยตอนนี้เหมือนขาดที่ยึดเหนี่ยวทางใจ ฉะนั้น อะไรที่ทำได้หรืออะไรที่มันเป็นเรื่องดี ๆ ก็อยากให้ทุกคนช่วยกันทำ”
“ต่อจากนี้ไปครีมก็คงจะนำพวกปรัชญาชีวิต หรือสิ่งที่พระองค์ท่านสอนมาปรับใช้ นั่นคงเป็นสิ่งที่เราพอจะทำได้ อย่างเช่นพวกความพอเพียง ความประหยัด ความสามัคคี ครีมเชื่อว่าคำสอนทุกอย่างยังอยู่ในใจของพวกเราค่ะ”