“มิวสิควิดีโอที่เห็น ไม่ใช่ของท่านมุ้ย
ยังอยู่ขั้นตอนตัดต่อ-ลงเสียง ได้ดูอาทิตย์หน้า”
หลังวันงานรวมพลังสามัคคีอันยิ่งใหญ่ของชาวไทย แสนเจ็ดหมื่นคน เมื่อวันเสาร์ที่ 22 ตุลาคม 2559 เพื่อบันทึกเป็นภาพยนตร์ร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี โดย "หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิมยุคล" นั้น ระยะหลังได้มี MV เพลงสรรเสริญพระบารมีออกมาเผยแพร่หลายชิ้น บ้างก็อ้างว่านี่คือผลงานของท่านมุ้ย ความจริงคืออะไร "ม.ร.ว.ศรีคำรุ้ง ยุคล รัตตกุล" ขอตอบ...
“ช่วงนี้รับโทรศัพท์เยอะมาก มีการเข้าใจผิดหลายๆ อย่างค่ะ จริงๆ แล้ว วิดีโอเพลงสรรเสริญพระบารมีใครจะตัดต่อก็ได้ ไม่มีเวอร์ชั่นไหนถูกหรือผิด เพียงแค่เวอร์ชั่นที่ออกมาตอนนี้ไม่ใช่ของท่านมุ้ย เพราะว่าเวอร์ชั่นของท่านมุ้ยอยู่ในโพรเสสของการทำเสียง แล้วก็ตัดต่อ”
ทำไปได้กี่เปอร์เซ็นต์แล้วคะ
“คือ ฟุตเทจเยอะมาก ด้วยความที่เรามีกล้องเยอะมาก แล้วก็มีเทคนิคการถ่ายหลายๆ แบบ จะต้องมาวิวฟุตเทจ ตอนนี้ท่านพ่อตัดอยู่กับพี่หญิงนุ้ย แล้วก็วิ่งไปทำเสียงด้วย ก็ไปๆ มาๆ เร่งให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ค่ะ”
กรณีมีการเผยแพร่วิดีโอเพลงสรรเสริญพระบารมีที่ไม่ใช่ของเรา สร้างความเข้าใจผิดอย่างไรบ้าง
“ก็แค่มีคำถามมากมายมากกว่าค่ะ การที่คนอื่นออกมาทำก็เป็นสิ่งที่ดีนะคะ เพราะว่าทุกคนก็มีสิทธิ์ในฐานะประชาชนไทย ไม่ได้ผิดอะไร แค่ไม่ใช่เวอร์ชั่นของทางเราเท่านั้นเอง”
เวอร์ชั่นท่านมุ้ย จะได้ชมเมื่อไร
“หวังว่าจะเป็นอาทิตย์หน้าค่ะ แมงมุมได้โคกับทางกรมประชาสัมพันธ์ จะส่งทั้งวิดีโอเบื้องหลัง ภาพนิ่ง แล้วก็ตัวที่ตัดเต็มแล้ว ไปให้ทางโน้นเลย แล้วก็ ใครจะไปรับอะไร ก็ติดต่อทางโน้นไปเลย”
หลังจากมีวิดีโอเหล่านี้ออกมา ท่านมุ้ยกังวลหรือพูดอะไรบ้างไหม
“ท่านพ่อไม่ได้พูดอะไรเลย แค่พูดว่า ก็ไม่เป็นไร ก็ใครจะตัดเวอร์ชั่นของใครก็ได้ แค่นั้นเอง แต่ที่ออกมาพูด เพราะว่าคนถามเยอะมากกว่า ไม่ได้เกี่ยวกับทางท่านมุ้ย ทุกคนก็เร่งค่ะ ตอนนี้คนเต็มบ้านเลย ทำให้เร็วที่สุด เพราะทราบว่าทุกคนก็อยากดูแล้ว”
กดดันขนาดไหน ดูเหมือนว่าท่านมุ้ยคาดหวังกับภาพยนตร์เพลงสรรเสริญครั้งนี้มาก
“ก็คือ ทำให้ดีที่สุด ความตั้งใจเราดีอยู่แล้ว ตอนนี้ก็เหลือแค่ด้านเทคนิคมากกว่า คือภาพที่แมงมุมเห็น สวยมาก ก็ต้องขอบคุณประชาชนที่มาร่วมกันเยอะ ทีมงานเป็นส่วนน้อย จริงๆ สิ่งสำคัญตรงนั้นคือ ประชาชนที่มารวมตัวกันได้เยอะขนาดนั้น ทำให้งานทุกอย่างออกมาได้ดีตามที่เราหวังกันไว้”
ส่วนที่ยากที่สุดคือส่วนไหน
“ยากหมดทุกส่วน เรามีเวลาน้อย ในการเตรียมงาน แล้วก็เป็นงานสเกลใหญ่พอสมควร แต่ว่าทุกคนมีความตั้งใจดี ตั้งใจจะทำงานนี้ให้ออกมาสมบูรณ์ที่สุด ก็ทำให้ปัญหาต่างๆ ที่เข้ามาไม่ได้คิดว่าเป็นปัญหา แค่คิดถึงทางแก้ อย่างเดียว”
