“เอก สรพงษ์” เผยเกิดมา 67 ปี เพิ่งเคยเห็นภาพคนมารวมตัวร้องเพลง “สรรเสริญพระบารมี” แน่นท้องสนามหลวง ล่าสุด รับคำสั่งจาก “ท่านมุ้ย” สร้าง “พระนอน” ยาว 99 เมตร ถวายบูรพมหากษัตริย์สยามประเทศทุกพระองค์ คาดสร้างเสร็จไม่เกิน 10 ปี
มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในประวัติศาสตร์ ชาวไทยรวมพลังร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณและอาลัยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช สำหรับนักแสดงรุ่นใหญ่ “เอก สรพงษ์ ชาตรี” งานนี้เจ้าตัวเปิดใจมีโอกาสเข้าเฝ้าเบื้องพระยุคลบาทในหลวง รัชกาลที่ ๙ หลายครั้ง และล่าสุด “ท่านมุ้ย หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล” รับสั่งให้สร้างพระนอน ยาว 99 เมตร ถวายบูรพมหากษัตริย์สยามประเทศทุกพระองค์
“บรรยากาศในวันนี้ผมมาในฐานะติดตามท่านมุ้ย ท่านมีทีมงานเยอะ เขาประชุมงานกันเป็นอาทิตย์แล้ว ส่วนผมเพิ่งมา เลยรับสั่งจากท่านมุ้ย ท่านให้ดูแลความเรียบร้อยของประชาชน ให้ทำความเข้าใจกับประชาชนว่าเราจะถ่ายกันอย่างไร เวลาถ่ายแต่ละคนจะต้องทำตัวอย่างไร เช่นว่า ช่วยกรุณาถอดหมวก หุบร่ม ถอดแว่นตาดำ หันหน้าไปทางสนามหลวง หันหลังให้วัดพระแก้ว คอยดูแลทีมนักแสดงว่าต้องอยู่ตรงจุดไหน ทำความเข้าใจกับประชาชนเพื่อไม่ให้เขาเบื่อ นำทีมนักแสดงขึ้นมาพูดให้กำลังใจประชาชน ว่า ที่มาวันนี้ก็เพื่อพ่ออยู่หัวของเรา ไม่ว่ายังไงเราก็จะอยู่กับคุณ 4 ทุ่มใครมีแรงก็มาสู้กันอีก”
“ผมไม่เห็นมีใครมีสีหน้าเบื่อเลย ผมอยู่ตรงนี้มาตั้งแต่ 7 โมง ยืนหันหลังให้วัดพระแก้ว เขาจองที่กันไม่ไปไหนซึ่งเป็นมุมภาพที่หันหลังให้วัดพระแก้วเป็นมุมที่เราต้องการ ถ่ายทำเสร็จแล้ว เขาไม่ลุกไปไหน เขายังรอดูต่อ ผมไม่รู้สึกอยากกลับเลย เรียกว่าวันนี้คนมาแน่นเต็มพื้นที่ ผมเกิดมา 67 ปี ยังไม่เคยเห็นภาพนี้มาก่อน เป็นภาพที่เราดีใจแทนเขา เป็นความสุขเล็ก ๆ ในหัวใจเขาที่ได้มาอยู่ในวันนี้ เป็นความภูมิใจความประทับใจ เราจะได้เล่าให้ลูกให้หลานฟัง ว่าบรรยากาศวันนี้เป็นอย่างไร”
เผยทั้งเหงาทั้งว้าเหว่ ร้องเพลงสรรเสริญฯ ด้วยความรู้สึกสูญเสีย
“มันรู้สึกเหงา มันว้าเหว่ มันไม่เหมือนกับที่เราร้องในครั้งผ่าน ๆ มา วันนี้มันเหมือนเราร้องด้วยความสูญเสีย ความอาลัย ความรู้สึกมันเต็มไปด้วยความสูญเสีย อย่างเวลาได้เห็นท่านเสด็จมา ท่านจะโบกพระหัตถ์ให้กับประชาชน วันนี้พอได้หลับตา นึกถึงความรู้สึกดี ๆ ที่มีต่อพระองค์ท่านมันรู้สึกเหงา”
