ปล่อยออกมาให้ได้ฟังกันแล้วสำหรับ “พ่อภูมิพล” อีกหนึ่งเพลงใหม่ที่แต่งโดยนักร้องคนดัง “แอ๊ด คาราบาว” เพื่อร่วมรำลึกนึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ
โดยทางนักร้องชื่อดังได้เผยถึงการเขียนเพลงนี้ผ่านรายการ “เรื่องเล่าเช้านี้” ว่า ตนเองใช้เวลาในการแต่งประมาณ 1 ชั่วโมงเท่านั้น เพราะทุกอย่างนั้นออกมาจากใจ ก่อนยังบอกว่าที่ผ่านมาแต่งเพลงให้ในหลวงมาแล้ว 6 เพลง และเพลงนี้ก็อาจจะเป็นเพลงสุดท้ายแล้ว
“ประมาณสักชั่วโมงครับ คือ หลังจากที่หายโศกเศร้ากันแล้วนะครับ ก็มาคิดว่าเราควรจะทำอะไรให้เป็นอนุสรณ์แด่ท่าน เพราะหลังจากนี้คงไม่มีอีกแล้ว ผมแต่งเพลงแด่พระองค์ท่านมา 6 เพลงด้วยกัน อันนี้ก็เป็นเพลงที่ 7 ครับ (แล้วก็อาจจะเป็นเพลงสุดท้าย) ครับ”
ตอนที่แต่งรู้สึกหรือว่าคิดอะไรอยู่?
“ภาพที่พระองค์ทรงงานแล้วออกไปตามชนบท คือ ท่านเป็นพระมหากษัตริย์ที่ไม่มีพระมหากษัตริย์ใดในโลกเหมือน ท่านออกไปเยี่ยมพสกนิกร เข้าไปมอบความรู้ต่าง ๆ ที่ท่านได้ค้นคว้าจากในวังสวนจิตร เอาไปถ่ายทอดต่อ อย่างเรื่องปลานิล เรื่องหญ้าแฝก อย่างเรื่องการที่จะผันน้ำเข้านา”
“โครงการพำระราชดำริต่าง ๆ ทั้ง 3 - 4 พันโครงการ ที่พระองค์ไปวางรากฐานไว้ให้มากมายเหลือเกินที่ท่านให้พสกนิกรของท่านนี่แหละครับ ต่างชาติยังต้องยอมรับนะครับ เพื่อนผมเป็นคนอเมริกาก็เคยบอกว่า เขาอยากให้ประเทศเขามีกษัตริย์แบบพระเจ้าอยู่ของเรา”
มีช่วงตอนไหน ท่อนไหนที่เรียกว่ามันสะเทือนใจ แล้วมันแต่งยากที่สุดมั้ย?
“คือทุกตอนแหละครับที่มันเป็นความจริง และตอนขมวดปมสุดท้าย ที่ว่าเป็นมหากษัตริย์ เป็นจอมกษัตริย์ที่หยาดเหงื่อหลั่งลงดินเนี่ยครับ เป็นคำที่มันคล้องกับภาพที่เราเห็นพระองค์ท่านที่มีเหงื่อหยดในตอนที่ท่านทรงงานอยู่ ผมอยากจะสื่อความหมายว่าให้คนไทยเดินตามรอยพระบาทของพระองค์ท่านนะครับ”
“เพราะว่าสิ่งที่พระองค์ท่านทำไว้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความคิดสร้างสรรค์ ความประหยัด ความพอเพียง แล้วก็ความเป็นห่วงเป็นใยของราษฎรทุกคน คือ ความเมตตากรุณา และก็สุดท้ายทุกสิ่งทุกอย่างที่กว่าจะเอามาให้พสกนิกรของพระองค์เนี่ย พระองค์ทรงทดลองแล้ว คือ รู้แจ้งแล้ว จึงนำมาบอกอีกที”
“ถ้าพวกเราชาวไทยเป็นลูกของพระองค์ เราใช้วิธีนี้นะครับ มีความประหยัดมัธยัสถ์ ใฝ่รู้ อดทน ขวนขวาย อย่างเช่น ท่านออกไปเยี่ยมพสกนิกรตั้งแต่ยอดภู จนถึงทะเล เลยนะครับ นั่นแหละครับต้องใช้ความวิริยะ อุตสาหะ ขนาดไหนถ้าเราทำมาหากินอย่างที่พระองค์ท่านเสด็จไปเยี่ยมราษฎรได้ ผมเชื่อว่าทุกคนก็ประสบความสำเร็จในชีวิต อยากให้พระองค์เป็นแบบอย่าง”
ทั้งนี้ เจ้าตัวยังบอกด้วยว่า เมื่อ 5 ปีที่แล้ว ตนได้มีโอกาสร้องเพลง “ผู้ปิดทองหลังพระ” ต่อหน้าพระพักตร์เมื่อครั้งสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพล เสด็จพระราชดำเนินไปยังทุ่งมะขามหย่อง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งในตอนนั้นพระองค์ท่านยังได้ฝากพระราชเลขามากระซิบบอกว่า “แอ๊ด คาราบาว” เก่ง สามารถนำชื่อไปแต่งเป็นเพลงจนทำให้คนร้องตามได้
“เรื่องจริงครับ ท่านยังได้ทรงแก้ไขเนื้อให้เลยนะครับ เพราะมีอยู่ตอนที่ผมเขียนไปว่า ครองราชย์ 19 พรรษา แล้วก็ 65 ปี เนี่ยตอนแรกผมเขียนไป 65 พรรษา ที่ทำเพื่อประชาชน พระองค์ท่านก็แก้เป็น 65 ปี 19 พรรษาน่ะใช่ แต่ต้องเป็น 65 ปี ที่ครองราชย์”
“ปลาบปลื้มใจนะครับ ตั้งแต่ได้รับงานแต่งเพลงชิ้นนี้มาจากผู้ใหญ่ในวังน่ะครับ ก็ภูมิใจที่จะได้รับใช้พระองค์ท่านด้วยความสามารถที่เรามีอยู่ แต่เขาก็บอกว่าให้เป็นเพลงง่าย ๆ นะ เป็นเพลงที่ใครร้องก็ได้ก็เลยออกมาเป็นเพลงง่าย ๆ”
“แล้วบังเอิญคำพระนามเต็มของท่านสละสลวยอยู่แล้ว คนที่แต่งน่าจะเป็นราชบัณฑิตที่มีความรู้มีความสามารถในภาษาเหล่านี้ ก็ง่ายครับ เราก็รวบรวมเอาพระราชกรณียกิจของพระองค์ท่านมาวางเป็นขั้นเป็นตอนว่าจะเขียนเกี่ยวกับอะไร ๆ แล้วก็มีขมวดตรงที่พระนามของพระองค์ เพราะว่าโจทย์มาคืออยากให้ทุกคนรู้จักพระนามเต็มของพระองค์ท่าน...”