ตัดต่ออยู่ที่ไหนคะ ตอนนี้
“ที่บ้าน ที่ออฟฟิศ ค่ะ”
ตอนที่ได้เห็นวิดีโอเพลงสรรเสริญของคนอื่นที่ทำมา รู้สึกอย่างไร
“เขาแชร์มา เราก็เปิดดู ความรู้สึกคือ ดูเวอร์ชั่นของใครก็ขนลุก มันเป็นภาพประชาชนที่มารวมกัน เห็นถึงความสามัคคี เห็นถึงความจงรักภักดี เห็นถึงความอาลัยที่เรามีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ค่ะ ไม่ว่าจะเป็นเวอร์ชั่นไหน สิ่งที่เห็นเหมือนกันก็คือความรัก ความจงรักภักดีที่คนไทยมีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว”
ภาพที่ออกมา บางคนเชื่อว่ามาจากทีมงานของท่านมุ้ย จริงไหม
“คือเราไม่มีเวลาไปนั่งเสาะหา หรือไปถาม ว่าเป็นของใครนะคะ แต่ทางทีมงานเราไม่น่าจะใช่ เพราะเราได้คุยกันตั้งแต่แรกอยู่แล้วว่า เอาฟุตเทจของเราทำให้เสร็จก่อนนะ แล้วทีหลัง ใครจะไปเผยแพร่ก็เป็นสิทธิส่วนบุคคล”
ยืนยันว่าภาพที่เห็น ไม่ใช่ของทีมงาน
“ไม่ใช่ค่ะ”
ย้อนกลับไปวันที่ทำงานนิดหนึ่ง บรรยากาศเป็นอย่างไร
“ตอนที่ทำงาน ทุกคนก็มีหน้าที่ของตัวเอง ต่างคนต่างทำ ก็ไม่ค่อยได้คุยกันเท่าไร ไม่ค่อยได้เจอกัน ก็คิดอย่างเดียวว่า อยากให้งานออกมาดี”
ฝนตก แต่มีสิ่งมหัศจรรย์เกิดขึ้น ?
“คือฝนตก แต่หยุด ตอนนั้นก็สี่ทุ่ม คือไม่ได้ดูเวลาหรอก ตอนกี่โมง พอถ่ายเสร็จก็มีคนมาบอกว่า รู้เปล่าว่าฝนหยุดตอนสี่ทุ่ม เราก็ทำงานปกติ ไม่มีเวลาไปคิดอะไรตอนนั้น คือ เอาตรงนั้นให้เสร็จ ให้ดี ตามที่เราตั้งใจไว้แค่นั้นเอง”
ได้เห็นงานทั้งหมดแล้ว รู้สึกอย่างไร
“ทุกรูปที่พี่ๆ ช่างภาพนิ่งส่งมา เพิ่งทยอยส่งมากัน ไม่มีรูปไหนไม่ประทับใจ ไม่มีรูปไหนไม่สำคัญ คือ มันเป็นความตั้งใจจริงๆ ทุกคนที่ได้มีส่วนหนึ่ง รวมถึงประชาชนด้วย แม้กระทั่งคนที่ยืนร้องเพลงอยู่ที่บ้าน ก็คงรู้สึกเหมือนกัน ถึงความภาคภูมิใจว่า ความสามัคคีของคนไทยเหมือนที่ท่านเคยดำริเอาไว้ว่าให้คนไทยสามัคคีต่อกัน เราได้ทำสิ่งนี้ให้ทุกคนเห็นว่า เราทำได้”
ฟุตเทจเยอะขนาดไหน
“เยอะมาก ไม่ทราบว่าจะได้กี่เวอร์ชั่น แต่เยอะมากจริงๆ แล้วก็สวยหมดเลย ก็กำลังคุยกันอยู่ว่า อาจจะมีเพิ่มๆ ขึ้นมา อยากให้ทุกคนได้เห็นภาพสวยๆ ที่เราร่วมทำกันมา”
จะเผยแพร่ภาพเบื้องหลังด้วยใช่ไหม
“มีวิดีโอเบื้องหลัง กำลังตัดต่ออยู่ค่ะ แล้วก็มีภาพนิ่ง ที่ทยอยลงบ้างนะคะ เราก็พยายามไม่ลงเยอะมาก เดี๋ยวคนว่าทำไมลงถี่จัง ตอนนี้ทำโปรเจ็กท์นี้ก่อนให้เสร็จสมบูรณ์ ตามที่ทุกคนคาดหวัง ทุกคนรอดู ขอทำเวอร์ชั่นหนึ่งให้เสร็จสมบูรณ์ก่อน แล้วเวอร์ชั่นอื่น หรือแบบอื่นจะออกมาแบบไหน เดี๋ยวคงต้องถามท่านพ่ออีกที”
อยากบอกอะไรกับประชาชนบ้าง