“ผมเคยเข้าเฝ้าฯรับรางวัลพระราชทานรางวัลตุ๊กตาทอง 2519 ผมได้รับรางวัลจากพระหัตถ์ท่าน ตอนนั้นอายุ 24 - 25 ปี เป็นครั้งหนึ่งในชีวิต เป็นความรู้สึกที่บรรยายไม่ถูกว่ามันประทับใจมากอย่างไร หลัง ๆ ก็ได้มีโอกาสตามท่านมุ้ย เลยได้ตามไปกราบพระบาท ท่านมุ้ยก็แนะนำนี่สรพงษ์ ขับรถมาให้พ่ะย่ะค่ะ ก็ไปเข้าเฝ้าอย่างไม่เป็นทางการอยู่หลายครั้งเหมือนกัน”
“พระองค์ท่านเป็นคนทำอะไรทำจริง พระองค์มีทุกอย่างแล้ว ผู้คนสรรเสริญ แต่ก็เลือกทำให้ประชาชนของพระองค์มีความสุข อย่างพวกเราทำ ก็อาจทำเอาลาภ เอายศ เอาตำแหน่ง เพื่อหน้าที่การงานที่สูงขึ้น แต่สำหรับพระองค์ท่านเองมีหมดแล้ว มีทั้งลาภ ทั้งยศ ผู้คนชื่นชม เพียงแต่ว่าสิ่งที่พระองค์ท่านทำเพื่อประชาชนนั้น พระองค์ทำแล้วมีความสุข ผมเคยไปถ่ายหนังที่ดอยตุง ไม่มีต้นไม้เลย กลับไปวันนี้มีทั้งน้ำ ผลหมากรากไม้ ประชาชนไม่ต้องปลูกฝิ่น ไม่ต้องหนี ไม่ต้องอยู่อย่างล่องลอย เขามีความสุข ตรงไหนที่แห้งแล้ง เมื่อพระองค์ท่านไปกลับมาก็จะร่มเย็น ตรงไหนที่ถนนไม่ลาดยาง ท่านเสด็จไปเมื่อไหร่ที่นั่นจะเจริญ ในหลวงไปไหนที่ตรงนั้นจะเจริญ เป็นเรื่องที่น่าแปลก ท่านเอาน้ำไปหยดลงตรงไหน ต้นไม้ก็ขึ้น คนธรรมดาอย่างเรา ๆ ทำไม่ได้หรอก”
บอกรับคำสั่ง “ท่านมุ้ย” เร่งสร้าง “พระนอน” ยาว 99 เมตร ถวายบูรพมหากษัตริย์สยามประเทศทุกพระองค์ ต้องเสร็จภายใน 10 ปี
“ผมสร้างพระพุทธเจ้า ยาว 99 เมตร ก่อนหน้าก็เคยสร้างหลวงปู่โตถวายตอนพระองค์ครองราชย์ครบ 60 ปี ตอนนี้ท่านมุ้ยให้ผมสร้างพระนอนถวายบูรพมหากษัตริย์สยามประเทศทุกพระองค์ จะสร้างไว้ที่อำเภอสีคิ้ว ที่เดียวกับวัดที่สร้างหลวงปู่โต เราจะไปซื้อที่ขยายจะให้อาจารย์เผ่า สุวรรณศักดิ์ศรี ที่เป็นศิลปินแห่งชาติออกแบบวิหารตัวอาคาร”
“สร้างพระนอนเพราะว่าตอนที่พระนเรศวรทรงทำยุทธหัตถี ท่านทรงไหว้ขอพรพระนอนที่วัดป่าโมกข์ แล้วในประเทศพม่าที่พระนเรศวรประทับอยู่ ที่ท่านถูกจับไปเป็นเชลย บริเวณนั้นมีพระนอนเยอะ พระพุทธไสยาสน์เป็นปางที่พระพุทธเจ้าโปรด เป็นปางที่เหมือนปราบทิฐิ นอนปราบทิฐิ ตอนนี้ออกแบบองค์เล็ก ๆ ไปประมาณเมตรหนึ่ง กำลังจะขยายแบบเป็น 99 เมตร คิดว่าน่าจะเสร็จไม่เกิน 10 ปีนี้ไป เพราะในหลวงรัชกาลที่ ๙ พวกเราข้าแผ่นดินต้องก้าวไปข้างหน้า ไม่มีถอยหลัง สิ่งที่พ่อทำไว้ ไม่มีมนุษย์คนไหนทำได้ ผมคิดอย่างนั้นนะ 4,000 กว่าโครงการ 4,000 กว่าเรื่องล้วนแต่มาจากมันสมองของพระองค์ และทีมงานที่จงรักภักดีต่อพระองค์ผมว่าไม่ธรรมดา”
“ตอนนี้ทุกคนว้าเหว่และเหงา แต่เราก็ยังต้องทำดีโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน โดยปิดทองหลังพระ ความดีนั้นจะอยู่กับตัวเรา หากไม่มีใครรู้แต่เราก็จะมีความสุขกับตัวเราเอง วันนี้เราได้เก็บขยะสักชิ้นหนึ่ง เราก็มีความสุขของเราเองได้โดยการทำความดี”