“อยากขอบคุณมากๆ อยากให้ทุกคนเห็นภาพจังเลย ว่า...ภาคภูมิใจที่เกิดเป็นคนไทย น่าภูมิใจที่ภายในสามวันเอง เราสามารถรวมกำลัง เพราะฉะนั้น เราทำอะไรก็ได้แล้วล่ะ มันอยู่ที่ความตั้งใจ อยู่ที่จุดประสงค์ เมื่อเรามีจุดประสงค์เหมือนกัน หัวใจเราอยู่ตรงนั้น แล้วทุกคนรวมพลังไปอยู่ตรงนั้น ทำให้เราเห็นความยิ่งใหญ่ว่าคนไทยแข็งแรงแค่ไหน สามัคคีกันแค่ไหน”
อยากให้พูดแทนทีมงานเบื้องหลัง ถึงการควบคุมคนจำนวนมาก มีบางคำพูดทำให้บางคนไม่พอใจ อยากบอกอะไร ภาวะการณ์ตรงนั้นเป็นอย่างไร
“คือเรื่องเชิญออกนี่ แมงมุมเลยค่ะ เป็นตัวเมน คือแมงมุมมีบัตรสต๊าฟให้ ถ้าพี่ๆ ได้เห็นเต็นท์ตรงนั้นเล็กมาก สำหรับทีมงาน 1300 ชีวิต มีทั้งน้ำ ทั้งอาหาร มีทั้งรถห้องน้ำ รถพยาบาท มอนิเตอร์อีก กล้องอีก ทีมออร์เคสตร้า 200 คน ทีมคอรัสอีก 130 คน มันอยู่กันไม่พอแล้ว เมื่อคนของเราเหนื่อย แล้วไม่มีที่นั่ง เราต้องมีอาหารให้เขาทาน เมื่อเรารู้จำนวนพวกนี้เราได้เตรียมเก้าอี้ อาหาร เครื่องดื่ม พอกับคนจำนวนของเรา เมื่อมีคนนอกเข้ามา เราก็ต้องให้ออกไปจริงๆ เพราะเรา ทำงานไม่ได้
ก็ใช้หลายวิธีค่ะ ขออนุญาตเชิญ หลังๆ เราไม่มีเวลา ก็ให้ทีมงานไปช่วยเขิญ ถ้าคนหนึ่งคนมีผู้ติดตาม 3 คน มันอยู่ไม่ได้จริงๆ ค่ะ คือถ้าเราให้คนหนึ่งอยู่ คนอื่นก็ต้องได้อยู่ ตอบคำถามยังไง ทำไมอาชีพนี้ดีกว่าอาชีพอื่นหรือ คนนี้สำคัญกว่าประชาชนข้างนอกตากแดดยังไง คุณตอบคำถามเขาไม่ได้ เพราะฉะนั้น ไม่มีใครได้อยู่ค่ะ แมงมุมบอกตั้งแต่ตอนแรกแล้วว่าจะไม่มีการแบ่งโซน จะไม่มีใครสำคัญกว่าใคร ทุกคนมาให้ฐานะประชาชนของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพราะฉะนั้นต้องเท่าเทียมกันค่ะ คือถ้าไม่พอใจก็ต้องขอโทษด้วยนะคะ แต่ว่ามันเป็นการทำงานค่ะ
ก่อนหน้านี้ ได้คุยกับพี่เอ็มมาแล้ว พี่เอ็มก็ฝากขอโทษ เขาคิดวิธีกองถ่าย ถ้าจะพูดเสียงดังไป หรือพูดอะไรที่คนอาจจะไม่พอใจ แต่จุดประสงค์เดียวกันค่ะ อยากให้งานออกมาดี ต้องการให้ทุกอย่างออกมาสมูทที่สุด สวยที่สุด โอ้โห. คนเป็นแสนๆ คนน่ะ ทีมงานเรามีอยู่แค่นี้ เราจะสื่อสารกับเขายังไง เราจะกระซิบบอกเขา มันเป็นไปไม่ได้ พูดให้ชัดเจนที่สุด พูดให้ดังที่สุด เพื่อทุกคนจะได้รับรู้ข่าวสาร ที่เราต้องการจะสื่อ พร้อมๆ กัน เหมือนๆ กัน”
ปัญหาดราม่ามีผลกระทบไหม
“พอทุกคนเห็นผลงานก็ไม่มีใครสนแล้วนะ เราก็คุยกันว่า เราทำงานของเราดีที่สุดแล้ว เราทำหน้าที่ของเรา เราไม่ได้ไปก้าวก่ายเขา หรือ ไปเบียดเบียน หรือ ทำอะไรที่ไม่มีเหตุผล เรามีเหตุผลในการทำทุกอย่างค่ะ เราใช้วิธีการพูดดีๆ ด้วย แมงมุมเห็น แมงมุมคอยดูทีมตลอด เขาพยายามมากเลยล่ะค่ะ แต่มันก็ต้องมีบ้าง ก็คนมันเยอะ
ก็ถ้าทางทีมงาน แล้วก็แมงมุมด้วย ทำอะไรให้ใคร หรือผิดพลาดอะไร ก็ขอโทษมาตรงนี้ด้วย แต่ก็เหมือนที่บอกเมื่อกี้ จุดประสงค์เดียวกันค่ะ ให้งานออกมาดีที่สุด”
